ถ้าข้าวหอมมะลิ105 ถูกยกให้เป็นของดีอ.พร้าว จ.เชียงใหม่ หอมหัวใหญ่ก็ไม่ต่างกัน จะต่างก็แค่ราคาที่ลูดลงมาจนแทบเกษตรกรผู้ปลูกหอมร้องจ๊ากแทบจะทุกปี จุดเด่นหอมหัวใหญ่อ.พร้าวจะต่างจากพื้นที่อื่นตรงที่ผลไม่เล็กไม่ใหญ่เกิน เปลือกบาง มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ผู้บริโภคชอบ ตลาดต้องการมาก
ทว่าปีนี้(2566) กลับโชคดีที่กรมการค้าภายได้ กระทรวงพาณิชย์ผนึกผู้ประกอบการลงพื้นที่ซื้อหอมหัวใหญ่จากกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศ กว่า 33,507 ตันในโครงการบริหารจัดการพืช 3 หัวในราคานำตลาดตามนโยบาย”ตลาดนำการผลิต”ของรัฐบาลผ่านแนวคิด”อมก๋อย โมเดล”ที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากระทรวงพาณิชย์มุ่งช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรเพื่อแก้ปัญหาในเรื่องราคาผลผลิตตกต่ำ
ปัจจุบันแหล่งปลูกหอมหัวใหญ่อยู่ในหลายพื้นที่ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย นครสวรรค์ กาญจนบุรีและแม่ฮ่องสอน แต่กว่าร้อยละ65 อยู่ในพื้นที่จ.เชียงใหม่ ประกอบด้วย 3 อำเภอได้แก่ อ.แม่วาง อ.ฝาง และอ.พร้าว โดยเริ่มทยอยเก็บเกี่ยวผลิตมาตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2566 ที่อ.แม่วาง คิกออฟ(Kick off)โดยนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ
จากนั้นกลางกุมภาพันธ์ 2566 มาคิกออฟ(kick off)ที่อ.ฝาง โดยอธิบดีกรมการค้าภายใน นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยมเช่นกัน และล่าสุด(ณ วันที่ 9 มี.ค.66)อ.พร้าว คิกออฟ(kick off) เป็นจุดสุดท้าย โดยรองอธิบดีกรมการค้าภายในนายกรนิจ โนนจุ้ย นำผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อหอมหัวใหญ่ถึงแหล่งผลผลิต






