เวลาประมาณ 19.40 น. วันที่ 14 ธ.ค. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.อนุพันธ์ กันถารัตน์ ผกก. สภ.เชียงแสน พ.ต.ท.กิตติภูมิ กันจินะ รอง ผกก.สส. สภ.เชียงแสน ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการนัดส่งมอบซื้อขายยาบ้ากันบริเวณท้ายหมู่บ้านป่าสักน้อย ม.13 ต.ป่าสัก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย จึงได้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย ร.ต.ต.ระพิพงศ์ กันธิพันธุ์ พร้อมด้วย ด.ต.วิรัตน์ ปาละมะ ด.ต.สมภพ ภู่สุวรรณ์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันออกตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง
จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น. ได้ตรวจสอบถึงบริเวณถนนท้ายหมู่บ้านป่าสักน้อย ม.13 ต.ป่าสัก อ.เชียงแสน ซึ่งเป็นที่เปลี่ยวลับตาคน พบนายต้อม อายุ 44 ปี ชาวบ้าน ต.จันจว้าใต้ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ ไอ สีดำ ทะเบียน เชียงราย เข้ามาจอดบริเวณป่ากล้วยข้างถนน ท่าทางมีพิรุธน่าสงสัย เจ้าหน้าที่จึงแสดงตนเข้าทำการตรวจสอบโดยขอทำการตรวจค้น จากการตรวจค้นตัวและรถจักรยานยนต์ที่นายนิรันเดชขับขี่มา ผลการตรวจค้นพบยาบ้าของกลางลักษณะแบ่งบรรจุเป็นซองเล็กๆ จำนวนไม่ไม่เท่ากัน แบ่งเป็น ยาบ้าจำนวน 106 เม็ด บรรจุในตลับพลาสติกพันด้วยเทปกาวสีเขียว ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าด้านในช้างช้ายของเสื้อแจ็คเก็ตแขนยาวสีดำที่นายต้อมสวมใส่อยู่ และ ยาบ้าจำนวน 1,810 เม็ด ไอซ์ จำนวน 5 ถุง น้ำหนักประมาณ 4.13 กรัม ซุกซ่อนกระเป๋าคาดเอวสีดำที่นายต้อมสะพายอยู่ และยังมียาบ้าของกลาง จำนวน 6 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ที่เสาไฟฟ้าข้างถนน รวมของกลางยาบ้าจำนวน 1,922 เม็ด และไอซ์ จำนวน 5 ถุง น้ำหนักประมาณ 4.13 กรัม
และนายต้อมยังให้การรับว่ายาบ้าของกลาง จำนวน 6 เม็ด ที่ซุกซ่อนที่เสาไฟฟ้านั้นก็เพื่อส่งให้ น.ส.ปู ชาวบ้าน ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย มารับไปตามที่ น.ส.ปู ได้สั่งซื้อยาบ้าจากตน จำนวน 6 เม็ดราคา 200 บาท โดยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ธกส. ของนายต้อม เบื้องต้นนายต้อมให้การรับสารภาพว่ายาบ้าทั้งหมดเป็นของตนเอง โดยรับมาจากนายเนส ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง อายุประมาณ 50 ปี ไม่ทราบที่อยู่ โดยนายเนสได้โช้โทรศัพท์มือถือโทรติดต่อเพื่อนำยาเสพติดของกลางทั้งหมดมาส่งให้ตนที่บ้านพัก แล้วตนก็จะนำยาบ้าดังกล่าวไปจำหน่ายให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อตามที่ต่างๆ โดยการโทรนัดหมายและนัดหมายผ่านทางแอปฯเฟสบุ๊ก Messenger และยังรับสารภาพว่าตนเองได้เสพยาบ้ามาจำนวน 2 เม็ด เมื่อช่วงเย็นวันนี้
และขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการจับกุมนายต้อมอยู่นั้น ได้มีหญิงสาวทราบชื่อต่อมาว่า น.ส.ปู อายุ 37 ปี ชาวบ้าน ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซุกิ สภาพเก่า สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาจอดบริเวณที่เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ ท่าทางมีพิรุธน่าสงสัย เจ้าหน้าที่จึงแสดงตนเข้าทำการตรวจสอบ เบื้องต้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่เมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามถึงพฤติการณ์เกี่ยวกับยาเสพติด น.ส.ปู ให้การว่าตนเองได้ติดต่อขอซื้อยาบ้าจำนวน 6 เม็ด จากนายต้อม โดยวันนี้ได้โอนเงินจำนวน 200 บาท เข้าบัญชีธนาคาร ธกส. ของนายต้อม โดยนัดหมายส่งยาบ้ากันบริเวณที่ถูกจับกุมนี้ และยังรับสารภาพว่าตนเองได้เสพยาบ้ามาจำนวน 1 เม็ด เมื่อวานนี้
เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะของนายต้อมและ น.ส.ปู เบื้องต้นปรากฎผลเป็นบวก และได้ส่งปัสสาวะของนายทั้งคู่ไปตรวจยืนยันผลที่ รพ.เชียงแสน ปรากฎผลยืนยันเป็นบวก มีสารเมทแอมเฟตามีนในร่างกายจริง
จนท.จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นายต้อมว่ามีความผิดตาม พรบ.ยาเสพติดฯ คือ “จำหน่ายยาเสพติดโห้โทษในประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, เป็นผู้ขับขี่ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย” และได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ น.ส.ปู ว่า “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, เป็นผู้ขับขี่ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย” นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
