“อัยการนนทบุรี” เผยศาลเตรียมแยกสำนวนคดี “แตงโม” ยันมีพยานหลักฐาน เอาผิด “ปอ-โรเบิร์ต” ได้

อัยการจังหวัดนนทบุรี เผยศาลเตรียมแยกฟ้องสำนวนคดี ‘แตงโม นิดา’ ตกเรือเสียชีวิต ในส่วนของกลุ่มจำเลยที่ยังให้การปฏิเสธ 17 มี.ค. นี้ เชื่อพยานหลักฐานที่มี จะสามารถเอาผิดจำเลยทั้งสองสำนวนได้ ยอมรับตำรวจภูธรภาค 1 ทำสำนวนคดีมาค่อนข้างครบถ้วน

10 มี.ค. 66 นางสาวสุภาภรณ์ นิปวณิชย์ อัยการจังหวัดนนทบุรี หรือ “อัยการดาว” ผู้ดูแลสำนวนคดีการเสียชีวิต “เเตงโม นิดา” ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว เกี่ยวกับคดีของดาราสาวแตงโมนิดา หลัง ปอและโรเบิร์ต จำเลยที่ 1 และที่ 2 ในคดี ได้กลับคำให้การ โดยยอมรับสารภาพตามข้อกล่าวหาของอัยการ ในข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

 

ขณะที่จำเลยที่ 3-6 ยังคงให้การปฏิเสธนั้น ศาลได้สั่งให้อัยการแยกคดีออกเป็น 2 ส่วน คือในส่วนของจำเลยที่ 1 และ 2 ที่ให้การับสารภาพไปแล้ว แยกออกจากจำเลยที่ 3-6 ที่ยังคงให้การปฏิเสธต่อสู้คดี และให้ทำเรื่องส่งฟ้องเข้ามาใหม่ ภายในระยะเวลา 15 วัน โดยทางอัยการจะทำเรื่องส่งฟ้องจำเลยที่ 3-6 ในวันที่ 17 มีนาคม 66 นี้ ในข้อหาเดิมตามที่พนักงานสอบสวน ได้ทำการสอบสวนและส่งสำนวนมา ซึ่งทุกอย่างได้เตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว

 

นางสาวสุภาภรณ์ ยังกล่าวต่อไปว่า ส่วนจำเลยที่รับสารภาพในสำนวนเดิม ศาลจะอ่านคำพิพากษาก่อนในวันที่ 10 พ.ค.66 นี้ ดังนั้นสำนวนบางสำนวนยังอยู่ในสำนวนเดิม ซึ่งถ้าคดีเดิมยังไม่ทราบผลของคำพิพากษา ไม่ว่าศาลจะตัดสินลงโทษหรือรอการลงโทษ จะไม่สามารถก้าวล่วงอำนาจศาลได้ และเมื่อศาลตัดสินแล้วคดียังไม่ถึงที่สุดก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายจำเลยว่า จะอุทธรณ์คำพิพากษาหรือไม่ ถ้าไม่อุทธรณ์หรืออัยการอุทธรณ์ก็ต้องรอผลการพิพากษาของศาลในอนาคตก่อน

ข่าวที่น่าสนใจ

ดังนั้น ในขั้นตอนของจำเลยที่ 1 และ 2 ถามว่าคดีถึงที่สุดมั้ยตอนนี้มีสิทธิ์ทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลย ซึ่งตอนนี้คุณแม่ของคุณแตงโม ได้ขอยื่นคำร้องเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมแล้ว และศาลก็มีคำสั่งให้คุณแม่เข้ามาเป็นโจทก์ร่วมแล้ว ในส่วนของคู่ความที่เป็นโจทก์ร่วม ก็มีสิทธิ์ที่จะดำเนินคดีในส่วนของคุณแม่ แต่สำนวนของพนักงานอัยการที่ยื่นไปถือเป็นสำนวนหลัก ข้อหาเดิมที่ยื่นไปก็ถือเป็นข้อหาหลัก อย่างไรก็ตาม ในคดีเดิมของจำเลยที่รับสารภาพ มีการคุยในชั้นศาลอยู่ก่อนแล้ว เป็นการยอมรับสารภาพในเรื่องของความประมาท เนื่องจากเป็นการนั่งเรือและมีการดื่มแอลกอฮอล์หลายชั่วโมงติดต่อกันในแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร ซึ่งจำเลยทั้งสองก็ยอมรับตามคำฟ้องในเรื่องความประมาท

 

 

 

 

 

นอกจากนี้อัยการดาว ยังเปิดเผยว่า ในส่วนของสำนวนที่พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวภูธร ภาค1 ทำมานั้น มีความรอบคอบรัดกุมในทุกประเด็น เชื่อได้ว่า จะสามารถเอาผิดจำเลยได้ แต่เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีที่มีความพิเศษเฉพาะตัว เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นบนบกเหมือนกับคดีอื่น ๆ แต่เกิดขึ้นภายในแม่น้ำ จึงต้องมีการแสวงหาหลักฐานเพิ่มเติมนานเป็นพิเศษ อีกทั้งเป็นคดีที่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและมีการให้ข่าวจากแหล่งต่าง ๆ จนทำให้เกิดข้อสงสัยมากมาย ซึ่งพนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้แสวงหาพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงเพื่อต่อประเด็นต่าง ๆ เหล่านี้ซึ่งไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ในสำนวนคดี แต่ถือว่าเป็นการไขข้อสงสัยของประชาชนและโลกโซเชียล

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"การเคหะฯ" Kick off พัฒนาศักยภาพด้านอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้
หนุ่มใหญ่โคราชดวงเฮง ซื้อลอตเตอรี่ 2 ใบ ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 12 ล้านบาทเผยซื้ออัดมาทุกงวดงวดละ 2 พัน แต่รอบนี้เพียง 200 บาท
ไม่ธรรมดา "คุณหญิงพจมาน" โผล่เพื่อไทย ร่วม "อุ๊งอิ๊ง" ปลุกใจสส. สมาชิกพรรค สู้ๆ
ป่วนไม่เลิก! "ชาวกัมพูชา" กว่าครึ่งร้อย บุก "บ้านหนองหญ้าแก้ว" รื้อรั้วลวดหนาม "ทหารเขมร" ยืนคุมเชิง เข้าใจผิดคิดว่า "ทหารไทย" ขยายพื้นที่กั้นเขตแดน
ปทุมธานี-ทนายวัดนาป่าพงโต้ข่าวยักยอกเงิน 12 ล้าน ยันตั้งมูลนิธิพุทธวจนที่เยอรมนี
ชป.พิเศษ กก.3 บก.ป.สกัดจับอะโวคาโดไม่ผ่านพิธีการศุลกากร กว่า 4,300 กิโลกรัม พร้อมด้วยรถยนต์ 2 คัน ผู้ต้องหา 2 ราย

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​