วันที่ 8 ส.ค. 64 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.)และโฆษก บช.น.แถลงสรุปผลการชุมนุมของที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมาเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ทั้งหมด 14 คน คืนที่ผ่านมามีผลการจับกุมเพิ่มเติมของกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนคนบาลสามารถจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 คน เป็นชาย 1 หญิง 1 พร้อมด้วยรถยนต์กระบะนาวาร่า สีชมพู ที่มีภาพมาร่วมชุมนุมและรถกระบะคันนี้เป็นรถรับจ้างนำส่งคนมาร่วมชุมนุม
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากบุคคลหนึ่งเพื่อจะขนคนมายังที่ชุมนุม อัตราค่าจ้างครั้งละ 1,200 บาท เมื่อวานนี้รับจ้างขนคนมาส่งที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและรอรับกลับ ขากลับถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว
ส่วนอาการของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ ส.ต.ต.นิตินัย ครองสม ผบ.หมู่ร้อย 3 กองกำกับการควบคุมฝูงชน กองบังคับการควบคุมฝูงชน แพทย์ ได้ทำการผ่าตัดนำหัวกระสุน ที่เมื่อวานสงสัยว่าเป็นหัวน็อตหรือลูกแก้ว วันนี้แพทย์ผ่าตัดนำหัวกระสุนออกมาแล้ว เบื้องต้นคาดว่าเป็นหัวกระสุนจากอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ กระสุนอยู่ในกล้ามเนื้อติดหลอมลมโชคดีที่เส้นเลือดไม่ฉีกขาด ต่อมไทรอยด์บางส่วนฉีกขาด ขณะแพทย์ได้เย็บต่อมไทรอยด์บางส่วนและทำการรักษาคนเจ็บรักษาตัวที่ห้องไอซียู รพ.ตำรวจ อยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัยแล้ว
รอง ผบช.น.กล่าวต่อว่า สำหรับนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ที่มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจได้ควบคุมตัวพร้อมพวก 4 คน นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ส่วนผู้ที่ร่วมก่อเหตุเผารถยนต์ควบคุมผู้ต้องขัง เราได้หลักฐานเป็นภาพจากประชาชนและสื่อมวลชนเป็นภาพที่ชัดเจนมาก เบื้องต้นทำการพิสูจน์ทราบว่าเป็นใครอยากให้ประชาชนหรือสื่อมวลชนที่มีข้อมูลแจ้งมายังกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ แล้วเราจะนำไปตรวจพิสูจน์นำเข้าสู่กระบวนการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ขอบคุณประชาชนและสื่อมวลชนที่แจ้งข้อมูลมายังเจ้าหน้าที่ทำให้ตำรวจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ส่วนการนัดหมายการชุมนุมครั้งต่อไปของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.ได้เตรียมกำลังเพียงพอกับการรักษาความสงบเรียบในทุกๆครั้ง โดยเฉพาะครั้งที่ผ่านมา ได้มีการเตียมกำลังให้เพียงพอกับการข่าวในการรักษาความสงบเรียบร้อยตามหน้าที่ของเรา