นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 กล่าวถึงความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลในการพิจารณาปรับลดงบประมาณกว่า 16,000ล้านบาทไปไว้ที่งบกลางว่า การที่กมธ.พรรคเพื่อไทยเห็นด้วยกับการนำงบ 16,000 กว่าล้านบาท ไปไว้ในงบกลางนั้น ไม่ใช่การตีเช็คเปล่าให้นายกฯ งบประมาณที่ปรับลดก้อนนี้ระบุวัตถุประสงค์ชัดเจนให้นำไปแก้ปัญหาช่วยเหลือประชาชนเรื่องโควิด ซึ่งกระบวนการเบิกจ่ายแต่ละจังหวัดต้องทำเรื่องขอมาตามความจำเป็นให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี จะเอาไปซื้ออาวุธหรือเรือดำน้ำไม่ได้ ถ้า ครม.หรือนายกฯเอาไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ก็ติดคุก พ้นตำแหน่งทั้งคณะ ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองด้วย ใครจะกล้าเสี่ยง ใครเป็นรัฐบาลต้องเอางบตัวนี้ไปทำงานต่อ อย่าคิดว่าพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว. กลาโหม จะได้ใช้งบตัวนี้ตลอดไป
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยเคยอภิปรายโจมตีรัฐบาลหลายครั้งเรื่องการให้นายกฯ มีอำนาจใช้งบกลางจำนวนมาก เหมือนการตีเช็คเปล่าให้นายกฯ แต่ทำไมครั้งนี้กลับเห็นชอบเรื่องเพิ่มงบกลาง นายอุบลศักดิ์ กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้ต้องเร่งช่วยเหลือประชาชนก่อน แล้วงบประมาณที่ตัดลดมา 16,000 กว่าล้านบาท จะเอาไปไว้ที่ไหน เอาไปทิ้งทะเลหรือ ยืนยันได้ว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยจากการเห็นชอบครั้งนี้ พรรคหรือส.ส.จะแปรญัตติไปเขียนโครงการเองไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญไม่ให้ทำ
นายอุบลศักดิ์ กล่าวว่า อยากให้พรรคก้าวไกลหยุดนำเรื่องนี้มาโจมตีได้แล้ว เพราะประชาชนรอคอยความหวังอยู่ การเห็นไม่ตรงกันถือเป็นความเห็นหลากหลาย แต่ยังทำหน้าที่ฝ่ายค้านร่วมกันได้ ไม่ได้คิดว่าคนที่ความเห็นไม่ตรงกันต้องเป็นศัตรู มั่นใจว่าไม่กระทบกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ยังทำงานร่วมกันได้ การที่พรรคเพื่อไทยโหวตให้นำงบไปไว้ในงบกลางครั้งนี้ ไม่ใช่การเตรียมจับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งสมัยหน้า ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ยังอยู่กับพลังประชารัฐ เราไม่เอาด้วยแน่ แต่ถ้าวันหน้าพล.อ.ประยุทธ์ไม่อยู่ พรรคพลังประชารัฐอาจมีแนวคิดเหมือนพรรคเพื่อไทยก็ได้ ทำไมต้องเป็นศัตรูกันถาวร