“ฮุน มาเนต” โพสต์เฟซบุ๊ก ปลอบใจชาวกัมพูชา ย้ำหยุดยิงไม่ได้แปลว่ายอมแพ้ แต่เพื่อลดการสูญเสีย ย้ำปักปันเขตแดนตามกลไก JBC ปัดให้ไทยยึดแล้วยึดเลย

“ฮุน มาเนต” โพสต์เฟซบุ๊ก ปลอบใจชาวกัมพูชา ย้ำหยุดยิงไม่ได้แปลว่ายอมแพ้ แต่เพื่อลดการสูญเสีย ย้ำปักปันเขตแดนตามกลไก JBC ปัดให้ไทยยึดแล้วยึดเลย

วันนี้(29 ธ.ค.) เมื่อเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ว่า ขอเรียนถึงพี่น้องทหารกล้า และตำรวจผู้กล้าหาญทุกนาย ตลอดจนพี่น้องประชาชนร่วมชาติอันเป็นที่เคารพและรักยิ่งทุกท่าน
วันนี้ ในนามของประมุขแห่งราชรัฐบาล ผมขอส่งสารถึงพี่น้องประชาชนทุกคน ในห้วงเวลาที่มาตุภูมิกัมพูชาอันเป็นที่รักของพวกเรา ต้องเผชิญและกำลังเผชิญโศกนาฏกรรมจากสงครามรุกรานอีกครั้ง หลังจากที่ประเทศได้รับสันติภาพอย่างสมบูรณ์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1998

ข่าวที่น่าสนใจ

กัมพูชาได้ผ่านเปลวไฟแห่งสงครามมาอย่างโชกโชนยาวนานหลายร้อยปี รวมถึงยุคฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ซึ่งทำให้ประชาชนกัมพูชาทุกคนตระหนักถึงคุณค่าที่แท้จริงของ “สันติภาพ” และในสถานการณ์เช่นนี้ เราไม่มีความปรารถนาอื่นใด นอกจากสันติสุขและโอกาสในการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า

ด้วยเหตุนี้ กัมพูชาให้ความสำคัญสูงสุดต่อ “สันติภาพและการพัฒนา” และยึดมั่นในการสนับสนุนและปฏิบัติตามระเบียบภูมิภาคและระเบียบโลกโดยสุจริต บนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ สนธิสัญญา อนุสัญญา และข้อตกลงต่าง ๆ ที่กัมพูชาเป็นภาคี โดยเฉพาะกฎบัตรสหประชาชาติและกฎบัตรอาเซียน เพื่อมุ่งหวังอยู่ร่วมกันอย่างสันติและเกื้อกูลกับทุกประเทศ ทั้งประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศในภูมิภาค และประชาคมโลก

ภายใต้จิตวิญญาณดังกล่าว ราชรัฐบาลกัมพูชายึดมั่นการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี และพยายามเจรจาในทุกรูปแบบ เพื่อยุติการเผชิญหน้าด้วยอาวุธ และกลับไปแก้ไขปัญหาเขตแดนผ่านกลไกทางเทคนิคและกรอบกฎหมายที่มีอยู่ ภายหลังความพยายามเจรจาอย่างอดทนสูงสุด กัมพูชาและไทยได้ตกลงกันในการประกาศ “หยุดยิงทันที ณ ที่ตั้ง” ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 12.00 น. วันที่ 27 ธันวาคม 2025 เป็นต้นไป

การตัดสินใจยอมรับการหยุดยิงนี้ มิได้หมายความว่ากัมพูชายอมแพ้ หรือยินยอมแลกบูรณภาพแห่งดินแดนกับสันติภาพ และยิ่งไม่ใช่การสูญเสียศักยภาพหรือการสละสิทธิในการป้องกันตนเอง ตรงกันข้าม การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่ากัมพูชาเลือกหนทางแห่งสันติภาพ และให้ความสำคัญสูงสุดกับชีวิต ความเป็นอยู่ และความปลอดภัยของประชาชน แม้ต้องเผชิญแรงกดดันหรือความยากลำบากใด ๆ ก็ตาม

แม้เรายังสามารถต่อสู้ต่อไปได้ แต่ในฐานะประเทศขนาดเล็ก เราไม่ได้ประโยชน์ใดเลยจากการยืดเยื้อของการสู้รบ ขณะนี้มีประชาชนผู้พลัดถิ่นมากกว่าครึ่งล้านคน รอวันที่จะได้กลับบ้าน เด็กหลายพันคนรอวันที่จะได้กลับไปเรียนหนังสือ และครอบครัวของทหารและตำรวจนับพันครอบครัว ต่างเฝ้ารอการกลับมาของบิดา สามี บุตร ญาติพี่น้อง จากสนามรบด้วยความห่วงใยยิ่ง
ดังนั้น ในเมื่อโอกาสในการแก้ไขข้อพิพาทชายแดนด้วยสันติวิธียังคงมีอยู่ ราชรัฐบาลจึงตัดสินใจเลือกการเจรจาเพื่อยุติการสู้รบ ก่อนที่สถานการณ์จะลุกลามใหญ่โตยิ่งกว่านี้ เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดและความสูญเสียของประชาชนให้ได้มากที่สุด และเพื่อยุติการเสียสละและการบาดเจ็บของทหาร ตำรวจ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งจนถึงขณะนี้ มีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 32 ราย และบาดเจ็บ 93 ราย

การ “หยุดยิงทันที ณ ที่ตั้ง” หมายความว่า กำลังทหารของทั้งสองฝ่ายต้องหยุดยิง และคงกำลังอยู่ ณ ที่ตั้งที่ตนประจำการอยู่ในขณะเริ่มบังคับใช้การหยุดยิง

ผมขอย้ำว่า การคงกำลังในพื้นที่ดังกล่าว ได้รับการรับรองร่วมกันอย่างเป็นทางการจากทั้งสองฝ่ายว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการกำหนดเส้นเขตแดนระหว่างสองประเทศ ซึ่งได้มีการระบุไว้อย่างชัดเจนในแถลงการณ์ร่วมของการประชุมพิเศษคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ระหว่างกัมพูชาและไทย ลงวันที่ 27 ธันวาคม 2025

แถลงการณ์ดังกล่าวยืนยันว่า เส้นเขตแดนระหว่างประเทศของกัมพูชาและไทย ยังคงยึดตามสนธิสัญญาและอนุสัญญาที่มีอยู่ และกัมพูชายังคงรักษาสิทธิอย่างสมบูรณ์ในการแก้ไขปัญหาเขตแดนกับฝ่ายไทย ตามกฎหมายระหว่างประเทศ และกลไกทวิภาคีที่มีผลบังคับใช้

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมทางบก (JBC) กลับมาดำเนินงานวัดและปักปันเขตแดนโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนที่ได้รับผลกระทบและเคยมีประชาชนอาศัยอยู่ เพื่อสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนตามแนวชายแดนของทั้งสองประเทศ

เงื่อนไขการหยุดยิงยังเปิดทางให้ประชาชนผู้พลัดถิ่นในพื้นที่ชายแดน สามารถเดินทางกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย มีศักดิ์ศรี และปราศจากอุปสรรค ผมได้สั่งการไปยังกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้จัดเตรียมพื้นที่ปลอดภัยและประสานงาน เพื่อให้พี่น้องผู้พลัดถิ่นสามารถกลับสู่ภูมิลำเนาได้โดยเร็วที่สุด ส่วนพื้นที่ที่ยังไม่ปลอดภัย รัฐบาลจะจัดหามาตรการรองรับต่อไป

ตามแถลงการณ์ร่วมนี้ หลังจากการหยุดยิงดำเนินไปครบ 72 ชั่วโมง ทหารกัมพูชา 18 นาย จะได้รับการปล่อยตัวกลับประเทศ สอดคล้องกับแถลงการณ์ร่วมกรุงกัวลาลัมเปอร์ ลงวันที่ 26 ตุลาคม 2025

แถลงการณ์ร่วมยังย้ำถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองฝ่ายในการส่งเสริมความร่วมมือด้านอื่น ๆ ต่อไป ภายใต้กลไกและข้อตกลงที่มีอยู่ และเป็นการสานต่อข้อตกลงเดิม อาทิ การหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2025 และแถลงการณ์ร่วมกรุงกัวลาลัมเปอร์
ในนามประมุขแห่งราชรัฐบาลกัมพูชา ผมขอขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อประเทศมิตรและประชาคมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศอาเซียน ภายใต้การประสานงานของมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน ที่มีบทบาทสนับสนุนอย่างแข็งขันตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน กัมพูชายืนยันจะปฏิบัติตามแถลงการณ์หยุดยิงนี้อย่างเต็มที่และจริงใจ และยินดีต้อนรับการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะบทบาทของผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT)

ผมขอแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้แด่พระบาทสมเด็จพระมหากษัตริย์แห่งกัมพูชา และสมเด็จพระราชินี พระวรราชมารดาแห่งชาติ ที่ทรงสนับสนุนราชรัฐบาลและทรงห่วงใยทุกข์สุขของพสกนิกรเสมอมา

ผมขอแสดงความขอบคุณอย่างลึกซึ้งต่อการเสียสละอันประเมินค่าไม่ได้ของทหารและตำรวจผู้กล้าหาญทุกนาย รวมถึงพระสงฆ์และประชาชนทุกคน ทั้งในและนอกประเทศ ที่ร่วมปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน คุณูปการเหล่านี้จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์กัมพูชาตลอดไป

ความสูญเสียและการหลั่งเลือดของวีรชนในสนามรบ เป็นเครื่องเตือนใจเราว่า “แตกแยกคือความตาย สามัคคีคือชีวิต” ดังสุภาษิตที่ว่า “มัดไม้หนึ่งกำไม่อาจหักได้” เราจึงต้องใช้ความยากลำบากครั้งนี้เป็นโอกาสรวมพลังสร้างชาติกัมพูชาให้เข้มแข็งและมั่นคงยิ่งขึ้น ภายใต้พระบรมโพธิสมภารแห่งองค์พระมหากษัตริย์

ประสบการณ์สงครามอันเจ็บปวดของกัมพูชาย้ำชัดว่า สงครามไม่อาจยุติด้วยสงคราม มีเพียงหนทางแห่งกฎหมาย สันติวิธี และความเข้าใจร่วมกันเท่านั้น ที่จะยุติความสูญเสียและความทุกข์ของประชาชนได้

ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่า จะยังคงเชื่อมั่นในราชรัฐบาล และร่วมแรงร่วมใจกัน ใช้คุณค่าของสันติภาพเพื่อพัฒนาตนเองและประเทศชาติ ให้กัมพูชาก้าวหน้าอย่างมั่นคง และยืนหยัดอย่างสง่างามในเวทีโลก

ท้ายที่สุดนี้ ขออำนวยพรแด่พระสงฆ์ทุกพระองค์ และพี่น้องประชาชนที่รักยิ่งทุกท่าน ประสบแต่พุทธพรและพรทั้งห้า คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ และปฏิภาณ มิให้เสื่อมคลายโดยประการทั้งปวง

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

พรรคไทยชนะ เปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ 3 ราย ส่ง สส.บัญชีรายชื่อ 28 คน “ณพล–ธวัช” คนชลบุรีติดโผ
ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานในพิธีเปิดแพรคลุมป้าย ฉลองเปิดศาลเจ้าเทียนโฮ่วเซี่ยเกง (ศาลอาม้า บ้านใหม่)
คนหนองมน–บางแสน ยืนเคียงข้าง “รองเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น ชู คำเดียวใจถึงใจ “ของแทร่”
นักท่องเที่ยวแห่ไหว้พระวัดสมานรัตนาราม คึกคัก สิ่งศักดิ์สิทธิ์–ของกิน–จุดพักผ่อนครบ
“ฮุน มาเนต” โพสต์เฟซบุ๊ก ปลอบใจชาวกัมพูชา ย้ำหยุดยิงไม่ได้แปลว่ายอมแพ้ แต่เพื่อลดการสูญเสีย ย้ำปักปันเขตแดนตามกลไก JBC ปัดให้ไทยยึดแล้วยึดเลย
บิ๊กหนุ่ม ภ.3 เชิดชูผลงานเด่น มอบรางวัลหน่วยงานปราบอาชญากรรมเข้ม ชื่นชมผลงานเป็นรูปธรรม

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​