วันที่ 6 ก.พ. 2566 จากกรณีที่เพจสมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราชลงคลิป น.ส.กนกวรรณ เรืองฤทธิ์ อายุ 16 ปี ร้องสื่อเงินหายจากบัญชี 14 ครั้งรวมกว่า 5 แสนบาทเมื่อวันที่ 5 พ.ย.2565 เพียง วันเดียว หลังจากทราบเรื่องในวันที่ 9 พ.ย. 2565 ในเช้าวันที่ 10 พ.ย. 2565 ได้แจ้งความตำรวจ สภ.ปากพนัง ผ่านมาก 3 เดือน คดียังไม่คืบหน้านั้น ล่าสุด น.ส.กนกวรรณ เรืองฤทธิ์ หรือ “น้องแม็ค” อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนสตรีปากพนัง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 3 ต.หูล่อง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมนายปรีชา ซ้ายอ่อน อายุ 33 ปี น้าชายและญาติ ๆได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากศูนย์ข่าวนคร 24 ชม. สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช โดยเล่ารายละเอียด เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ตนพร้อมพ่อและแม่ประสบอุบัติเหตุถูกรถชนท้าย ทำให้พ่อแม่เสียชีวิต ส่วนตนบาดเจ็บสาหัส นอนรพ.เกือบ 1 เดือน หลังจากออกจาก รพ.แล้ว ตนได้รับเงินจากประกันและ พ.ร.บ.จากอุบัติเหตุรวมเป็นเงินกว่า 2 ล้าน 9 แสนกว่าบาท โดนโอนทั้งหมดเงินเข้าบัญชีของธนาคารออมสิน สาขาปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ชื่อบัญชีของตน เลขบัญชี 020356396760 จากนั้นตนได้นำเงิน 1 ล้านบาทไปซื้อสลากออมสิม และอีก 1 ล้านบาทไปซื้อสลาก ธกส. เหลือเงินในบัญชีกว่า 9 แสนบาท ซึ่งที่ผ่านมาตนใช้จ่ายเกี่ยวกับเรื่องทุนการศึกษาของตน จนเหลือเงินบัญชี กว่า 5 แสนบาท เพื่อเก็บไว้ใช้จ่ายส่วนตัวและทุนการศึกษาและใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของตน ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2565 ตรวจพบว่าในวันที่ 5 พ.ย.2565 ที่ผ่านมา ได้มีเงินออกจากบัญชีของตนวันเดียวถึง 14 ครั้ง ตั้งแต่ 300-18,000 บาท รวมเป็นเงินสูญหายไปจากบัญชีจำนวน 511,100 บาท เหลือเงินในบัญชีแค่ 800 บาท วันที่ 10 พ.ย. 2565 จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ว่าเงินของตนได้ถูกดูดสูญหายไปกว่า 5 แสนบาท างตำรวจได้มีการติดต่อสอบถามข้อมูลจากธนาคารออมสิน สาขาปากพนัง โดยได้ข้อมูลว่า เป็นการทำธุรกรรมผ่านแอฟธนาคารออมสิน ในชื่อของ นส.กนกวรรณ เรืองฤทธิ์ ไปยังชื่อ นส.วราภรณ์ วิชาเหล็ก ต้นทางและปลายทางอยู่กรุงเทพมหานคร โดยเริ่มโอนออกครั้งแรก 300 บาทและเพิ่มยอดโอนเรื่อย ๆ ภายในวันเดียวกัน 4,800 บาท,6,900 บาท,9,600 บาท และเพิ่มยอดโอนออกอีกเป็น 12,900 บาท,18,900 บาท, 30,000บาท,10,000 บาท,38,000 บาท,81,000,120,000,180,000 และ 36,000 บาท รวมยอดเงินทั้งถูกโอนออกจากบัญชีทั้งหมด 511,100 บาท เหลือเงินไว้ให้ในบัญชีเพียง 800 บาทเท่านั้น
น.ส.กนกวรรณ กล่าวอีกว่า ตกใจมากเพราะที่ผ่านมาแม้ตนจะมีAppธนาคารออมสิน แต่ไม่เคยกดโอนไปไหนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่เคยกดลิงค์หรือไม่เคยเล่นเกมส์ออนไลน์อะไรเลย รวมทั้งไม่เคยกดรับสายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำให้รู้สึกงงและตกใจว่าเงินตนหายไปได้อย่างไรจนเกือบเกลี้ยงบัญชีกว่า 5 แสนบาท ทางธนาคารก็ไม่รับผิดชอบอะไร เข้าแจ้งความกับตำรวจก็ช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลย ผ่านมา 3 เดือนแล้ว ตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องนี้ได้ออกมาช่วยเหลือตนด้วย โดยเฉพาะหน่วยงานตำรวจไซเบอร์อยากให้ลงมาช่วยเหลือตนด้วย เพราะเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่ได้มาจากชีวิตพ่อและแม่ที่ต้องสูญเสียไป และเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาเพื่ออนาคตตัวเอง น.ส.กนกวรรณ กล่าว นายปรีชา ซ้ายอ่อน อายุ 33 ปี น้าชายของ น.ส.กนกวรรณ หริอ “น้องแม็ค” ทางธนาคารสงสัยว่าจะเป็นฝีมือคนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิดในการโอนเงิน แต่ตนและคนในครอบครัวยืนยันว่าทั้งตัวหลานสาว รวมทั้งตนและภรรยา ไม่มีใครทำธุรกรรมทางการเงินในบัญชีของน้องแม็คหลานสาว แน่นอน เมื่อธนาคารสงสัยคนในครอบครัว ตนและทุกคนในครอบครัวกมีสิทธิ์สงสัยเจ้าหน้าที่ธนาคาร โดยบัญชีปลายทางชื่อ น.ส.วราภรณ์ วิชาเหล็ก อยู่ในจังหวัดทางภาคเหนือ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบและสรุปให้ชัดเจนว่าเงินออกจากบัญชีน้องแม็คไปได้อย่างไร ผ่านมา 3 เดือนต้องยอมรับว่าทั้งธนาคารและตำรวจไม่ได้ให้ความมั่นใจหรือความคืบหน้าใด ๆ เลย โดยทางธนาคารน่าจะมีความรับผิดชอบและเร่งรีบในการดำเนินการให้มากกว่านี้ ส่วนตำรวจ สภ.ปากพนัง อาจจะมีข้อจำกัดในการสอบสวนสืบสวน จึงเรียกร้องให้ตำรวจไซเบอร์ที่มีความเชี่ยวชาญช่วยดำเนินการในเรื่องอย่างเร่งด่วน.
ไพฑูรย์ อินทศิลา/ จ.นครศรีธรรมราช