วันที่5 ส.ค. 2564 บริษัท แอสตร้าเซเนก้า ออกแถลงการณ์ ระบุว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า หนึ่งโดส มีประสิทธิภาพสูงในการลดความรุนแรงและการเจ็บป่วยในระดับที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์เบตาและเดลตา
บริษัท แอสตร้าเซเนก้า ได้ยกข้อมูลการใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ในเครือข่ายการวิจัยการสร้างภูมิคุ้มกันโรคของแคนาดา ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานสาธารณสุขของแคนาดาและสถาบันวิจัยสุขภาพแห่งชาติ แคนาดา ซึ่งแสดงประสิทธิผลของวัคซีนหลังจากฉีดเข็มแรกช่วยลดการเจ็บป่วยในระดับที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และป้องกันการเสียชีวิตที่เกิดจากการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เบตา-สายพันธุ์แกมมาได้ 82% และสายพันธุ์เดลตาได้ 87% รวมถึงสายพันธุ์อัลฟ่าได้ 90%
ทั้งนี้ ผลการทดสอบประสิทธิผลของวัคซีน หลังการฉีดเข็มแรกเพื่อป้องกันการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือการเสียชีวิตนั้น มีระดับตัวเลขที่ไม่แตกต่างกับวัคซีนอื่นๆ ที่นำมาทดสอบในการวิจัยครั้งนี้ โดยระยะเวลาในการติดตามผลยังไม่เพียงพอที่จะรายงานประสิทธิภาพหลังการฉีดเข็มที่สอง แต่มีงานวิจัยอื่นๆ ที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นหลังการฉีดวัคซีนเข็มที่สอง ตามคำแนะนำในการเว้นระยะเวลาระหว่างการฉีดวัคซีนเข็มแรกและเข็มที่สอง
ผลการวิเคราะห์จากการศึกษาครั้งนี้ เป็นการรวบรวมข้อมูลจากผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมทั้งหมด 69,533 คน ในช่วงระหว่างเดือนธันวาคม 2020 ถึงพฤษภาคม 2021 ในรัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา โดยแบ่งเป็นผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิดในสายพันธุ์ที่ไม่น่ากังวลจำนวน 28,705 คน และในสายพันธุ์ที่น่ากังวลจำนวน 40,828 คน