ธนาคารโลกลงพื้นที่ (Site visit) สอบถามประชาชนบริเวณก่อสร้างโครงการสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา

วันที่ 3 ก.พ. 2566 นายวีรเดช ชีวาพัฒนานุวงศ์ วิศวกรใหญ่กรมทางหลวงชนบท (ด้านสำรวจและออกแบบ) นายชัยยุทธ เขียวจันทร์ วิศวกรโยธาเชี่ยวชาญ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 12 นำผู้แทนธนาคารโลก (World Bank) สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ลงพื้นที่ Site visit “โครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา” ตำบลเกาะใหญ่ อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา – ตำบลจองถนน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ของกรมทางหลวงชนบท ณ ฝั่งเกาะใหญ่ จังหวัดสงขลา ตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยมี ดร.นาที รัชกิจประการ ประธานที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ( นายอนุทิน ชาญวีรกูล ) และคณะให้การต้อนรับและร่วมติดตามความคืบหน้าโครงการดังกล่าว มีจุดเริ่มต้นแนวสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา โดยเริ่มต้นจากแยกถนนทางหลวงชนบท พท.4004 ประมาณ กม. 3+300 บริเวณหมู่ 1 บ้านแหลมจองถนน ตำบลจองถนน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง แนวเส้นทางโครงการไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือข้ามทะเลสาบสงขลา มีจุดสิ้นสุดโครงการที่หมู่ 2 บ้านแหลมยาง ถนนองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ตำบลเกาะใหญ่ อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา รวมระยะทาง 7 กิโลเมตร ลักษณะโครงการเป็นงานก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลาพร้อมถนนเชื่อมต่อกับถนนโดยรอบทะเลสาบสงขลามีขนาด 2 ช่องจราจร ความกว้างผิวจราจรช่องละ 4 เมตร ไหล่ทางด้านละ 2.50 เมตร แบ่งทิศทางจราจรด้วยเครื่องหมายพื้นทาง (เส้นแบ่งทิศทางจราจรสีเหลือง) รูปแบบสะพานประกอบด้วยสะพานคานขึงและสะพานคานคอนกรีตรูปกล่องความหนาคงที่ ความกว้างช่วงสะพานสูงสุด 140 เมตร และความสูงช่องลอดแนวดิ่งเหนือระดับน้ำทะเลสูงเท่ากับ 18 เมตร ความยาวโครงสร้างสะพานรวม 6.600 กิโลเมตร มีวงเงินค่าก่อสร้างรวมทั้งสิ้น 4,841 ล้านบาท อัตราส่วนของแหล่งเงินกู้และเงินงบประมาณแบ่งเป็น 70:30 เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะสามารถพัฒนาโครงข่ายถนนให้สมบูรณ์มากขึ้น สามารถลดระยะในการเดินทาง ช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ทั้งจากการขนส่ง การท่องเที่ยว ช่วยเพิ่มช่องทางการค้าและการลงทุน ซึ่งจะนำสู่การเพิ่มจำนวนการจ้างงานในพื้นที่ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นเส้นทางอพยพและส่งความช่วยเหลือเมื่อมีภัยพิบัติได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปลายปี พ.ศ. 2566 และ แล้วเสร็จปี พ.ศ. 2569


สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่โครงการก่อสร้างและตัวแทนชาวประมงได้ให้ความเห็นว่า การก่อสร้างสะพานเป็นสิ่งที่ประชาชนรอคอยมานานกว่า 30 ปี และคาดว่าเมื่อสะพานดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม จะทำให้ประชาชนในพื้นที่มีความเป็นอยู่ดีขึ้น การเดินทางระหว่างจังหวัดโดยรอบจะได้รับความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย รวมถึงมองเห็นโอกาสในอนาคตหลายด้านไม่ว่าจะเป็นด้านสังคม เศรษฐกิจ และการขยายด้านการขนส่ง การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวของจังหวัด ซึ่งจะส่งผลดีตามมาอย่างแน่นอน

แสงอรุณ  เดชอนันต์/จ.พัทลุง

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สันติสุข" เทียบเจ็บ "ฮุน เซน" เหมือนคนคลั่งยา จับสมาชิกครอบครัวเป็นตัวประกัน ปลุกระดมทะเลาะไทย พาคนในชาติเดือดร้อนทั่วหน้า
วธ.เตรียมจัดใหญ่งานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย กลางใจกรุงเทพฯ มางานเดียวเหมือนได้เที่ยวทั่วไทย
เพื่อไทยกร้าวสุด "สส.อีสาน" เล่นใหญ่ เสนอกลางวงประชุมพรรค ลั่นถึงเวลาทวง "มหาดไทย" คืน
กลาโหมกัมพูชากล่าวหาไทยละเมิด MOU 2543
สถานทูตในอิหร่านเตือนคนไทยออกจากเตหะราน
ครม. เห็นชอบแต่งตั้ง "เกษร" เป็นผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย
อิสราเอลขู่คาเมเนอีระวังมีชะตากรรมเหมือนซัดดัม
ศน. ประกาศผลประกวดบรรยายธรรมระดับประเทศ 24 เยาวชนคนเก่ง รับโล่พระราชทาน "กรมสมเด็จพระเทพฯ"
“ไพบูลย์” ย้ำพปชร.ไม่ร่วมรัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์” หาก “ภูมิใจไทย” ถอนตัวจากพรรคร่วม
สร.รฟท. ลงพื้นที่อีสาน ให้กำลังใจทหาร "ตาเมือนธม" คารวะทำหน้าที่ ปกป้องอธิปไตยแผ่นดิน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น