นางออเดรย์ อซูเล ผู้อำนวยการทั่วไปของยูเนสโก ได้กล่าวว่า โอเดสซาเพิ่งถูกเพิ่มในรายชื่อมรดกโลกของยูเนสโก และอยู่ในรายชื่อมรดกโลกที่ตกอยู่ในอันตราย โดยเรื่องนี้ เป็นคำร้องขอของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เมื่อเดือนตุลาคม สำหรับโอเดสซานั้น เป็นเมืองที่ทิ้งร่องรอยไว้ในประวัติศาสตร์หลายอย่าง ทั้งวรรณกรรม ภาพยนตร์ และศิลปะ มันคือ เมืองท่า เมืองแห่งการผสมผสานอิทธิพลที่หลากหลาย อิสรภาพ และโศกนาฏกรรม ต่อจากนี้ โอเดสซาจะอยู่ภายใต้การคุ้มครองที่เข้มแข็งของประชาคมระหว่างประเทศ ความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นกับเมืองประวัติศาสตร์แห่งนี้โดยเจตนา จะเป็นการละเมิดข้อผูกพันทางกฎหมายระหว่างประเทศ
อซูเลกล่าวต่อว่า ในขณะที่สงครามกำลังดำเนินต่อไป การประกาศให้โอเดสซาเป็นมรดกโลก สะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของเรา ที่จะปกป้องเมืองนี้จากการทำลายล้างที่มีความรุนแรงขึ้น สำหรับการลงคะแนนให้โอเดสซา หรือที่ถูกเรียกว่าไข่มุกแห่งทะเลดำ ได้เป็นมรดกโลกนั้น สมาชิก 21 ประเทศของยูเนสโก ได้มีการลงมติเห็นชอบ 6 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง และงดออกเสียง 14 เสียง ซึ่งรัสเซียก็พยายามคัดค้านการลงคะแนนในครั้งนี้ แต่ไม่สำเร็จ
สำหรับเมืองท่าโอเดสซานั้น มีขึ้นในปีสุดท้ายของศตวรรษที่ 18 สถานที่ตั้งของโอเดสซาอยู่บนชายฝั่งทะเลดำ ทำให้โอเดสซากลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในจักรวรรดิรัสเซีย และด้วยสถานะของการเป็นศูนย์กลางทางการค้า ทำให้โอเดสซา เป็นหนึ่งในเมืองที่มีความเป็นสากลมากที่สุด ในยุโรปตะวันออก ทั้งนี้ โอเดสซานับว่าเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวหลักแห่งหนึ่งของยูเครนก่อนการรุกรานของรัสเซีย แต่ขณะนี้ พื้นที่แถวทะเลดำได้กลายเป็นพื้นที่สู้รบ และมีทุ่นระเบิดอยู่ในทะเล ที่ยังคงถูกซัดเข้ามาใกล้ชายฝั่งของเมืองเป็นครั้งคราวไป