ที่ จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม กำลัง เจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมกับชุดสืบสวนภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เข้าบุกเข้าจับกุมนายอาทิตย์ กลิ่นขจร อายุ 25 ปี หรือเกอร์ บ้านบึง นักโทษชาย รายที่ 5 ที่แหกคุกจากเรือนจำสุพรรณบุรี ได้ภายในห้องพักรีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี พร้อม น.ส.ตติยา (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปีภรรยาของนักโทษชายอาทิตย์ พร้อมลูกชายอายุ1 ขวบภรรยาและลูกชายวัย 1 ขวบเศษ ขณะทั้ง 3พ่อแม่ลูกกำลังนั่งอยู่ภายในห้อง โดยไม่มีการต่อสู้และขัดขืนแต่อย่างใด จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวทั้งสองสามีภรรยาและลูกชายวัย 1 ขวบเศษเศษ และยึดรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีเทาดำ ทะเบียน 205 ไม่ทราบหมวดอักษร ที่เป็นพาหนะในการพานักโทษชายอาทิตย์ หลบหนี แต่ป้ายทะเบียนถูกถอด เจ้าหน้าที่ยกขึ้นรถรีบกลับมายังเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี ทันทีโดยเจ้าหน้าที่ได้แยกตัวขึ้นรถคนละคัน
เมื่อมาถึงเรือนจำเจ้าหน้าที่ได้พาตัวเข้าห้องประชุมของเรือนจำ มีนายสมศักดิ์ เขียวอ่อน ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งรออยู่แล้วได้ให้พยาบาลประจำเรือนจำทำการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด 19 จากนักโทษชายอาทิตย์ และน.ส.ตติยา อายุ 27 ปีภรรยาของนักโทษชายอาทิตย์ ทันทีและผลการตรวจพบว่าเป็นลบ จากนั้นได้ทำการสอบปากคำเบื้องต้นได้ความว่าหลังจากที่นักโทษชายได้แหกคุกหนีออกไปได้ แล้วได้พยายามหาทางติดต่อกับ น.ส.ตติยา ภรรยา เพื่อให้พาหนีโดยก่อนหน้านั้นได้หลอกชาวบ้านที่ไปเฝ้านาข้าวช่วงกลางคืนว่า เพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำ และใส่โซ่ตรวจที่ที่ขาเดินแก้บน จะไปบ้านที่ ต.ดอนคา อ.อู่ทอง ชาวนาหลงเชื่อและขี่รถจักรยานยนต์ไปส่ง จากนั้นได้เข้าไปขอยืมโทรศัพท์จากชาวบ้านโทร แม่และภรรยา เพื่อนัดหมายให้มารับ
กระทั่งเช้าวันที่ 2 สิงหาคม ช่วงเวลาประมาณ 07.30 น. น.ส.ตติยา ได้ขี่รถจักรยานยนต์ ออกจากบ้านที่ ต.บ้านโพธิ์ พร้อมลูกชายวัย 1 ขวบเศษไปรับนักโทษชายอาทิตย์ ในพื้นที่ ต.ดอนคา หลบหนีหวังจะไปอาศัยเครือข่ายยาเสพติดที่รู้จักกันในพื้นที่ อ.อู่ทอง และ อ.ด่านช้าง หวังกบดาน แต่ไม่มีใครกล้าให้ที่หลบซ่อนเนื่องจากเป็นผู้ต้องหารายสำคัญที่กำลังเป็นข่าวโด่งดังมีภาพชัดเจน จึงตัดสินใจมุ่งหน้าเข้าพื้นที่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ระหว่างทางได้แวะไปบ้านปู่อยู่เขต จ.ชัยนาท ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกับ อ.บ้านไร่ เพื่อตัดโซ่ตรวนออก ก่อนจะไปขออาศัยบารมีของเครือข่ายยาเสพติดที่มีอิทธิพลในพื้นที่ จ.อุทัยธานี แต่ก็ถูกปฏิเสธอีกจึงชวนกันเข้าไปเช่ารีสอร์ทแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บ้านไร่ เพื่อกบดานแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี และชุดสืบสวน สภ.บ้านไร่ สืบทราบว่ามีนักโทษแหกคุกเข้ามาเช่ารีสอร์ทอยู่จึงประสานกับเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี เข้าตรวจค้นและจับกุมตัวได้ดังกล่าว
ทางนางสมบัตแม่ของนักโทษชายอาทิตย์ หลังจากทราบว่าลูกชายถูกจับแล้วได้พากันครอบพ่อและย่าของนักโทษชายอาทิตย์ เดินทางมารอดูหน้าลูกชายและลูกสะใภ้ หลังจากลงจากรถลูกสะใภ้ได้อุ้มลูกชายวัย1ขวบเศษมามอบให้กับนางสมบัติ เพื่อนำไปเลี้ยงต่อ โดยนางสมบัติและครอบครัวกล่าวทั้งน้ำตาว่ารู้สึกดีใจที่ลูกถูกจับได้ และเห็นลูกปลอดภัย อยากเห็นหน้าลูกอีกซักครั้ง โดยเมื่อช่วงเช้าตนและย่า ได้นำไก่ต้มและเหล้าขาวไปบนบานศาลกล่าวขอให้ลูกชายมอบตัวจะได้ปลอดภัยและสิ่งที่ตนบนไว้ก็เป็นจริง
ทางด้านนายสมศักดิ์ เขียวอ่อน ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่าจากการสอบปากคำเบื้อต้นยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของสองสามีภรรยา อย่างไรก็ตามจะได้สอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งและเตรียมจะแถลงข่าวในวันนี้
ภัทรพล พรมพัก จ. สุพรรณบุรี