No data was found

“เทนเรน-ลีพดีแลบ” จับมือเซ็น MOU วิจัยพัฒนาสินค้าจากกัญชา-กัญชง เพื่อเป้าหมายสู่ตลาดระดับมาตรฐานสากล

กดติดตาม TOP NEWS

TENRAIN จับมือเซ็น MOU กับ LEAPDELAB ร่วมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากกัญชา-กัญชง ระดับ MEDICAL GRADE เพื่อเป้าหมายสู่ตลาดระดับมาตรฐานสากล

วันที่ 16 มกราคม 2566 นาย ณัฎฐ์ ธารธนาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทนเรน จำกัด เปิดเผยว่า TENRAIN ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ LEAPDELAB โดยมี รศ.ภญ.ดร.สรกนก วิมลมั่งคั่ง ผู้ก่อตั้งบริษัท LEAPDELAB และประธานคลัสเตอร์วิจัยกัญชาและสารธรรมชาติจากกัญชา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นผู้เชียวชาญและมีประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีสมุนไพร ทำงานวิจัยและพัฒนาสารสกัด ตลอดจนผลิตภัณฑ์กัญชากัญชงเพื่อเป็นต้นแบบให้ภาคเอกชนมาอย่างยาวนาน เป็นผู้ร่วมลงนาม

TENRAIN ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการปลูกกัญชา-กัญชงระดับพรีเมี่ยมและได้รับรองมาตรฐานการปลูกพืชสมุนไพรระดับสากล European Union organic (EU-Organic) จากสำนักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (มกท.) รายแรกของประเทศและ LEAPDELAB ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทายลัย และได้รับการบ่มเพาะจาก ศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้เชียวชาญด้านการพัฒนาสารสกัดสมุนไพรและผลิตภัณฑ์กัญชา-กัญชงระดับประเทศ ได้ร่วมมือกันผลิตผลิตภัณฑ์สารสกัดกัญชง ด้วยวัตถุดิบคุณภาพสูง เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และเพื่อเป็นต้นแบบในการพัฒนาสินค้าในกลุ่มนี้ให้ได้มาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

“ถือเป็นโอกาสที่ดีเป็นอย่างยิ่งที่เราได้พาร์ทเนอร์กับผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับ Medical Grade อย่างแท้จริง นอกจากผลิตผลทางการเกษตรจะต้องดีแล้ว การพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์สำคัญไม่แพ้กัน การมาร่วมมือกันระหว่างสองบริษัทจะช่วยผลักดันผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเข้าสู่ท้องตลาด เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเป็นส่วนนึงที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจในวงการนี้ให้ไปในทิศทางบวกมากกว่าที่เป็นในปัจจุบัน” นาย ณัฎฐ์ กล่าว

 

ด้าน รศ.ภญ.ดร.สรกนก ยังเสริมอีกว่า “ปัจจุบันนี้ข่าวสารการใช้กัญชา-กัญชงมีกระแสที่แรง แต่ขาดคุณภาพและมาตรฐานที่เหมาะสม หากไม่มีชิ้นงานต้นแบบที่ถูกต้องออกมา ก็ยากที่จะได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากทางสังคม ผลิตภัณฑ์กัญชากัญชงที่มุ่งเป้าไปที่ “ผลิตภัณฑ์ยา” จะสามารถทำให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับทุกภาคส่วน โดยประโยชน์ของพืชกัญชงก็ไปได้ทุกอุตสาหกรรมทั้งยา อาหาร อาหารเสริม เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์ หากถูกนำไปใช้ไปพัฒนาให้ถูกต้องตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น จะเกิดประโยชน์อย่างมากต่อสังคมบ้านเรา”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

รัสเซีย ขึ้นบัญชีผู้นำยูเครนเป็นอาชญากรที่ถูกหมายหัว
โซเชียลแซวยับ "พิธา" นำทีมก้าวไกล ร่วมงานสโมสรสันนิบาต ชีวิตสวนทางติ่งส้มหมิ่น จาบจ้วง สถาบันฯต้องนอนคุก
"อัษฎางค์" ย้อนชีวิต "โน้ส อุดม" โอดเป็นศิลปินไส้แห้ง วันนี้ด้อยค่า "พอเพียง" แขวะคนรุ่นเก่า ใช้การบูลลี่หากิน
คึกคัก ชาววังสะพุงสืบสานงานประเพณี แห่ต้นดอกไม้เครื่อง
ผู้ตรวจฯเรียกหน่วยงานเกี่ยวข้องแจงเลือกสว.ส่อขัดรธน. หลัง "ทนายธีรยุทธ" ยื่นขอให้ชงศาลรธน.วินิจฉัย
โซเชียลสวนเดือด "กุ้ง ทัศนีย์" อดีตสส.เพื่อไทย ย้ายซบก้าวไกล โผล่วิจารณ์ระบบขนส่งฯเชียงใหม่
นิด้าโพล สะท้อนคนไทยมองแก้รธน.ไม่ควรยุ่งหมวด1-2 ไม่เชื่อทำการเมืองดีขึ้น
พายุลมฝนพัดถล่มหนองบัวลำภู บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 1,913 หลังคาเรือน
"ดร.อานนท์" สรุปคลิปสนทนา "แอนิเมชั่น 2475" ชี้ชัด "อ.สุลักษณ์" ควรอ่านหนังสือให้มากกว่านี้
ไฟไหม้โกดังกระดาษ สมุทรสาคร ชาวบ้านหวั่นลามชุมชน ผู้ว่าฯประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น