“บิ๊กโจ๊ก” ประชุมทวิภาคีไทย-กัมพูชา ร่วมแก้ปัญหาเยียวยาเหยื่อค้ามนุษย์

"บิ๊กโจ๊ก" พร้อมคณะผู้แทนไทย ร่วมประชุมทวิภาคีไทย-กัมพูชา ร่วมแก้ปัญหาการเยียวยาเหยื่อค้ามนุษย์ ส่งต่อข้อมูลการคัดแยกเหยื่อ อย่างไร้รอยต่อ

เมื่อวันที่ 18 ม.ค.66 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ได้ร่วมกับคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมการประชุมทวิภาคีไทย-กัมพูชา เพื่อหารือการจัดทำแผนปฏิบัติการร่วมสำหรับการดำเนินการตามขั้นตอนการปฏิบัติงานที่เป็นมาตรฐานในการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ณ เมืองเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 ม.ค.66 โดยมีผู้แทนจากหลายฝ่ายทั้งภาครัฐและภาคประชาสังคม โดยมีนายประวิทย์ ร้อยแก้ว รองอธิบดีอัยการ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย นอกจากนี้ยังมีผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม กรมการปกครอง กระทรวงแรงงาน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมทั้งผู้แทนจากมูลนิธิต่างๆ อีกจำนวนมาก โดยมีองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) เป็นเจ้าภาพในการประสานงาน และมีท่านโช บุน เฮือง ปลัดกระทรวงมหาดไทย/รองประธานคณะกรรมการต่อต้านการค้ามนุษย์ เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายกัมพูชา

 

 

 

ในการประชุมนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้มีโอกาสในการนำเสนอผลงานการดำเนินคดีค้ามนุษย์ของประเทศไทยซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ทำงานบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อการช่วยเหลือและคุ้มครองสวัสดิภาพของผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ซึ่งล่าสุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจกำกับติดตามและช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เป็นประธานอนุกรรมการดังกล่าว ทำหน้าที่ในการติดตามการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหาย เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็วและเหมาะสม นอกจากนี้ยังได้กล่าวขอบคุณทางการกัมพูชา ซึ่งในปีที่ผ่านมาได้มีการประสานความร่วมมือกันในการช่วยเหลือเหยื่อคนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับมาได้มากกว่า 1,105 คน

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นอกจากนี้ การประชุมในครั้งนี้จะมีการร่วมกันจัดทำแผนปฏิบัติการร่วมกัน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนมาตรฐานในการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ซึ่งผู้แทนประเทศไทยและกัมพูชาได้มีการลงนามร่วมกันไปเมื่อวันที่ 25 ส.ค.65 ณ กรุงเทพฯ ประเทศไทย ซึ่งมีกำหนดกรอบเวลาในการดำเนินการตามแผนการภายใน 3 ปีนับจากนี้ ซึ่งจะมีขั้นตอนเกี่ยวกับการดูแลช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และการส่งกลับ และการส่งต่อพยานหลักฐานไปยังประเทศปลายทาง เพื่อใช้ในการดำเนินคดีค้ามนุษย์ นอกจากนี้จะรวมไปถึงการฝึกอบรมและให้ความรู้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศ เพื่อให้ความร่วมมือกันในการช่วยเหลือเหยื่อเป็นไปตามมาตรฐานสากลและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

 

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะสร้างความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานของทั้งสองประเทศ ในการช่วยเหลือเหยื่อจากการค้ามนุษย์ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และมีมาตรฐานที่นานาชาติยอมรับ ซึ่งที่ผ่านมาไทยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากการประสานงานในการช่วยเหลือเหยื่อคนไทยกลับประเทศในปีที่ผ่านมา หลังจากนี้ การประสานงานกันระหว่างทางการไทยและกัมพูชาในด้านการช่วยเหลือเหยื่อจากการค้ามนุษย์ก็จะเป็นรูปแบบและมีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น จะทำให้ผู้เสียหายได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว รวมทั้งได้รับการเยียวยาอย่างถูกต้องและเหมาะสมอย่างแน่นอน

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

มุกดาหาร รมช.กระทรวงมหาดไทย เปิดงานมหกรรมวันออมแห่งชาติ ส่งเสริมให้ประชาชนมีนิสัยรักการออม
รวบชายครอบครองอาวุธเถื่อน เดินหน้ามาตรการเข้มรับฮาโลวีน–ลอยกระทง
สาธารณสุขเบตงตรวจยาดมสมุนไพร หลังพบเชื้อปนเปื้อน
"ปธน.สี จิ้นผิง" ถวายอาลัย "พระบรมราชชนนีพันปีหลวง" เสด็จสวรรคต หารือ "นายกฯอนุทิน" หนุนไทยทุกมิติ รับปากปราบภัยไซเบอร์ เห็นด้วยไม่มีนโยบายสร้างกาสิโน
กระทรวงยุติธรรม จัดงาน "2 ทศวรรษกําลังใจ ก้าวสู่โอกาสใหม่ด้วยนวัตกรรม" เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา พร้อมเปิดตัว "หลักสูตรปัญญาบําบัด"
ผู้ต้องขังสงขลา ประดิษฐ์ริบบิ้นแสดงความอาลัยแด่สมเด็จพระพันปีหลวง

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​