สสจ.ขอนแก่น ชี้แจงพบ 2 คลัสเตอร์ใหญ่ ในโรงพยาบาล

จังหวัดขอนแก่นพบ 2 คลัสเตอร์ใหญ่เป็นบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลของรัฐและ ขณะนี้มีการขอกำลังเสริมจากโรงพยาบาลในเครือเข้าปฏิการ นายแพทย์ สสจ.สั่งเข้ม ตรวจเจ้าหน้าที่กลุ่มเสี่ยงสูงทุก 14 วัน

จากกรณีที่การแชร์กันในแอพพลิเคชั่น ติ๊กต๊อก ที่เป็นคลิปของพยาบาลสองคนนั่งกอดกันร้องไห้ในโรงพยาบาล และรายละเอียดคลิประบุว่า “เมื่อผลสวอปออก ติดโควิดยกทีม โคฮอทหวอด พวกเราได้พักสักทีเราทำหน้าที่ของเราเต็มที่ที่สุดแล้วขอให้พวกเราปลอดภัยทุกๆคน” ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นคลิปของบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลหนองสองห้อง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น

 

 

ล่าสุดวันที่2 ส.ค. 2564 นายแพทย์สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า มีรายงานการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลทั้งของโรงพยาบาลรัฐและโรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดขอนแก่น พบว่าโรงพยาบาลหนองสองห้องมีพยาบาลติดเชื้อ 7 ราย โดยจากการที่มีการตรวจสอบเมื่อวันที่ 30 ก.ค.64  มีพยาบาลที่ได้ดูแลผู้ป่วยในที่กักตัวไว้ 1 รายที่มีอาการเจ็บคอเมื่อวันที่ 19 ก.ค.64  จึงได้มีการส่งตรวจวันที่ 25 ก.ค. ผลออกมาเป็นบวก จึงได้มีการตรวจเชิงรุกผู้สัมผัสใกล้ชิดส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่พยายบาลที่ปฏิบัติงานร่วมกันทั้งหมด 19 คน ซึ่งผลตรวจรอบแรกแกมาเป็นลบ จึงให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 19 ราย กักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน จากนั้นถึงจะตรวจซ้ำอีกรอบ โดยขณะนี้บุคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อและสัมผัสใกล้ชิด อยู่ในการดูแลตามาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข ส่วนคลิปที่มีการนำเสนอนั้น ที่เห็นว่าพยาบาลนั่งกอดกันร้องไห้ เป็นความเสียใจที่โอกาสขอการทำหน้าที่รักษาผู้ป่วยนั้นหายไปเพราะตัวเองมีเชื้อและต้องทำการรักษาตัว ส่วนผู้ป่วยรายใหม่ที่ต้องรักษาที่ รพ.หนอสองห้อง ได้เคลื่อนย้าย รพ.สนามที่ค่ายเปรมฯทั้งหมด 33 คน นำส่งเรียบร้อยและยังไม่มีอาการ ถือกลุ่มสีเขียวที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด

 

ส่วนคลัสเตอร์ใน รพ.เอกชน ในขอนแก่นที่มีข่าวติดโควิด ได้รับแจ้งจากทีมควบคุมโรค ของรพ.กรุงเทพขอนแก่น ติดเชื้อโควิด-19 มาจากการดูแลผู้ป่วยที่มารักษาที่โรงพยาบาลมีการตรวจเจ้าหน้าที่ 120 คน พบผลเป็นบวก 15 คน เป็นแพทย์ 3 คน นอกนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ที่ดูแลผู้ป่วยติดเชื้อในโรงพยาบาล โดยขณะนี้มีการขอกำลังเสริมจากโรงพยาบาลในเครือมาให้บริการเพิ่มเติม พร้อมกับ สสจ.มีข้อสั่งการให้ทุกโรงพยาบาลในสังกัด ดำเนินการวางแผนเชิงปฏิบัติการ แบ่งเป็น3 กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มเสี่ยงสูง เช่น พยาบาลหรือเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยต้องได้รับการตรวจในรอบคัดกรองทุก 14 วัน  กลุ่มที่2 คือ กลุ่มเสี่ยงปานกลาง จะต้องมีการตรวจรอบ 28 วัน และกลุ่มเสี่ยงต่ำเป็นเจ้าหน้าที่ที่ไม่ได้มีการสัมผัสคนไข้ จะมีการตรวจทุก 3 เดือน

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ปานเทพ" เผย "ท็อปนิวส์" ยอดบริจาค ผ่าน "คณะรวมพลังแผ่นดินฯ" พุ่ง 30 ล้าน ประสานทหารแล้ว นำจัดซื้อโดรน อุปกรณ์ป้องชายแดน พรุ่งนี้นัดรวมตัวฟังศาลรธน.ชี้คำร้องเอาผิดนายกฯ
"รองผู้ว่าฯราชบุรี" ลงพื้นที่ทำความเข้าใจ ผู้ประกอบการเดินเรือตลาดน้ำดำเนินสะดวก ร่วมส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีสู่สายตานักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ
"บิ๊กกุ้ง" ลั่นหลังเกษียณ ไม่สนใจเล่นการเมือง หากเป็นไปได้เงิน"คณะรวมพลังแผ่นดินฯ" ถ้านำมอบให้ ขอจัดซื้อเป็นสิ่งของบริจาคช่วยทหารชายแเดนดีกว่า
อิสราเอลเสนอยกระดับความสัมพันธ์ซีเรีย-เลบานอน
จนท.รวบ "หนุ่มเขมร" ลอบขนซิมการ์ด 200 หมายเลข พร้อมยึดเงิน 1 แสนบาท ดำเนินคดีก่อนผลักดันกลับประเทศ
อาหารแปรรูปไม่ใช่ผู้ร้ายเสมอไป สามารถรับประทานได้ปลอดภัย
เกษตรกรยัน ปรับตัวอยู่กับ "ปลาหมอคางดำ" มีข้อดีและไม่อันตรายอย่างที่เป็นข่าว
นายกฯ คุยแก้ส่งออกชายแดนไทย-กัมพูชา ยันไร้สินค้าตกค้าง เร่งกำหนดโควต้าปรับราคาในประเทศ
นายทะเบียนสหกรณ์ ยืนยัน ไม่ได้ออกคำสั่งฯ ให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นเรียกคืนเงินปันผล-เฉลี่ยคืน จากสมาชิก หลังตรวจพบสหกรณ์คำนวนเงินปันผลสมาชิกคลาดเคลื่อน เผยสั่งตั้งคณะตรวจสอบข้อเท็จจริง เอาผิดผู้ปล่อยปละละเลยสร้างความเสียหายแก่สหกรณ์
เจ้าหน้าที่ผลักดันชายกัมพูชาลักลอบเข้าเมืองพร้อมขนซิม 200 เบอร์พร้อมเงินแสน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น