ปธ.สหพันธ์ปลัดอำเภอ จี้นายกฯ สั่งสอบ”ปลัดมท.” ปมให้ภูเก็ตถอนตัว เสนอเจ้าภาพ Specialised Expo 2028

สมาพันธ์ปลัดอำเภอจี้นายกฯ สั่งสอบปลัดกระทรวงมหาดไทย กรณีสั่งภูเก็ตถอนตัวเสนอเป็นเจ้าภาพ Specialised Expo 2028 สวนทางมติ ครม. ตั้งคำถามทำเกินอำนาจหน้าที่หรือไม่

3 มกราคม 2566 นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอสันทราย จ.เชียงใหม่ ในฐานะประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย (ส.ปอ.ท.) เดินทางไปที่ไปรษณีย์สันทราย ส่งหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้สั่งตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ราชการของนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กรณีสั่งการในที่ประชุมผู้บริหารของกระทรวงมหาดไทย ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตถอนตัวออกจากการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงาน Specialised Expo 2028 โดยบอกว่าจะทำหนังสือแจ้งนานาชาติให้

ข่าวที่น่าสนใจ

นายบุญญฤทธิ์ กล่าวว่า การเสนอตัวของประเทศไทย เพื่อขอเป็นเจ้าภาพการจัดงาน Specialised Expo 2028 ที่จังหวัดภูเก็ต เป็นการเสนอโดยมติของการประชุมของคณะรัฐมนตรี ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้ขออนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณให้ประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพกรอบวงเงิน 4,180,000,000 บาท ซึ่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้แจ้งมติคณะรัฐมนตรี ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2565 ให้สำนักงบประมาณทราบแล้ว

ทั้งนี้ มองว่าการให้จังหวัดภูเก็ตถอนตัวจะเกิดความเสียหายต่อประเทศ รัฐบาล คณะรัฐมนตรี ประชาชน รวมถึงงบประมาณของประเทศได้ จึงขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของปลัดกระทรวงมหาดไทยว่าสั่งการเกินขอบเขตแห่งอำนาจหน้าที่ หรือ โดยปราศจากอำนาจ หรือไม่ เพราะการจะยกเลิกการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพควรจะต้องเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี หากพิจารณาแล้วว่าเป็นการสั่งการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็จะยื่นขอตรวจสอบต่อไปว่าเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ที่เป็นการฝ่าฝืนต่อวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง (มติคณะรัฐมนตรี) ด้วยหรือไม่ เพราะข้าราชการจะทำอะไรต้องมีกฎหมายให้อำนาจ

 

ส่วนกรณีที่มีคำพูดในลักษณะดูหมิ่น ด้อยค่าสถาบันการศึกษาของผู้ใต้บังคับบัญชา และภายหลังปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ออกมาขอโทษแล้วนั้น ปลัดบุญญฤทธิ์ บอกว่า การขอโทษเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่การพูดในลักษณะนี้ถือเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน ที่ระบุว่าข้าราชการต้องมีความสุภาพ หลังจากนี้จะติดตามว่ามีการลงโทษอย่างไรหรือไม่ เพราะข้าราชการระดับสูง ควรจะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้ใต้บังคับบัญชาและประชาชน โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย ที่มีการประชุมสั่งการไปยังจังหวัดและอำเภอทั่วประเทศ เรื่องนี้หากมีความผิด นายกรัฐมนตรีก็ต้องพิจารณาตรวจสอบลงโทษด้วย ทั้งนี้ แม้ตนเองจะเป็นปลัดอำเภอ ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา แต่ได้ยื่นในนามประธานสมาพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย และเป็นการกระทำโดยสุจริต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

วัดแสงแก้วโพธิญาณ เชิญร่วมบุญใหญ่ กฐินสามัคคี 11-12 ต.ค. 68 รับพระพุทธรูปมงคล-เหรียญมหาปราบสุดพิเศษ
ทหารไทย สั่ง "ทหารกัมพูชา 5 นาย" ออกจากพื้นที่ช่องอานม้า หลังพบตัดรั้วลวดหนามในเขตไทย แจ้งเตือน-ถอยร่นกลับทันที
วธ.เฉลิมพระเกียรติ "สมเด็จพระพันปีหลวง" จัดนิทรรศการ "ชุดไทยพระราชนิยม" อาภรณ์แห่งพระราชปณิธาน งามสง่าคู่แผ่นดินไทย ยกระดับการแต่งกายสตรีไทย เสนอ UNESCO ให้เป็นที่ประจักษ์ในระดับสากล
อีสท์ วอเตอร์ จัดสรรงบประมาณ 2.7 ล้านบาทเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ตามรอบสูบน้ำบางปะกง ปี 67 พร้อมนำสื่อมวลชนเยี่ยมชมสถานีสูบน้ำฉะเชิงเทรา เพื่อการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน
"สุดาวรรณ" ขอบคุณจุฬาฯ–มทร.อีสาน-ม.มหาสารคาม ประกาศช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียสละป้องอธิปไตยชายแดนไทย–กัมพูชา
"มทภ.2" เยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติ พร้อมเปลี่ยนธงชาติผืนใหญ่กว่าเดิม

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​