เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์เหตุปะทะในพื้นที่ จ.สระแก้ว หลังโดยเสียงปะทะด้วยปืนใหญ่และปืน ค.เมื่อคืนวันที่ 14 ธ.ค.สิ้นสุดลงเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ปรากฏว่า ช่วงเช้าวันนี้ พื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เกิดเสียงปะทะด้วยกระสุนปืน เริ่มตั้งแต่เวลา 06.05 น.และดังต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ โดยไม่มีการหยุดยิงแต่อย่างใด โดยเฉพาะพื้นที่บ้านหนองจาน ยังคงระทึกกว่าทุกจุด เพราะเมื่อฝั่งกัมพูชายิงเข้ามา ฝ่ายทหารไทยก็ยิงตอบโต้ไปทันที
ทั้งนี้ ทางกองกำลังบูรพา รายงานสถานการณ์สู้รบในพื้นที่บ้านคลองแผง อ.ตาพระยา ว่า อยู่ระหว่างดำเนินกลยุทธ์เข้ายึดครองพื้นที่ โดยใช้อาวุธยิงสนับสนุนควบคุมพื้นที่ ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่โล่งแจ้ง โดยฝ่ายกัมพูชาได้ต่อต้านด้วยการยิง BM-21, ปืนใหญ่ และเครื่องยิงลูกระเบิดอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง ทหารฝ่ายไทยสามารถเข้ายึดครองพื้นที่ตามแนวอ้างสิทธิ์ และใช้อาวุธยิงสนับสนุน เพื่อป้องกันการเพิ่มเติมกำลังของฝ่ายกัมพูชา โดยฝ่ายกัมพูชายังคงต่อต้านด้วยการยิง BM-21, ปืนใหญ่ และเครื่องยิงลูกระเบิดอย่างต่อเนื่อง เช่นกัน ซึ่งมีการแจ้งเตือนประชาชนที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่่ อย่างเพิ่่งกลับเข้าพื้นที่ เนื่องจากจะเป็นอุปสรรคให้ทหารทำงานลำบาก รวมทั้งแจ้งเตือนให้ชาวบ้านที่อยู่ในศูนย์อพยพ อย่างลงคลิปและภาพศูนย์ในโซเชียลฯ เนื่องจากกัมพูชาเพ็งเล็งเป้าหมาย พื้นที่วัด ,โรงเรียน และโรงพยาบาล

ส่วนพื้นที่บ้านหนองจาน อ.โคกสูง ทหารฝั่งไทยจัดกำลังเข้าดำเนินกลยุทธ์เข้ายึดครองพื้นที่ โดยใช้อาวุธยิงสนับสนุนควบคุมพื้นที่ โดยฝ่ายกัมพูชาได้ต่อต้านด้วยการยิง BM-21, ปืนใหญ่ และเครื่องยิงลูกระเบิดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกองกำลังบูรพา ได้ปฏิบัติการทางทหารต่อฝ่ายกัมพูชา ที่เป็นเป้าหมายทางทหาร ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามต่ออธิปไตยของไทยและความปลอดภัยของทหารและประชาชน
ล่าสุด กองกำลังบูรพา สรุปความเสียหายของฝ่ายกัมพูชาที่พิสูจน์ทราบได้ ตั้งแต่ 8 ธ.ค.68 – ปัจจุบัน ได้แก่ บก.ควบคุม 1 แห่ง, จุดตรวจการณ์/ฐานทหาร 11 แห่ง, บ่อนคาสิโน 1 แห่ง, บังเกอร์ 6 แห่ง, ที่ตั้งยุทโธปกรณ์ 1 แห่ง, ที่ตั้งยิงเครื่องยิงลูกระเบิด 4 แห่ง, พื้นที่ส่งกำลัง/ที่รวมพล 2 แห่ง, คลังกระสุน 2 แห่ง, ยานเกราะ 3 คัน, โดรนตรวจการณ์ 4 ลำ, เสาสัญญาณสื่อสาร 4 ต้น และคาดว่าทหารกัมพูชาเสียชีวิตประมาณ 300 นาย
สำหรับการเตรียมการรับคนไทยจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา กลับเข้าสู่ประเทศ ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศนั้น ปัจจุบันฝ่ายกัมพูชายังคงปฏิเสธการปล่อยตัวคนไทยกลับประเทศ เข้าสู่วันที่ 5 แล้ว ซึ่งเมื่อช่วงค่ำวานนี้ เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ที่บริเวณอาคารตึก 25 ชั้น ซึ่งถูกระบุว่า เป็นฐานกลุ่มสแกรมเมอร์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วย สร้างความแตกตื่นในพื้นปอยเปตและฝั่งไทย ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า เป็นเพียงหม้อแปลงระเบิด และเกิดไฟลุกไหม้ที่บริเวณชั้น 25 เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกองกำลังบูรพา ได้สรุปยอดกำลังพลของไทยที่ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ปะทะเมื่อวานนี้ (14 ธ.ค.) ว่า มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ เพิ่มเติมจำนวน 2 นาย สรุปยอดกำลังพลได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ตั้งแต่ 8 ธ.ค.68 – ปัจจุบัน บาดเจ็บ 50 นาย และเสียชีวิต 3 นาย ประชาชนในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว ใน 4 อำเภอ ทางจังหวัดสระแก้วร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว 5 พื้นที่ จำนวน 44 ศูนย์ รวม 21,883 คน
ส่วนกองทัพบกได้สรุปความสูญเสียของฝ่ายกัมพูชาทุกพื้นที่ดังนี้ ฐานที่มั่นทางทหาร ถูกทำลาย 51 แห่ง ,ระบบยิง BM-21 จำนวน 1 ระบบ ,รถถัง 10 คัน ,รถเกราะและยานเกราะ 9 คัน ,ระบบป้องกันภัยทางอากาศ (ปตอ.) 4 ระบบ , ปืนใหญ่และปืนครก 7 กระบอก ,จุดติดตั้งระบบแอนตี้โดรน 5 จุด ,โดรนถูกทำลาย 68 ลำ ,เสาสื่อสาร 3 จุด ,ทหารกัมพูชาเสียชีวิตประมาณ 221 นาย
ภาพ/ข่าว ประสาน โพธิ์ทอง ผู้สื่อข่าว TOPNEWS ทั่วไทย จ.สระแก้ว



