“หมอมนูญ” เปิดความจริงอีกมุม ขอปชช.อย่าตื่นกลัว “นทท.จีน” เข้าไทย ชี้ถึงเวลาอยู่กับโควิดอย่างมีสติ

"หมอมนูญ" เปิดความจริงอีกมุม ขอปชช.อย่าตื่นกลัว "นทท.จีน" เข้าไทย ชี้ถึงเวลาอยู่กับโควิดอย่างมีสติ

จากกรณีที่ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวในการประชุมคณะกรรมการวิชาการตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีวาระสำคัญ คือ การเตรียมรับสถานการณ์เดินทางที่จะเพิ่มขึ้นจากประเทศจีนที่มีนโยบายเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2566 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าไทยประมาณ 5 ล้านคน ในปี 2566

ศ.เกียรติคุณ นพ.สมหวัง ด่านชัยวิจิตร ประธานคณะกรรมการด้านวิชาการฯ กล่าวว่า การพิจารณามาตรการคำนึงถึงหลักการเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ อยู่บนพื้นฐานด้านวิชาการ ความปลอดภัยสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคม สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างประเทศ และสอดคล้องกับมาตรการผู้เดินทางเข้าออกของประเทศต่างๆ

ที่ประชุมร่วมกันพิจารณาและประเมินความเสี่ยงแล้วเห็นว่า “ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้” โดยมีแนวทางและมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 เพื่อเตรียมรับผู้เดินทางจากจีน

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุดทางด้าน นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC แสดงความคิดเห็นเรื่องนักท่องเที่ยวจีน กับเชื้อโควิด-19 ไว้ดังนี้ด้วยว่า

ข่าวดีรัฐบาลจีนผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 จีนยกเลิกมาตรการกักตัวนักเดินทาง เชื่อว่า อีกไม่นานจะมีนักท่องเที่ยวจีนมาประเทศไทยเป็นหลักล้านคน จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย
คนไทยไม่ต้องตื่นกลัวข่าวที่อาจมีเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ตัวใหม่เกิดในประเทศจีน แล้วคนจีนเอาเชื้อมาแพร่กระจายในประเทศไทย เชื้อไวรัสโควิดมีการกลายพันธ์ต่อเนื่องเพื่อความอยู่รอดของตัวมัน สามารถเกิดขึ้นในประเทศไหนก็ได้ไม่ใช่เฉพาะประเทศจีน เราควรปฏิบัติกับนักท่องเที่ยวจีน ยินดีต้อนรับเขาเช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวชาติอื่น ๆ

ถึงเวลาเราควรเลิกกลัวไวรัสโควิด เราต้องอยู่ร่วมกับโควิดอย่างมีสติ เตรียมตัวคนไทยเองให้ดี เร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นป้องกันโควิด ในอนาคตคงต้องฉีดวัคซีนหลายๆสายพันธุ์ทุกปีเหมือนไข้หวัดใหญ่ สร้างสุขนิสัยที่ดี สวมหน้ากากอนามัยเวลาอยู่ในที่แออัดอากาศถ่ายเทไม่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตัวเองป่วยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อให้ผู้อื่น เว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือ

เราต้องยอมรับว่า ถึงเราจะทำทุกอย่างก็ยังมีโอกาสติดเชื้อ เพราะเชื้อไวรัสโควิดแพร่กระจายทางอากาศได้ง่ายกว่าไวรัสทุกชนิดในโลก ติดเชื้อหลักๆทางการหายใจ และหลบหลีกภูมิคุ้มกันไม่ว่าเกิดจากการได้รับวัคซีน หรือจากการติดเชื้อตามธรรมชาติ เมื่อติดเชื้อก็รักษากันไป ข้อดีของการติดเชื้อคือ เกิดภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อตามธรรมชาติ ทำให้มีภูมิคุ้มกันลูกผสม hybrid immunity ป้องกันโควิดได้ดียิ่งขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ขนลุก! มูลนิธิร่วมกตัญญู จัดโต๊ะจีนเชิญดวงวิญญาณตึกสตง.ถล่ม "หนุ่มกู้ภัย" ร้องลั่น "หิว ช่วยด้วย"
"เอกสิทธิ์" เผยมาตรฐาน-คุณภาพภาคอสังหาริมทรัพย์ ปัจจัยสำคัญสร้างเชื่อมั่นความปลอดภัย รองรับพิบัติภัยในอนาคต
"รมว.ท่องเที่ยว" ระดมภาครัฐ-เอกชน ถกปัญหาความปลอดภัย ฟื้นภาพลักษณ์เที่ยวไทย หลังเจอกระแสข่าวด้านลบ
นาทีชีวิต! ส่งเฮลิคอปเตอร์ EC-725 ช่วยผู้ป่วยวิกฤต ส่งถึงมือแพทย์ได้ทันเวลา
วธ. จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระกุศล "เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ" วันคล้ายวันประสูติ
"สก.นภาพล" ซัดกระทู้ถาม "กทม." เมื่อไหร่จะจ่ายคืนหนี้ BTS ย้ำดอกเบี้ยเพิ่มวันละ 4.5 ล้าน แฉฟาดรายได้ค่าโดยสาร 3 เดือน กว่า 2 พันล้าน แต่ให้เอกชนแบกภาระวิ่งรถไฟฟ้า
จีนสั่งยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าบางประเภทจากสหรัฐ
"รองผอ." คดีฮั้วประมูล เผย "3 วิศวกร" รับลงชื่อตรวจงานสร้างตึกสตง.จริง เร่งสอบลายมืออีก 7 ราย ยังปฏิเสธ
"นายกฯ" รับมอบเงิน 5 ล้าน มูลนิธิเรนวูด ช่วยผู้ได้รับผลกระทบแผ่นดินไหว
"อดีตผู้พิพากษา" ชี้ตรง ป.ป.ช.-อสส.ไม่ทำหน้าที่โจทก์ เหตุศาลฎีกาฯ ต้องออกโรงไต่สวนเอง "ทักษิณ"ไม่ติดคุกจริงตามคำพิพากษา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น