สิทธิ “บัตรทอง” สิทธิ 30 บาท เปิด 10 ผลงานเด่น ประจำปี 2565

 

 

 

นายแพทย์จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. เผยว่า ตลอดช่วง 2 ทศวรรษของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ “บัตรทอง” 30 บาท แต่ละปี สปสช. ได้ดำเนินนโยบายและบริหารจัดการกองทุนฯ เพื่อดูแลประชาชนผู้มีสิทธิกว่า 47 ล้านคน ให้เข้าถึงการรักษาพยาบาลและบริการสาธารณสุขอย่างครอบคลุมและทั่วถึง พร้อมพัฒนาสิทธิประโยชน์ในด้านต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง

 

 

 

และปี 2565 นี้ เป็นอีกปีหนึ่งที่ สปสช. เดินหน้าและพัฒนากองทุนฯ อย่างไม่หยุดยั้ง ภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานบอร์ด สปสช. จนปรากฏเป็น 10 ผลงานเด่น จากการดำเนินงานในปี 2565 ดังนี้ 

 

 

 

 

 

 

1. ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังเลือกวิธีฟอกไตแบบที่เหมาะสมได้ทุกคน

• โดยวันที่ 6 มกราคม 2565 บอร์ด สปสช.เห็นชอบข้อเสนอการช่วยเหลือค่าบริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมแก่ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่ไม่สมัครใจรับบริการล้างไตผ่านทางช่องท้อง เริ่มตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2565
• ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังสิทธิบัตร ทอง สามารถตัดสินใจร่วมกับแพทย์เลือกวิธีฟอกไตที่เหมาะสมได้ทุกคน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
• ปี 2565 บัตรทองดูแลผู้ป่วยไตวายเรื้อรังฯ 62,478 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยฟอกไตตามนโยบายใหม่ 17,000 คน
• นอกจากนี้ มีผู้ป่วยผ่าตัดปลูกถ่ายไต 146 คน และผู้ป่วยรับยากดภูมิหลังปลูกถ่ายไต 2,534 คน

2. ขยายทั่วประเทศรักษาที่หน่วยบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้-ผู้ป่วยในไม่ต้องกลับไปรับใบส่งตัว

• รักษาที่หน่วยบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ หนึ่งในนโยบายยกระดับบัตร ทอง
• ทั้งนี้ ปี 2565 มีผู้รับบริการในหน่วยบริการ 1,028 แห่ง รวมจำนวน 176,356 คน หรือ 237,162 ครั้ง
• ผู้ป่วยในไม่ต้องกลับไปรับใบส่งตัว ลดความยุ่งยากใช้สิทธิรักษาผู้ป่วยใน
• ซึ่งผู้ป่วยบัตร ทองที่เป็นผู้ป่วยในไม่ต้องกลับไปขอใบส่งตัวปี 2565 จำนวน 2.30 ล้านครั้ง

 

 

 

 

3. ผ้าอ้อมผู้ใหญ่-แผ่นรองซับ

• ดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิงติดเตียง ผู้มีปัญหากลั้นขับถ่าย
• บอร์ด สปสช. มีมติอนุมัติเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 เพื่อดูแลผู้ที่อยู่ในภาวะติดบ้าน ติดเตียง และผู้มีปัญหากลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่ได้
• สนับสนุนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ 3 ชิ้น/คน/วัน
• หรือแผ่นรองซับการขับถ่ายไม่เกิน 3 ชิ้น/คน/วัน

4. สิทธิประโยชน์ 9 บริการใหม่ เริ่มในปีงบประมาณ 2565 และ 2566 อาทิ

• บริการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีด้วยยาต้านไวรัสหลังการสัมผัสเชื้อ
• บริการแว่นตาสำหรับเด็กที่มีภาวะสายตาผิดปกติ
• ตรวจยีน BRCA1 BRCA2 ในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่
• บริการรากฟันเทียมสำหรับผู้ที่ไม่มีฟันทั้งปาก
• ตรวจคัดกรองธาลัสซีเมียในคู่ของหญิงตั้งครรภ์