No data was found

ตัวแทนผู้ค้าลอตเตอรี่รายย่อย ยื่น “ไทยภักดี” จี้รัฐบาลแก้สลากฯแพง

กดติดตาม TOP NEWS

ตัวแทนผู้ค้าสลากรายย่อย ยื่น "ไทยภักดี" จี้รัฐบาลแก้สลากฯแพง

27 ธ.ค. 2565 พรรคไทยภักดี นางวิไล บุญกล้า ตัวแทนผู้ค้าลอตเตอรี่รายย่อยจังหวัดร้อยเอ็ด นำผู้ค้าสลากรายย่อย ยื่นหนังสือถึง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี และนายถาวร เสนเนียม ประธานพรรคไทยภักดี เพื่อขอให้แก้ไขปัญหาลอตเตอรี่ขายเกินราคา และจัดสรรโควต้าให้แก่ผู้ค้าปลีกจริง โดยนางวิไล กล่าวว่า ในปัจจุบันได้เกิดปัญหาราคาขายส่งลอตเตอรี่แพง มีราคาสูงถึง 97-98 บาทต่อฉบับ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการกว้านซื้อลอตเตอรี่จากผู้ค้าที่ได้รับโควต้าจากกองสลากโดยกลุ่มทุน เพื่อนำไปขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ สร้างความเดือดร้อนกระทบต่ออาชีพผู้ค้าลอตเตอรี่รายย่อยที่ขายปลีกจริงเป็นอย่างมาก

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

 

ถึงแม้จะเป็นผู้ขายปลีกจริงแก่ผู้บริโภคมานานนับสิบปี แต่กลับไม่ได้รับการจัดสรรโควต้าลอตเตอรี่จากกองสลากแต่อย่างใด ซึ่งประเด็นนี้เป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาลอตเตอรี่แพงขายเกินราคา คนขายจริงไม่ได้รับโควต้า แต่คนที่ได้รับโควต้าส่วนใหญ่กลับขายส่งต่อให้คนขายปลีก และกลุ่มทุนที่กว้านซื้อลอตเตอรี่ เป็นระบบที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้มีอาชีพค้าปลีกลอตเตอรี่รายย่อยทั้งหลาย จึงยื่นหนังสือแจ้งความเดือดร้อนมายังพรรคไทยภักดี เพื่อให้ดำเนินการแก้ไข 2 ประเด็นคือ

1. แก้ไขปัญหาลอตเตอรี่แพงขายเกินราคา
2. จัดสรรโควตาลอตเตอรี่แก่ผู้ค้าปลีกจริง
จึงเรียกร้องรัฐบาลแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาให้ตรงจุด

ด้านนายถาวร กล่าวว่า กรณีนี้ผู้รับผิดชอบคือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เนื่องจากเป็นประธานนโยบายรัฐวิสาหกิจ รวมไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และบอร์ดกองสลากฯ ผู้อำนวยการกองสลากฯ สิ่งที่ต้องแก้ไขอันดับต้นๆคือ การทุจริต ปัญหาลอตเตอรี่ราคาแพง ต้องลงพื้นที่ไปดู อยากจะมีอำนาตต่อ 8 ปีแล้วแก้ปัญหาไม่ได้ อยากจะมีอำนาจต่อต้องทบทวนตัวเองว่า อยู่ไปเพื่อพี่น้องคนจน หรืออยู่ไปเพื่อมีอำนาจต่อ จึงเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีที่ดูแลรับผิดชอบตามยุทธศาสตร์ชาติ เมื่อกำหนดสลากเป็นสินค้าผูกขาดขายในราคาที่ไม่เกิน 80 บาท ก็ต้องตรวจสอบว่าขายเกินราคาหรือไม่ ถ้าแก้ไขไม่ได้ แสดงว่านายกไม่ได้ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้กับพี่น้องประชาชน เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557

ขณะที่นพ.วรงค์ ยืนยันว่า ทางพรรคไทยภักดีจะรับเรื่องนี้ไปดำเนินการ และคืนความชอบธรรมให้กับผู้ค้าสลากรายย่อย พร้อมย้ำกับผู้รับผิดชอบทุกท่านว่า ถ้าแก้ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ ให้ออกไป ให้พวกเราเข้าไปทำ และยืนยันว่าพวกเราทำได้อย่างแน่นอน

 

สำหรับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นหนึ่งในรัฐวิสาหกิจ ซึ่งพลเอกประยุทธ์ มีหน้าที่กำกับดูแลในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ คนร. ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2562 มาตรา 5 ที่บัญญัติไว้ว่า พระราชบัญญัตินี้มีวัตถุประสงค์ในการพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ โดยมีแนวทางดังต่อไปนี้
(1) ให้มีคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจทำหน้าที่กำหนดเป้าหมาย นโยบาย และทิศทางในการพัฒนารัฐวิสาหกิจในภาพรวมทั้งระบบ ให้เป็นไปโดยสอดคล้องกับแผนพัฒนารัฐวิสาหกิจ
(2) ส่งเสริมให้รัฐวิสาหกิจดำเนินกิจการอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส สอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี และมีการประเมินผลการดำเนินกิจการอย่างต่อเนื่อง
(3) ให้มีกลไกสนับสนุนให้การคัดเลือกและการปฏิบัติงานของกรรมการรัฐวิสาหกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
(4) ให้มีการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจในเชิงรุกอย่างมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงทิศทางของเศรษฐกิจของประเทศ แผนพัฒนารัฐวิสาหกิจ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และแนวปฏิบัติที่ใช้บังคับกับรัฐวิสาหกิจนั้น

ส่วนมาตรา 6 บัญญัติให้มีคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เรียกโดยย่อว่า “คนร.” ประกอบด้วย

(1) นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ

(2) รองนายกรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมายคนหนึ่ง เป็นรองประธานกรรมการ

(3) กรรมการโดยตำแหน่ง ได้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีอื่นซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจำนวนสองคน ปลัดกระทรวงการคลัง เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ

(4) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจำนวนห้าคน

ขณะที่มาตรา 10 ได้บัญญัติเกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่ของ คนร. ทั้งหมด 13 ข้อด้วยกัน ดังนี้

(1) จัดทำแผนพัฒนารัฐวิสาหกิจเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี

(2) เสนอแนะและให้คำปรึกษาต่อคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับนโยบายและแนวทางการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ และเสนอความเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาของรัฐวิสาหกิจ

(3) เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับนโยบายการกำกับดูแลให้หน่วยงานของรัฐหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินงานให้สอดคล้องกับแผนพัฒนารัฐวิสาหกิจ

(4) กำหนดสัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังในรัฐวิสาหกิจที่เป็นบริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัด โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี

(5)กำหนดหลักเกณฑ์เพื่อสร้างแรงจูงใจแก่รัฐวิสาหกิจ โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี

(6) เสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อกำหนดมาตรการและการจัดสรรเงินชดเชยให้แก่รัฐวิสาหกิจที่ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้แผนพัฒนารัฐวิสาหกิจตามมาตรา 28

(7) กำหนดหลักเกณฑ์การประเมินผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจตามมาตรา 29

(8) กำหนดแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดีในรัฐวิสาหกิจตามมาตรา 33

(9) แต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองกรรมการรัฐวิสาหกิจตามมาตรา 34

(10) กำกับดูแลกระทรวงเจ้าสังกัด ให้ติดตามรัฐวิสาหกิจในกำกับ ดำเนินการตามแผนพัฒนา
รัฐวิสาหกิจ

(11) เสนอแนะให้มีการตราหรือแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบ หรือหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ
รัฐวิสาหกิจต่อคณะรัฐมนตรี

(12) ออกประกาศเพื่อกำหนดแนวทางหรือหลักเกณฑ์ ตลอดจนวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้

(13) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่และอำนาจของ คนร. หรือตามที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

โคลอมเบีย ตัดสัมพันธ์อิสราเอล
สหรัฐ หมอเผยความป่าเถื่อนของอิสราเอล
"พิมพ์ภัทรา" ปัดกดดัน "อธิบดีกรมโรงงาน" ลาออก แจงแค่สั่งเร่งแก้กากแร่แคดเมียม ป้องกระทบปชช.
ซาอุฯ ฝนถล่มน้ำท่วมหนัก-ฮ่องกงฟ้าผ่าเฉียดหมื่นครั้ง
ม็อบหนุนยิวชนม็อบหนุนปาเลสไตน์ที่ UCLA ตีกันเละ (คลิป)
สุดมึน "หนุ่มหลอน" บุกยึดบ้านนอน-กิน แถมขับรถไปซื้อกาแฟ สุดท้ายอ้างเฉยเป็นเจ้าของบ้าน
"ทีมแอนิเมชั่น 2475" แจ้งข่าวดี ก.วัฒนธรรม ผ่านเรทติ้งเหมาะผู้ชม "ทั่วไป" แล้ว
"สำนักพุทธฯ" บุกสอบ "เจ้าอาวาส" ฉาวเปิดฮาเร็มเคลมเด็กหนุ่ม ว่อนโซเชียล
กวางตุ้งระทึก ถนนยุบพังถล่ม รถ 20 คันไถลลงข้างทาง ดับ 24 ศพ
เปิดภาพ "ทักษิณ” ควง “สุวัจน์” ทัวร์สวนน้ำอันดามันภูเก็ต หวังบูมท่องเที่ยว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น