มูฟออนเต็มตัว “ลุงตู่” ประกาศชัดสังกัด “รวมไทยสร้างชาติ” แคนดิเดตนายกฯ

มูฟออนเต็มตัว "ลุงตู่" ประกาศชัดสังกัด "รวมไทยสร้างชาติ" แคนดิเดตนายกฯ

วันที่ 23 ธ.ค. 65 ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดใจกับ สื่อมวลชน ว่า วันนี้ทุกคนและหลายพรรคให้ความสนใจกับการเมือง และอยากทราบว่านายกฯจะเดินไปยังไงต่อไป จากสถานการณ์ที่ได้ติดตามมามีการเคลื่อนไหวกันหลายพรรคมีการเสนอชื่อผู้ที่จะรับคัดเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีแต่ละพรรค ที่ผ่านมานายกฯพยายามพิจารณาตามหลักการและเหตุผลมากมายด้วยกัน วันนี้ทางพรรครวมไทยสร้างชาติได้เสนอชื่อมาแล้ว ว่ายินดีสนับสนุนตน เป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ตนจำเป็นต้องทำให้เกิดความชัดเจน ไม่ฉะนั้นจะเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ให้เกิดความเสียหายต่อไป และผ่านมาได้รับการสนับสนุนจากพรรคพลังประชารัฐและวันนี้ได้ทราบว่าพรรคพลังประชารัฐได้เสนอชื่อหัวหน้าพรรคเป็นแคนดิเดตนายกฯไปแล้ว

“วันนี้ผมตัดสินใจแล้วว่าจะไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติจะได้สบายใจกัน ซึ่งก็สุดแล้วแต่ประชาชนจะให้การสนับสนุนหรือไม่ อย่างไร และสิ่งที่ตนต้องตัดสินใจแบบนี้เพราะว่าหลายอย่างที่ได้ทำไว้มาอย่างต่อเนื่องที่ผ่านมาหลายปี ควรจะมีการสานต่อหากสามารถอยู่ได้ในเวลาที่กำหนดก็จะได้สานต่อในสิ่งที่ค้างคา สิ่งที่มีปัญหาและที่ยังไม่สำเร็จ ตลอดที่ผ่านมา4 ปีแรกและ4 ปีหลัง นายกฯก็ทำมาอย่างต่อเนื่องถึงแม้ระยะแรกจะเป็นรัฐบาลอีกลักษณะหนึ่งก็ตาม ต่อมาเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้งเป็นรัฐบาลชุดที่ 2 ที่ผ่านมาได้ดูแลทุกพื้นที่ ทุกพรรคโครงการต่างๆก็ลงไปทุกจังหวัดไม่แบ่งแยกเป็นของใครซึ่งหลายจังหวัดที่ลงพื้นที่ไปก็ไม่ได้มีส.ส.ของรัฐบาล แต่ตนก็ไป เช่นเชียงรายก็ไม่มีส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐซักคนก็ยินดีลงพื้นที่ไปเพราะไปช่วยเหลือดูแลประชาชนอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนประเทศชาติก็ยินดีนำเสนอเข้าคณะรัฐมนตรีเพื่อจัดสรรงบประมาณให้เป็นไปตามกฏหมายและไม่ได้คิดแสวงหาผลประโยชน์ใดใดทั้งสิ้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่เคยคิดแสวงหาประโยชน์ แม้แต่เพียงเล็กน้อย

พลเอกประยุทธ์ ระบุว่า ได้กราบเรียนพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ไปนานแล้วและครั้งสุดท้ายได้พูดคุยและตัดสินใจแล้วไม่มีปัญหา ไม่ขัดแย้งใด ๆ ทั้งสิ้น เป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตยและไม่ได้จากกันไปไหน ยังพูดคุยกันอยู่เหมือนเดิม อย่าลืมว่าความสัมพันธ์ระหว่างทหารกับทหารด้วยกันมันลึกซึ้ง ตนอยู่ในการดูแลของท่าน เป็นผู้บังคับบัญชาตั้งแต่จบนักเรียนนายร้อยและเริ่มชีวิตข้าราชการทหารมา ความผูกพันตรงนี้ไม่มีใครลบล้างได้ และท่านก็รู้สึกเหมือนกันแต่ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร แม้ว่าจะมีแรงกดดันหลายหลายอย่าง

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ขณะที่นายกรัฐมนตรี ยังไม่ตอบว่าจะไปสมัครพรรครวมไทยสร้างชาติเมื่อใด ส่วนการเลือกตั้งยังคงจับมือกับพลเอกประวิตรหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของกระบวนการหลังเลือกตั้งถึงเวลานั้นก็ต้องมีการพูดคุยจับคู่ทางการเมืองว่าใครจะเป็นฝ่ายค้านเป็นรัฐบาล คะแนนเสียงได้มากกว่าก็เป็นรัฐบาล ซึ่งตนก็มาเป็นนายกฯและรัฐบาลรอบที่แล้วก็เป็นเช่นนั้น

ทั้งนี้นโยบาย มีหัวหน้าพรรคได้ทำวางไว้อยู่แล้ว ซึ่งต้องมีการสานต่อผลงานการทำงานให้เกิดความมั่นคงยั่งยืนไม่ใช่ผิวเผินและต้องเป็นนโยบายที่จับต้องได้ถ้าประกาศว่าจะทำโน่นทำนี่ ต้องดูว่าทำได้จริงหรือไม่ นโยบายจะใช้เงินอย่างไรมาจากไหน จึงต้องมีกติกาพอสมควรเพื่อไม่ให้เป็นภาระของประเทศ แต่สถานการณ์ที่ผ่านมาโชคไม่ดีที่เราได้เจอทั้งวิกฤตโควิดและวิกฤตสงครามพยายามที่จะบริหารฐานะทางการเงิน การคลังให้ดีที่สุด และยังคงดีอยู่และปัญหาก็ยังคงต้องแก้ไปเรื่อยๆ ขอให้พวกเราอย่าท้อแท้อย่าทะเลาะเบาะแว้งขัดแย้งกัน ถ้าเรายังเอาชนะคะคานกันก็จะกลับไปอยู่ที่เดิม เลือกตั้งก็ต้องมองดูว่าจะเลือกใครท้ายที่สุดใครจะเป็นนายกฯ เมื่อเลือกตั้งมาแล้ว มารวมคะแนนเสียงกันร่วมฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาลใครได้มาก็เป็นรัฐบาลและนายกฯที่ถูกเสนอชื่อก็จะเป็นนายกฯซึ่งเป็นเรื่องอนาคตไม่มีอะไรแน่นอนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน

นายกฯ กล่าวว่า การเลือกตั้งถือมีความสำคัญขอให้คิดและไตร่ตรองให้รอบคอบ มีเหตุมีผล มีหลักคิดหากอยากได้นู่น ได้นี่ ถ้าเกินขีดความสามารถของรัฐบาลเกินขีดความสามารถของงบประมาณ ประเทศชาติก็เดือดร้อน เสียหาย เพราะต้องยึดประโยชน์โดยรวม ของแต่ละกลุ่ม แต่ละอาชีพ ต้องเฉลี่ยการใช้จ่ายเงินให้ดี ซึ่งนายกฯก็ใช้หลักการนี้บริหารมาตลอด หลายอย่างก็ดีขึ้น หลายอย่างก็ประสบปัญหา ขึ้นอยู่กับสถานการณ์โดยรอบด้วย

“วันนี้จำเป็นต้องพูดเกรงว่าถ้าไม่พูดก็จะวิพากษ์วิจารณ์กันไปเรื่อยๆ ตนก็ตัดสินใจแล้ว อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณพรรคพลังประชารัฐที่ได้สนับสนุนเสนอให้เป็นนายกฯครั้งที่ผ่านมา เราไม่ได้เป็นศัตรูกัน”

ส่วนในสภาส.ส.ที่มาต้องแสดงตน และนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาก็กล่าวย้ำไว้แล้วว่าให้แสดงตนด้วยหากเป็นส.ส.ก็ต้องทำหน้าที่ของตนเอง ตนจะไปบังคับใครได้ ซึ่งวิปทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลก็มีการประสานงานกันทั้งหมดแล้วส.ส.ก็ต้องทำหน้าที่ของตนเอง เข้าไปในสภาก็ต้องแสดงตนถ้าเข้าไปสภาแล้วไม่แสดงตนจะเข้าไปทำไม ต้องมองแบบนี้

ส่วนอายุรัฐบาลจะครบเทอมหรือจะมีการยุบสภาก่อนหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เคยบอกไปแล้วว่าวันนี้ยังมีปัญหาที่ต้องแก้ไขอยู่ ต้องดูจังหวะและเวลา พร้อมกับดูข้อกฎหมายกกต.ด้วย ซึ่งก็ได้ชี้แจงมาแล้ว ต้องหารือกับฝ่ายการเมือง หารือกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วย

 

 

 

นายกฯย้ำว่า งานหลักของตนคือดูแลชาติและประชาชน เหตุผลที่ผมเข้ามานักการเมืองลืมไปหมดแล้ว ว่าได้ทำความเสียหายอะไรไปบ้าง ตนเข้ามาก็แก้ไขให้เกิดการพัฒนาที่ดีขึ้น สิ่งที่สำคัญในวันนี้มากกว่าการเลือกตั้งคือประชาชนจะมีความรักความสามัคคีกัน

วันนี้ ให้ความสำคัญเรื่องสถานศึกษาการบูลลี่บิดเบือนต้องไปดูว่าใครเป็นคนทำและมาจากต้นต่อมาจากไหน สิ่งนี้เป็นอันตรายที่สุดในการศึกษา ครูมีหน้าที่ทำผ้าขาวให้เป็นผ้าขาวที่บริสุทธิ์ เพราะเด็กเหล่านี้เป็นคนบริสุทธิ์ ภูมิต้านทานอาจจะน้อย อาจจะเชื่อง่าย สอนคนตั้งแต่เด็กให้รู้จักหน้าที่มีวินัย ครูมีบทบาทหน้าที่สำคัญ ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่ารัฐบาลไม่สนใจเรื่องนี้ ก็มีการตรวจสอบมีการดำเนินคดี มีการสอบสวนอยู่ แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้บานปลาย จึงขอไปยังสถานศึกษาครูอาจารย์ซึ่งเท่าที่ดูจากฝ่ายความมั่นคงมีอยู่หลายคน

นายกรัฐมนตรี ขอร้องแล้วกัน สั่งสอนเด็กไม่ใช่ สอนไม่ให้คนไม่เคารพพ่อแม่ไม่เคารพครูบาอาจารย์หรือเคารพกฎหมาย แก้วหากเกิดการแตกร้าว จะประสานกลับคืนมาเหมือนเดิมไม่ได้

“ขอร้องเถอะครับ ซึ่งเมื่อเกิดคดีความก็เป็นเรื่องของกฎหมายของศาล ขออย่าทำ อย่าเหิมเกริม ทำมากขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่เกรงกลัว กฎหมายก็ต้องเป็นกฎหมาย ในการออกหมายเรียกให้มาตักเตือนปรับปรุงตัว หลายคนก็เข้าใจปรับปรุงตัวเอง ขอให้ระมัดระวังการจะทำอะไรที่ผิดกฎหมาย แต่ละคดีต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้มีเพียงพอส่งฟ้องอัยการและต่อสู้คดีกันในศาล เราจะปล่อยให้เกิดขึ้นแบบนี้อีกหรือ”

พลเอกประยุทธ์ ยืนยันว่า ตนไม่ได้ต้องการอำนาจ ไม่ได้ต้องการอะไรเลยเพราะอำนาจต้องมาพร้อมความรับผิดชอบ การใช้อำนาจก็ต้องใช้อย่างระมัดระวัง ไม่ใช่นึกจะทำอะไรก็ทำได้ทุกอย่าง ตนดูแลทั้งหมดไม่ว่าจะเรื่องงบประมาณเนื่องจากตนเป็นผู้กำหนดนโยบายและสั่งให้มีการตรวจสอบเข้าสู่การพิจารณาคณะรัฐมนตรีมีการตรวจสอบทุกกระทรวงและทำให้เกิดการพัฒนาก้าวหน้าของประเทศมามากมาย ให้ทุกพรรคไม่ได้เลือกที่จะให้

ยืนยันว่าตนไม่เป็นศัตรูกับใครทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลและเห็นว่าทุกกระทรวงก็มีผลงานทั้งหมดและตน ก็ร่วมการตัดสินใจในการบริหารรัฐบาลร่วมกัน ซึ่งตนใช้อำนาจตามกฏหมายตามระเบียบปฏิบัติต่างๆ หลายคนออกมาพูดไม่มีการพูดเชิงบริหารกันเลยว่าเป็นห่วงว่าจะทำได้จริงหรือไม่ หากเกิดปัญหาก็จะเกิดปัญหาความมั่นคง ความปลอดภัยประเทศ ก็อยู่ท่ามกลางความขัดแย้งอีก ยืนยันว่าตนทำเพื่อประเทศไทยและร่วมมือกับทุกพรรคการเมือง ใช้จ่ายงบประมาณอย่างระมัดระวังเพื่อเตรียมงบกลางเป็นงบสำรองเพื่อใช้กับสถานการณ์ฉุกเฉิน ให้มีเพียงพอให้งานเดินหน้าต่อไปได้และอย่าลืมว่าสถานการณ์โควิดกระทบต่อเศรษฐกิจ

 

 

 

 

เมื่อมาดูว่าวันนี้สถานการณ์มันดีขึ้นซึ่งนายกฯ ก็เป็นผู้นำในการแก้ปัญหาและขับเคลื่อนทุกหน่วยงานร่วมมือกันจึงสำเร็จได้มาถึงทุกวันนี้ ไม่ได้หมายความว่าตนเก่งที่สุด ไม่ใช่ กรุณาทำความเข้าใจให้ประชาชนเข้าใจด้วย ขอให้ได้รัฐบาลที่ดีดี ซื่อสัตย์สุจริต ทำในสิ่งที่เป็นไปได้และสำเร็จและเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

ส่วนคดีความก็ให้ว่ากันไปเพราะได้สั่งการการอนุมัติทุกครั้งทุกกระทรวงให้มีความสุจริตโปร่งใส เป็นธรรมและเป็นไปตามระเบียบข้อกฎหมายทุกประการ ทำไมตนจะไม่อยากให้ ถ้าสามารถให้ได้แต่ก็ต้องดูว่าการใช้งบประมาณนั้นจะเกิดปัญหาหรือไม่ การใช้งบประมาณเพื่องานพื้นฐานของประชาชนและการดูแลภาคการเกษตร สาธารณสุข ฝากให้ผู้ที่จะมาเป็นรัฐบาลหน้าใครจะมาเป็นก็ตาม ขอให้บริหารงบประมาณอย่างดีที่ผ่านมาจำเป็นต้องกู้เพื่อนำมาดูแลวัคซีน การซื้อยา การรักษาพยาบาล ดูแลเยียวยาภาคธุรกิจ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อไม่ให้ธุรกิจไม่ล้ม ดูแลภาคแรงงานไม่ได้ใช้ส่วนตัวสักบาทเดียว

นายกฯ ระบุว่า ไม่อยากให้ฟังแล้วก็นำไปวิพากษ์วิจารณ์กันไปเรื่อยเปื่อย ขอให้เห็นใจประเทศของเรากันบ้าง นี่คือประเทศของเรา ถ้าเราแตกแยกกันอยู่อย่างนี้มันไม่มีอะไรดีขึ้นเลย วันนี้ตนจำเป็นต้องพูดเพราะว่ามันแรงขึ้นทุกวัน เราต้องค่อย ๆ ลดอุณหภูมิลงมาเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง ให้การเลือกตั้งที่มีประสิทธิภาพได้รัฐบาลที่ดี ตนไม่ได้ว่าใครไม่ดี ขอให้เลือกที่ดี ๆ เข้ามา ฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาล

“ผมไม่ได้ยืนยันว่าต้องเป็นผมตลอดไปเมื่อไหร่ล่ะ ต้องขึ้นอยู่กับประชาชนจะเลือกหรือไม่เลือก อย่างไร และไม่อยากให้โจมตีกันไปมาจนเสียหาย ซึ่งผมก็รักษามารยาทกับทุกพรรค พรรคพลังประชารัฐก็ได้เปิดตัวกันแล้ว ผมจึงจำเป็นต้องพูดวันนี้เพื่อจะได้ไม่สับสนอลม่านกัน เพื่อเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง ช่วงนี้ขออย่างเดียว ขอให้บ้านเมืองสงบสุข มันถึงจะเลือกตั้งได้ คิดในเชิงสร้างสรรค์ที่เป็นไปได้ สิ่งที่ควรจะเป็น เรามีความพร้อมทุกอย่าง ถ้าเลือกทำใรสิ่งที่ถูกต้อง ดีงาม สุจริตโปร่งใส ประเทศไทยไม่น่อยหน้าใครเลย

พลเอกประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนใบสมัครพรรครวมไทยสร้างชาติเดี๋ยวทางพรรคก็คงส่งมา

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กรวีร์" ไม่อยู่เฉยๆ โพสต์เตือนสติราชสีห์ เคยต้องพึ่งหนู สะพัดภูมิใจไทย โดนพท.บีบหนัก ต้องตอบรับเงื่อนไข สลับกระทรวงมท.หรือไม่ ภายใน 48 ชม.
"สันติสุข" เทียบเจ็บ "ฮุน เซน" เหมือนคนคลั่งยา จับสมาชิกครอบครัวเป็นตัวประกัน ปลุกระดมทะเลาะไทย พาคนในชาติเดือดร้อนทั่วหน้า
วธ.เตรียมจัดใหญ่งานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย กลางใจกรุงเทพฯ มางานเดียวเหมือนได้เที่ยวทั่วไทย
เพื่อไทยกร้าวสุด "สส.อีสาน" เล่นใหญ่ เสนอกลางวงประชุมพรรค ลั่นถึงเวลาทวง "มหาดไทย" คืน
กลาโหมกัมพูชากล่าวหาไทยละเมิด MOU 2543
สถานทูตในอิหร่านเตือนคนไทยออกจากเตหะราน
ครม. เห็นชอบแต่งตั้ง "เกษร" เป็นผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย
อิสราเอลขู่คาเมเนอีระวังมีชะตากรรมเหมือนซัดดัม
ศน. ประกาศผลประกวดบรรยายธรรมระดับประเทศ 24 เยาวชนคนเก่ง รับโล่พระราชทาน "กรมสมเด็จพระเทพฯ"
“ไพบูลย์” ย้ำพปชร.ไม่ร่วมรัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์” หาก “ภูมิใจไทย” ถอนตัวจากพรรคร่วม

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น