เวลา 14.00 น. 21 ธ.ค 2565 ที่บริษัทรีไซเคิล ซึ่งเป็นโรงงานรับซื้อของเก่าในพื้นที่บ้านพันเสด็จใน เลขที่ 234/16 หมู่ 4 ตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี หลังจากที่ได้เกิดเพลิงไหม้กระดาษอัดก้อน และที่ยังไม่อัดก้อนรวมแล้วกว่า 2,000 ตัน ซึ่งเพลิงได้ไหม้กระดาษทั้งหมดที่อยู่ในโกดังตั้งแต่วันที่19 ธันวาคมที่ผ่านมาในเวลา17.00ถึงวันที่20ธันวาคมเวลา10.00น.เพลิงจึงสงบลง แต่เพลิงยังโหมลุกไหม้ที่กองพาสติกซึ่งเป็นชิ้นส่วนเครื่องถ่ายเอกสารจำนวน 2,000 ตัน ซึ่งกองอยู่ริมโกดังกระดาษอัดแท่งซึ่งไหม้ไฟวอดไปแล้วและเพลิงได้สงบลงแล้ว
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและรถดับเพลิงจากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนกว่า 20 แห่งที่ต่างส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยกันดับเพลิงที่ลุกโหมที่กองพาสติกชิ้นส่วนเครื่องถ่ายเอกสารมาอย่างต่อเนื่องทั้งกลางวันและกลางคืนจนมาถึงวันนี้ในเวลา14.00น.จึงสามารถดับไฟที่ลุกโหมเพราะแรงลมกรรโชกได้สำเร็จ เพราะได้นำรถแบ็คโฮจำนวน 2 คันเข้ามาคุ้ยพาสติกชิ้นส่วนเครื่องถ่ายเอกสารออกจากกองเพลิง ไปกองอีกจุดแล้วใช้กระแสน้ำแรงดันสูงจากรถดับเพลิงฉีดเข้าใส่ทั้ง 2 กองสลับกันไปมา จนทำให้การดับเพลิงในครั้งนี้สำเร็จใช้เวลานาน 44 ชั่วโมง ท่ามกลางความดีใจและโล่งใจของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากหลายหน่วยงานที่มาช่วยกันดับเพลิงในครั้งนี้กับทางองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อวิน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 13 (ชลบุรี) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รายงานเกี่ยวกับค่าวัดฝุ่นและก๊าซพิษ ต่อนายบรรพต อุดมศักดิ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อวิน ผู้อำนวยการในการดับเพลิงครั้งนี้มีความเป็นอันตรายต่อประชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่หมู่ 3,4 ตำบลบ่อวินประมาณ 100 หลังคาเรือนที่จะต้องเยียวยาเกี่ยวกับด้านกลิ่นและมลภาวะที่เป็นพิษ แสบจมูกและเหม็น
หลังจากนี้ทางนายบรรพต อุดมศักดิ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อวิน จะนำเจ้าหน้าที่ออกสำรวจผู้ที่ได้รับผลกระทบจากมลภาวะที่เป็นพิษ ที่ส่งกลิ่นเหม็นและแสบจมูก จากกลุ่มควันที่พวยพุ่งออกมาจากกองเพลิงที่ลุกไหม้ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุวันที่19 ธันวาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 17.00น.โดยผู้ที่ได้รับผลกระทบนั้นจะพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ หมู่3,4, ตำบลบ่อวินบางส่วน ผู้ได้รับผลกระทบประมาณ 100 ครอบครัว ที่ต้องการความช่วยเหลือและเยียวยาจากผู้ประกอบการบริษัท รีไซเคิล ซึ่งเป็นโรงงานรับซื้อของเก่าในพื้นที่บ้านพันเสด็จใน ที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ซึ่งผลจากการตรวจสอบสถานการเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นในโกดัง ของเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน2(ชลบุรี)พบว่าเกิดจากกระแสไฟฟ้าในโกดังลัดวงจรจนทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ ค่าเสียหายในครั้งนี้ประมาณ 3-4 ล้านบาทในครั้งนี้ ส่วนความเสียหายจากการที่ถูกเพลิงไหม้ทั้งกระดาษและพาสติก รวมถึงโครงสร้างโกดังที่เสียหายทางกรมโรงงานอุตสาหกรรมให้ทางบริษัทรีไซเคิล ซึ่งเป็นโรงงานรับซื้อของเก่า รื้อขนย้ายออกจากสถานที่ที่เกิดเพลิงไหม้ไม่เกินวันที่ 29 ธันวาคมที่จะถึงนี้
ชำนาญ ใจเอื้อ ผู้สื่อข่าว ประจำ จ.ชลบุรี
