No data was found

หนี้ 4 หมื่นล้าน รัฐบาล – กทม. ต้องร่วมแก้ อย่าปัดภาระให้ BTS

กดติดตาม TOP NEWS

"อัษฎางค์ ยมนาค" จวกปมสายสีเขียว รัฐบาลและสภากรุงเทพมหานครต้องหันมาร่วมกันแก้ปัญหาและหาทางออก ไม่ใช่ปล่อยให้บีทีเอสซึ่งเป็นเอกชน รับภาระอยู่ฝ่ายเดียว

นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค”  โดยระบุข้อความว่า ปัญหาหนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย “เป็นของรัฐบาลและกทม.ที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน”

ปัญหาหนี้ 40,000 ล้านบาท ที่ถูกทวงถาม ได้รับคำตอบจากกรุงเทพมหานครว่า กทม.ยืนยัน ไม่มีเจตนาไม่ชำระหนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย

แต่….หนี้เหล่านี้ยังไม่ผ่านการพิจารณาของสภากรุงเทพมหานคร !

“ผู้ว่าฯ ชัชชาติให้สัญญาหลังจากได้รับตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. ว่าปัญหานี้จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน”

โดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้เคยพูดคุยกับผู้บริหาร กรุงเทพธนาคม เพื่อขอดูสัมปทานการจ้างเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียว หลังรับตำแหน่ง ผู้ว่าฯ กทม. ได้เพียง 1 วัน และกล่าวว่าภายใน 1 เดือน จะได้ความชัดเจนถึงข้อสรุป

แต่จนถึงปัจจุบัน ระยะเวลา 1 เดือนตามสัญญาของผู้ว่าฯชัชชาติก็ยังมาไม่ถึง

“กทม.โยนไปที่รัฐบาล”

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยังกล่าวว่า สัญญาเดิมที่ค้างอยู่ในคณะรัฐมนตรีขณะนี้เกิดขึ้นจากการพิจารณาของคณะกรรมการที่ถูกตั้งขึ้นโดยใช้มาตรา 44

ด้านนายวิศณุ รองผู้ว่าฯ กทม. ให้เหตุผลว่า กทม. สนับสนุนค่าบริการเดินรถและซ่อมบำรุงมาตลอดจนถึงเดือน เม.ย. 2562 จนกระทั่งมีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2562 ให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินโครงการ และได้มีการเจรจาให้เอกชนรับภาระค่าจ้างเดินรถของส่วนต่อขยายที่ 1 ตั้งแต่ พ.ค. 2562

“คำสั่งของ คสช.เป็นอย่างไร”

ย้อนไปเมื่อ 11 เม.ย.62 – คสช. ได้มีคำสั่ง คสช. ตามมาตรา 44 ที่ 3/2562 เรื่อง การดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เพื่อให้การเดินรถเป็นไปอย่างต่อเนื่องเป็นโครงข่ายเดียวกัน (Through Operation) โดยให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นชุดหนึ่งเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การแบ่งปันผลประโยชน์จากค่าโดยสาร เจรจากับผู้รับสัมปทานรายเดิม และจัดทำร่างสัญญาร่วมลงทุน พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว

ซึ่งสาเหตุของเรื่องนี้มาจาก โครงการดังกล่าวมีสัญญาดำเนินงานแตกต่างกันในแต่ละช่วง อาจทำให้มีปัญหาการบูรณาการ การบริหารโครงการและสัญญาที่ไม่มีความเป็นเอกภาพ ถ้าต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ในการแก้ปัญหา อาจทำให้โครงการนี้ล่าช้าอีก 2-3 ปี ซึ่งรัฐบาลไม่อยากให้เกิดปัญหาการเดินรถที่ไม่มีความต่อเนื่องจึงเป็นที่มาของการออกคำสั่งดังกล่าว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

“บีทีเอสเคลื่อนไหว”

21 พ.ย. บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ตั้งโต๊ะแถลงชี้แจง
พร้อมเผยแพร่คลิปวิดีโอบนรถไฟฟ้าบีทีเอส เพื่อ “ทวงหนี้ 40,000 ล้านบาท” โดยมีข้อความว่า

“คนเราจะอดทนกับการแบกหนี้ได้นานแค่ไหน… ทำงานแต่ไม่ได้เงิน ต้นทุนเพิ่มขึ้นทุกวัน”

“ผู้มีอำนาจโยนไปโยนมา ไร้การตัดสินใจ ถึงเวลาเข้ามาจัดการปัญหาอย่าหนีปัญหา… อย่าปล่อยให้เอกชนสู้เพียงลำพัง ถึงเวลาจ่ายหนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียว 40,000 ล้าน ติดหนี้ต้องจ่าย”

“สรุป”

จุดเริ่มต้นของปัญหามาจากการที่รัฐบาลเห็นถึงปัญหา สัญญาการเดินรถ(เดิม)ดำเนินงานแตกต่างกันในแต่ละช่วง อาจทำให้มีปัญหาการบูรณาการ การบริหารโครงการและสัญญาที่ไม่มีความเป็นเอกภาพ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ถูกต้องแล้วที่รัฐบาลต้องการให้เกิดความเป็นเอกภาพ

แต่ปัญหาคือ ความไม่ชัดเจนและการขาดการบริหารจัดการ ที่สำคัญคือเมื่อรัฐบาลกลางโอนเรื่องนี้ให้กรุงเทพมหานครแล้วก็ปล่อยเรื่องนี้ไว้ที่ กทม.

ในขณะที่ กทม.ก็โยนปัญหานี้กลับไปที่รัฐบาล โดยรองผู้ว่าฯ กทม. อ้างว่า “บันทึกมอบหมายยังไม่สมบูรณ์” เนื่องจากลงนามมอบหมายในวันที่ 28 ก.ค. 2559 โดยที่ยังไม่ได้มีการทำโครงการเสนออนุมัติงบประมาณจากสภา กทม.

สิ่งที่ควรทำในขณะนี้ ไม่ใช่ไปตามหาว่าใครผิดใครถูก แต่รัฐบาลและสภากรุงเทพมหานครต้องหันมาร่วมกันแก้ปัญหาและหาทางออก ไม่ใช่ปล่อยให้บีทีเอสซึ่งเป็นเอกชน รับภาระอยู่ฝ่ายเดียว

 

ทั้งรัฐบาลและกรุงเทพมหานครเป็นตัวแทนของประชาชน บริษัทบีทีเอส ก็เป็นกิจการประชาชน ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของประชาชน เพราะฉะนั้นอย่าหนีปัญหา หยุดโยนไปมา แต่ถึงเวลาแสดงความเป็นเป็นผู้บริหารราชการแผ่นดินที่ประชาชนฝ่กความหวังเอาไว้

เนื่องจากผลประโยชน์ทั้งหมดจะตกถึงรัฐบาล กรุงเทพมหานคร บริษัทบีทีเอส และที่สำคัญที่สุดคือประชาชน

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จนท.รับกำจัดกากสารเคมีโรงงานวินโพรเสส จว.ระยอง เร่งขนย้าย อะลูมิเนียม ดรอส - กรดกัดแก้ว ล็อตแรก 100 ตัน
"ตร.ไซเบอร์" รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์โหด ทุบตี-ชอร์ตไฟ บังคับสมุนทำยอดสัปดาห์ละ 20 ล้านบาท
ล่าระทึก กระโดดลงจับพ่อค้ายาพลังม้ากลางแม่น้ำปัตตานี สอบสวนกลาง ยึดของกลางยาบ้าได้ 42 เม็ด
อัปเดตอาการล่าสุด “ตะวัน” แพทย์ดูแลใกล้ชิด เศร้าหนักอยากมาส่ง "บุ้ง" เป็นครั้งสุดท้าย
นักตกปลาขับรถมาจอดตกปลา ลืมเสียบกุญแจทิ้งไว้ที่รถ เจอกัมพูชาติดยาขโมยรถขับเที่ยว
"ก้าวไกล" หักในไม่ส่ง "ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง" ชิงนายกอบจ.อดดู "ศึกสายเลือด" เปิดทาง "บิ๊กแจ๊ส" ยืนซดหมัด "ลุงชาญ"
"ตำรวจกองปราบ" รวบบัญชีม้าแก๊งคอลฯ อ้างเป็นตำรวจ ลวงเหยื่อสูญเงินนับแสน
จิตใจทำด้วยอะไร หนุ่มพบ "ศพทารก" ถูกยัดใส่ถุงโยนทิ้งคลอง เชื่อแม่เด็กต้องเป็นคนในพื้นที่
กรมอุตุฯ เตือน ไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก 20-23 พ.ค.นี้ ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก
จยย.ปริศนาถูกทิ้งให้จมน้ำท่าขึ้น-ลง เรือเจ็ทสกี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น