วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2565 นายชนะ เบ็ญพาด อายุ 60 ปี พิการขาซ้ายต้องใช้ไม่ค้ำ นางกนกนิภา เบ็ญพาด อายุ 62 ปี พิการขาซ้ายหมอทำการผ่าตัดขาทิ้ง เป็นสองผัวเมีย หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าสองตายาย คู่ชีวิต ในแบบมาราธอน จากการประสบอุบัติเหตุรถ10 ล้อทับเมื่อประมาณ 2516 รวมก็ 49 ปี ได้รักษาตัวมา ส่วนคุณพ่อป่วย ฉีดยาและเกิดอาการ มือไม้ไม่มีแรง ทำให้เกิดเดินลำบากต้องใช้ไม้ค้ำยัน ทั้งสองใช้ชีวิตในแบบประคับประคองทำมาหากิน ทำสวนปลูกผักนำไปขาย เลี้ยงลูกชาย 3 คน จนได้บวช ส่วนลูกสาวอีก 1 คนเรียนพยาบาล

การจัดงานบรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบง่ายตามประเพณี มีการโกนหัว ทำขวัญ แห่นาครอบตัวชุมชนบ้านหัวสำโรง ก่อนเข้าวนพระอุโบสถ ต้องบอกเลยว่า ชาวบ้าน ญาติสนิท มิตรสหายเกือบหนึ่งพันคนเนืองแน่น เรียกว่าติดขอบกำลังใจ ด้วยนายชนะ เบ็ญพาด อายุ 60 ปี พิการขาซ้ายต้องใช้ไม้ค้ำ นางกนกนิภา เบ็ญพาด อายุ 62 ปี พิการขาซ้ายหมอทำการผ่าตัดขาทิ้ง เป็นสองผัวเมีย ถึงจะขาพิการมาอย่างยาวนานถึง 49 ปี แต่เป็นคนสู้ชีวิตไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา สู้ฟันฝ่าด้วยลำแข้ง และเอื้อเฟื้อพืชผักให้เพื่อนบ้าน จนชาวบ้านทั้งตำบลหัวสำโรงต่างรักในครอบครัวนี้ที่ถือเป็นแบบอย่างที่ดี

ซึ่งจะเห็นรอยยิ้มของทั้งสองผัวเมียที่นั่งบนรถสามล้อโยก ในการร่วมขบวนแห่นาคอย่างมีความสุขก่อนจะเปิดใจเล่าเรื่องราวชีวิตผ่านผู้สื่อข่าวฉะเชิงเทรา บนความภาคภูมใจของตนเอง ส่วนขบวนแห่นาคสนุกสนานอย่างมาก ตลอดการแห่จากบ้านผ่านตัวตลาดชุมชนหัวสำโรงที่กว่าจะถึงวัดเล่นไปซะเกือบสามชั่วโมง ทั้งๆบ้านอยู่ห่างจากวัดหัวสำโรงเพียงไม่ถึง 1 กม. หลังแห่เสร็จเข้าพิธีตามหลักพระพุทธศาสนาออกมาก็มีชาวบ้านต่างรอใส่บาตรด้วยเงินสดตามความเชื่อหากใส่พระบวชใหม่จะเฮงๆรวย ๆขณะที่พ่อแม่ยิ้มปลื้มดีใจภูมิใจในวันนี้ที่รอคอย

สราวุฒิ บุญสร้าง ผู้สื่อข่าว ประจำ จ.ฉะเชิงเทรา

