SGC พร้อมเทรด “SET” 13 ธ.ค.นี้ ก้าวสู่ผู้นำธุรกิจสินเชื่อ

SET, SCG, ธุรกิจสินเชื่อ, บริการสินเชื่อ, สินเชื่อเช่าซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าสินค้าเชิงพาณิชย์, สินเชื่อสวัสดิการพนักงาน, สินเชื่อผ่อนทอง, ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ, ลูกหนี้สินเชื่อ, พอร์ตสินเชื่อ, สินเชื่อสวัสดิการพนักงาน, สินเชื่อรถทำเงิน

กดติดตาม TOP NEWS

SGC พร้อมเทรด "SET" 13 ธ.ค.นี้ ก้าวสู่ผู้นำธุรกิจสินเชื่อภายใน 4 ปี พอร์ตทะยานสู่ 50,000 ล้าน

SGC พร้อมเทรด “SET” ลั่นระฆังวันแรก 13 ธ.ค.นี้ เสริมศักยภาพการขยายพอร์ตสินเชื่อ มุ่งสู่ 50,000 ล้านบาท ในปี 2569 ติดตามต่อได้ที่นี่ TOP News

 

 

 

SGC หุ้นสินเชื่อชั้นนำ พร้อมลั่นระฆังเทรดวันแรกใน “SET” 13 ธันวาคมนี้ มั่นใจนักลงทุนตอบรับ เงินระดมทุนใช้เสริมศักยภาพการขยายพอร์ตสินเชื่อ มุ่งสู่ 50,000 ล้านบาท ในปี 2569 โดยมีสินเชื่อรถทำเงิน เป็นเรือธงที่จะเติบโตก้าวกระโดด

 

 

นางสาวบุษบา กุลศิริธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC กล่าวว่า บริษัทฯ พร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“SET”) ในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ ในหมวดธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ โดยใช้ชื่อย่อ SGC เป็นอีกก้าวสำคัญสู่ความยั่งยืน และเชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพของ SGC ในธุรกิจสินเชื่อที่มีความเชี่ยวชาญกว่า 10 ปี มี DNA ของบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) (SINGER) สร้างความโดดเด่นให้ธุรกิจ

 

 

 

นำจุดแข็งด้านประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของทีมผู้บริหารและพนักงาน ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ และมีเครือข่ายพันธมิตรกว่า 4,100 แห่ง รวมไปถึงการ Synergy ร่วมกับกลุ่มธุรกิจที่แข็งแกร่ง ทั้งบริษัท SINGER กลุ่มบริษัท JMART และพันธมิตรของบริษัทในเครือ คอยช่วยแนะนำผลิตภัณฑ์และต่อยอดโอกาสขยายธุรกิจไปสู่ผลิตภัณฑ์สินเชื่อประเภทอื่น ๆ ทำให้ SGC มีความได้เปรียบในการแข่งขัน และสามารถสร้างโอกาสการเติบโตได้อย่างน่าสนใจในอนาคต

 

 

SET, SCG, ธุรกิจสินเชื่อ, บริการสินเชื่อ, สินเชื่อเช่าซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าสินค้าเชิงพาณิชย์, สินเชื่อสวัสดิการพนักงาน, สินเชื่อผ่อนทอง, ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ, ลูกหนี้สินเชื่อ, พอร์ตสินเชื่อ, สินเชื่อสวัสดิการพนักงาน, สินเชื่อรถทำเงิน

จากแผนระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพฐานทุนของ SGC ให้แข็งแกร่งขึ้น พร้อมที่จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ ก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจสินเชื่อของประเทศไทย ที่มีพอร์ตเติบโตแตะระดับ 50,000 ล้านบาทภายในปี 2569 โดยเงินที่ได้จากการระดมทุน เตรียมนำไปใช้เป็นเงินทุนในการขยายธุรกิจการให้บริการสินเชื่อ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และนำไปชำระเงินกู้ยืม SINGER ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท

 

 

 

นายประเสริฐ ตันตยาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วม เปิดเผยว่า SGC มีพอร์ตสินเชื่อเติบโตอย่างโดดเด่น หรือเติบโตขึ้นประมาณ 74.0% (CAGR จากปี 2562 – 2564) และเมื่อสิ้นงวดไตรมาส 3/2565 บริษัทฯ มีพอร์ตลูกหนี้สินเชื่อเท่ากับ 15,102 ล้านบาท สูงขึ้นประมาณ 37.8% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564 ชูโรงสินเชื่อประเภทให้เช่าซื้อรถยนต์แบบโอนกรรมสิทธิ์เล่มทะเบียน และสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน ภายใต้แบรนด์ รถทำเงิน มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ รวมไปถึงการให้บริการอย่างครอบคลุม

  • สินเชื่อเช่าซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าสินค้าเชิงพาณิชย์
  • สินเชื่อสวัสดิการพนักงาน
  • สินเชื่อผ่อนทอง

 

 

 

สำหรับโอกาสของ SGC ในตลาดสินเชื่อรถทำเงิน ซึ่งเป็นพอร์ตธุรกิจที่บริษัทโฟกัส ยังเติบโตได้อีกไกลจากภาพรวมในประเทศไทย มีจำนวนรถจดทะเบียนสะสมเพิ่มขึ้นจาก 38.3 ล้านคันในปี 2560 เป็น 43.2 ล้านคันในเดือนตุลาคมของปี 2565 และสำหรับรถบรรทุกซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของบริษัทฯ เติบโตขึ้นจาก 1.1 ล้านคันในปี 2560 เป็น 1.2 ล้านคันในเดือนตุลาคมของปี 2565 เป็นโอกาสให้ SGC ขยายการเติบโตสอดรับกับภาพรวมอุตสาหกรรมที่มีความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้น และเป็นโอกาสในการแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาด จึงมั่นใจว่า SGC จะเป็นอีกหุ้นน้องใหม่ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้นักลงทุนได้ในระยะยาวได้

 

 

 

SET, SCG, ธุรกิจสินเชื่อ, บริการสินเชื่อ, สินเชื่อเช่าซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าสินค้าเชิงพาณิชย์, สินเชื่อสวัสดิการพนักงาน, สินเชื่อผ่อนทอง, ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ, ลูกหนี้สินเชื่อ, พอร์ตสินเชื่อ, สินเชื่อสวัสดิการพนักงาน, สินเชื่อรถทำเงิน

 

 

 

 

 

 

นางยอดฤดี สันตติกุล กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้น IPO ของ SGC ในช่วงที่ผ่านมา จำนวน 820 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 3.90 บาท ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเกินกว่าคาดหมาย ตอกย้ำถึงศักยภาพและความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ ที่มีการเติบโตของผลการดำเนินงานต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา

 

 

 

รวมถึงมองเห็นโอกาสการเติบโตในอนาคต ชูจุดเด่น SGC เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อที่มีการอนุมัติอย่างรวดเร็วและมีระบบพิจารณาความเสี่ยงของลูกหนี้ได้ดี นอกจากนี้ยังได้ผลบวกจากแนวโน้มค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลงหลังจากได้เงินระดมทุนจาก IPO โดยสามารถระดมทุนได้ทั้งสิ้น 3,104.85 ล้านบาท (หลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง) ซึ่งจะเสริมศักยภาพและความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงินแก่ SGC เพื่อรองรับการขยายธุรกิจต่อไป

 

 

ด้าน นางวันทนา เพชรฤกษ์วงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วม และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม กล่าวเสริมว่า การเข้าจดทะเบียนของ SGC ในครั้งนี้ จะยิ่งช่วยเสริมภาพลักษณ์ และศักยภาพการเป็นผู้นำตลาดที่เข้มแข็ง ด้วยแนวคิดการเป็นทั้งคู่คิดและคู่ค้า ทำให้วันนี้ SGC สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างแท้จริง

 

 

 

SET, SCG, ธุรกิจสินเชื่อ, บริการสินเชื่อ, สินเชื่อเช่าซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าสินค้าเชิงพาณิชย์, สินเชื่อสวัสดิการพนักงาน, สินเชื่อผ่อนทอง, ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ, ลูกหนี้สินเชื่อ, พอร์ตสินเชื่อ, สินเชื่อสวัสดิการพนักงาน, สินเชื่อรถทำเงิน

 

 

 

พร้อมด้วยการนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น สนับสนุนการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อที่ก้าวกระโดด ควบคู่การควบคุมลูกหนี้ที่มีการด้อยค่าด้านเครดิต (NPL) ต่อสินเชื่อรวมอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง วางเป้าหมายไม่เกิน 4% จากงวด 9 เดือนแรกปีนี้อยู่ที่ 3.7% ขณะที่ อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้น (D/E) ในปัจจุบันอยู่ที่ราว 5.3 เท่า หลังจากระดมทุนครั้งนี้ จะส่งผลให้ D/E ที่ปรับปรุงด้วยมูลค่าการเสนอขาย ลดลงเป็นประมาณ 2.3 เท่า ช่วยเสริมศักยภาพการขยายธุรกิจ และสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนในอนาคต

 

 

 

สำหรับภาพรวมรายได้ของบริษัทฯ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2562 – 2564) มีรายได้รวมอยู่ที่ 891.52 ล้านบาท 1,362.96 ล้านบาท และ 1,781.82 ล้านบาท ตามลำดับ กำไรสุทธิอยู่ที่ 119.36 ล้านบาท 416.58 ล้านบาท และ 593.03 ล้านบาท ตามลำดับ ล่าสุด ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 SGC มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,665 ล้านบาท เติบโต 27% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีสัดส่วนรายได้หลักมาจากรายได้ดอกเบี้ย ประกอบด้วย

  • รายได้ดอกเบี้ยจากสินเชื่อรถทำเงิน 46%
  • รายได้ดอกเบี้ยจากสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องจักร สัดส่วน 51%
  • รายได้ดอกเบี้ยสินเชื่อสวัสดิการพนักงาน
  • ดอกเบี้ยสินเชื่อผ่อนทองและสินเชื่ออื่น ๆ และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 467 ล้านบาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น