“นายกฯ” ชื่นชมทีมนักวิจัย มทร.อีสานสร้างรถบัสไฟฟ้า

โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ชื่นชมความสำเร็จทีมนักวิจัย มทร.อีสาน วิทยาเขตขอนแก่น สร้างรถบัสไฟฟ้า (Electric Bus) ใช้พลังงานไฟฟ้า 100%

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมความสำเร็จของนักวิจัยไทย ผลิตรถบัสไฟฟ้า Electric Bus ใช้พลังงานไฟฟ้า 100%

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า รถบัสไฟฟ้า ถือเป็นผลงานความสำเร็จของคนไทย จากทีมวิจัยคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น ร่วมกับ บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นงานวิจัยที่ได้รับงบประมาณและการสนับสนุนจาก สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)

“รัฐบาลเชื่อมั่นในศักยภาพและชื่นชมในความสามารถของคนไทย เมื่อคนไทยมีโอกาสและได้รับการสนับสนุนแล้ว ย่อมมีความสามารถไม่แพ้ใคร รวมทั้ง เชื่อว่าความสำเร็จจากรถบัสไฟฟ้าต้นแบบนี้จะต่อยอดไปยังความสำเร็จด้านนวัตกรรมอื่นๆ ตามมา”

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยในการวิจัยและพัฒนารถบัสพลังงานไฟฟ้า 100% นี้ เมื่อชาร์จ 1 ครั้งสามารถวิ่งได้ไกลถึง 250 กิโลเมตร สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยการชาร์จไฟใช้เวลาประมาณ 2 ชม. และเป็นการออกแบบที่อำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร เพราเป็นรถชานต่ำ ผู้โดยสารก้าวขึ้น-ลงได้ง่าย รวมทั้ง ใช้ระบบกักเก็บพลังงานแบบผสมระหว่างแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออน และอัลตร้าคาปาซิเตอร์ (Ultracapacitors) สำหรับระบบขนส่งสาธารณะในเมือง

“รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาทุนมนุษย์ของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของคนไทยเพื่อพัฒนานวัตกรรม วช. ต้องการสนับสนุนให้นักวิจัยได้สร้างผลงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย คือ ต่อยอด 5 อุตสาหกรรมเดิม 1. อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ (Next-Generation Automotive) 2. อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ (Smart Electronics) 3. อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดี และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Affluent, Medical and Wellness Tourism) 4. อุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ (Agriculture and Biotechnology) และ 5.อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร (Food for the Future)

เพิ่มเติมด้วยอีก 5 อุตสาหกรรมใหม่ ที่รัฐบาลต้องการเพิ่มศักยภาพ 1. หุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม (Robotics) 2. อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ (Aviation and Logistics) 3. อุตสาหกรรมดิจิทัล (Digital) 4. อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ (Biofuels and Biochemical) 5. อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร (Medical Hub) ทั้งนี้ เพื่อการพัฒนาศักยภาพด้านการแข่งขันของประเทศ และเพื่อให้เท่าทันการพัฒนาด้านนวัตกรรมของโลกในอนาคต” นายอนุชาฯ กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สันติสุข" เทียบเจ็บ "ฮุน เซน" เหมือนคนคลั่งยา จับสมาชิกครอบครัวเป็นตัวประกัน ปลุกระดมทะเลาะไทย พาคนในชาติเดือดร้อนทั่วหน้า
วธ.เตรียมจัดใหญ่งานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย กลางใจกรุงเทพฯ มางานเดียวเหมือนได้เที่ยวทั่วไทย
เพื่อไทยกร้าวสุด "สส.อีสาน" เล่นใหญ่ เสนอกลางวงประชุมพรรค ลั่นถึงเวลาทวง "มหาดไทย" คืน
กลาโหมกัมพูชากล่าวหาไทยละเมิด MOU 2543
สถานทูตในอิหร่านเตือนคนไทยออกจากเตหะราน
ครม. เห็นชอบแต่งตั้ง "เกษร" เป็นผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย
อิสราเอลขู่คาเมเนอีระวังมีชะตากรรมเหมือนซัดดัม
ศน. ประกาศผลประกวดบรรยายธรรมระดับประเทศ 24 เยาวชนคนเก่ง รับโล่พระราชทาน "กรมสมเด็จพระเทพฯ"
“ไพบูลย์” ย้ำพปชร.ไม่ร่วมรัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์” หาก “ภูมิใจไทย” ถอนตัวจากพรรคร่วม
สร.รฟท. ลงพื้นที่อีสาน ให้กำลังใจทหาร "ตาเมือนธม" คารวะทำหน้าที่ ปกป้องอธิปไตยแผ่นดิน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น