มท.1 ประชุมติดตามการป้องกัน ควบคุม และแก้ไขโควิด-19 ผ่านระบบ VCS ร่วมกับผู้ว่าฯ – นายอำเภอ ทั่วประเทศ และกรุงเทพมหานคร เน้นย้ำ สร้างการรับรู้ประชาชนปฏิบัติมาตรการ DMHTTA อย่างเข้มข้น

กดติดตาม TOP NEWS

วันนี้ (24 ก.ค. 64) เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมราชสีห์ ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินการป้องกัน ควบคุม และแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยมี นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุม โดยเป็นการประชุมผ่านระบบ Video Conference ร่วมกับนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และนายอำเภอ ทั่วประเทศ

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวว่า ขอชื่นชมผู้ว่าราชการจังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ตลอดจนทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในด้านการสร้างระบบการส่งต่อผู้ป่วยกลับภูมิลำเนา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของจังหวัดที่สามารถช่วยแบ่งเบาการบริหารสถานการณ์ระบาดในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ซึ่งในขณะนี้การระบาดของโควิด-19 ค่อนข้างรุนแรง โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีบัญชาให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดช่วยเหลือประชาชนที่ติดเชื้อโควิด-19 ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือที่ใด ให้เข้าสู่ระบบโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ด้วยการทำงานบูรณาการกันทุกภาคส่วน ลดขั้นตอน ลดช่องทาง เพิ่มการประสานงาน ตอบสนองให้เร็ว ดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับการดูแลรักษาพยาบาลตามขั้นตอนที่กำหนด โดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบค.) และกระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดและเน้นย้ำมาตรการในการบริหารจัดการเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อ โดยใช้ระบบแยกกักตัวที่บ้านสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 (Home Isolation) และการแยกกักในชุมชน (Community Isolation) ตามคำวินิจฉัยของแพทย์ ซึ่งต้องมีการจัด Observation Kit Bag (กระเป๋าชุดสังเกตการณ์) และบุคลากรทางการแพทย์ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนดูแลผู้ป่วยในระบบดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อบรรเทาการบริหารจัดการเตียงผู้ป่วยให้เพียงพอรองรับผู้ป่วยระดับต่าง ๆ

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา เน้นย้ำว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด สร้างการรับรู้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่วนบุคคล ซึ่งเป็นพื้นฐานทำให้ลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 คือ มาตรการ DMHTTA ได้แก่ รักษาระยะห่างระหว่างกัน ไม่พบปะหรือไปยังสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก การสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธี หมั่นล้างมือด้วยน้ำสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ล้างมือสม่ำเสมอ ตรวจวัดอุณหภูมิ ตรวจเชื้อโควิด-19 ใช้แอปหมอชนะ/ไทยชนะ อย่างเข้มข้น ด้วยทุกกลไกของกระทรวงมหาดไทยในระดับพื้นที่ ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน หอกระจายข่าว และเสียงตามสายในพื้นที่ นอกจากนี้ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งบูรณาการหน่วยงานทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการสนับสนุนมาตรการในการบริหารจัดการเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อในพื้นที่อย่างเต็มกำลัง เพื่อให้การจัดการเกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด

จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรปราการ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา รายงานการดำเนินการป้องกัน ควบคุม และแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้กล่าวถึงการใช้จ่ายงบประมาณในการดำเนินการป้องกันและควบคุมโรค

นายทรงศักดิ์ ทองศรี กล่าวว่า ตัวเลขของการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากคนที่ไม่รู้ว่าตนเองมีเชื้อ ซึ่งส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกำหนดมาตรการการตรวจเชิงรุก และหาวิธีการบำบัดรักษาในเบื้องต้น เพื่อลดการสูญเสียชีวิต นอกจากนี้ ให้ใช้กลไกกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในการติดตามรับคนกลับมารักษาตัวที่บ้าน

นายนิพนธ์ บุญญามณี กล่าวว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสร้างความเข้าใจและความมั่นใจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ในเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์มากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน ยารักษาโรคโควิด-19 และอุปกรณ์ตรวจเชื้อเบื้องต้น เพื่อให้มีกลไกรัฐ (องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.)) ไปดูแลประชาชนอย่างเต็มที่

สุดท้าย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวว่า ขอให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัดปริมณฑล ควบคุมการแพร่ระบาดผ่านกลไกและมาตรการอย่างเข้มข้น รวมทั้งในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องควบคุมการแพร่ระบาดพร้อมสกัดกั้นการแพร่ระบาดตามแนวชายแดนไม่ให้แพร่กระจายไปยังพื้นที่อื่นอย่างเต็มกำลัง เพื่อลดปัญหาการแพร่ระบาด นอกจากนี้ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดบริหารจัดการขยะติดเชื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้ากากอนามัยใช้แล้ว ให้เป็นไปตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขและมาตรการที่กระทรวงมหาดไทยโดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้กำชับและแจ้งแนวปฏิบัติ และขอเป็นกำลังใจให้ทุกจังหวัดดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้น สร้างความเข้าใจ และความร่วมมือของทุกภาคส่วน เพื่อให้เราผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 ไปด้วยกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

-

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น