logo

เปิด 2 ข้อเสนอ กทม.แก้รถไฟฟ้าสีเขียว ผลงาน “ชัชชาติ” ศึกษานาน 2 ปี

เปิด 2 ข้อเสนอ กทม.แก้รถไฟฟ้าสีเขียว ผลงาน "ชัชชาติ" ศึกษานาน 2 ปี

สืบเนื่องจากการที่สภากทม.เสนอให้ถอนญัตติของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เรื่องแนวทางการแก้ไขปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยให้เหตุผลว่า การพิจารณาจัดเก็บค่าโดยสาร เป็นอำนาจการตัดสินใจของผู้ว่าฯกทม. และ การพิจารณาอนาคตรถไฟฟ้าสายสีเขียว เป็นไปตามคำสั่งคสช.ตามมาตรา 44 ไม่ใช่อำนาจการพิจารณาของสภากทม.

ต่อมานายชัชชาติ ระบุว่า เป็นหน้าที่ของกทม.ในการพิจารณารายละเอียดทั้งหมด เพื่อตอบคำถามกลับไปยังกระทรวงมหาดไทย โดยคาดว่าจะสามารถส่งคำตอบทั้งหมดได้ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน

ส่วนสาระสำคัญคำตอบ นายชัชชาติ ระบุ จะเป็นเรื่องแนวความคิดของกทม. และเรื่องจำนวนหนี้ก้อนหลัก หรือภาระหนี้ในส่วนของงานโยธา และการดำเนินการต่อไป เพราะขณะนี้บทสรุปโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว อยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี คือ การพิจารณาขยายอายุสัญญาสัมปทานโครงการออกไปจนถึงปี 2602 เพื่อเป็นการแก้ปัญหาหนี้สะสมจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย

อย่างไรก็ตาม จากการได้รับฟังความคิดเห็นของประชาชน พบว่า ส่วนใหญ่อยากให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความโปร่งใส และทำให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด ส่วนเรื่องการจัดเก็บอัตราค่าโดยสาร ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับการพิจารณาของครม. แต่เป็นภาระของกทม.ซึ่งมีปลัดกรุงเทพมหานครเป็นคณะกรรมการร่วม คงไม่มีการนำเสนอความเห็นไปยังกระทรวงมหาดไทย เพราะเป็นเรื่องที่กทม.จะต้องพิจารณาดำเนินการ

ขณะที่แนวคิดเรื่องการจัดเก็บอัตราค่าโดยสารส่วนต่อขยายที่ 2 ซึ่งเคยอ้างว่าจะดำเนินการ เพื่อนำเงินส่วนหนึ่งมาใช้ชำระหนี้ให้กับบริษัทเอกชน นายชัชชาติ ระบุว่า เรื่องนี้ยังไม่จำเป็นต้องรีบเร่ง แต่การพิจารณาต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ และการเริ่มเก็บค่าโดยสารเมื่อใด ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่า จะเริ่มจัดเก็บในปีนี้ ( 2565) หรือ ปีหน้า ( 2566) เนื่องจากในการประชุมสภากทม. ที่ผ่านมา ทางด้านสภาฯ ได้มีข้อทักท้วงในบางประเด็น และ กทม. จะต้องนำไปพิจารณาให้ละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุด วันนี้ ( 8 พ.ย.) แหล่งข่าวจากกรุงเทพมหานคร ระบุว่า กรุงเทพมหานคร ได้ตอบกลับความคิดเห็นเรื่องการแก้ปัญหาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ไปยังกระทรวงมหาดไทยแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ( 4 พ.ย.65) โดยกรุงเทพมหานครได้เสนอความคิดเห็นไป 2 แนวทางประกอบด้วย

1. ให้รัฐบาลรับผิดชอบ ในเรื่องงานโยธาโครงสร้างพื้นฐานของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ( ขออุดหนุนค่าใช้จ่ายโครงสร้างงานโยธา ของส่วนต่อขยายส่วนที่ 2 ช่วงหมอชิต-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ) เช่นเดียวกับโครงการรถไฟฟ้าสายอื่นๆ

2. ขอให้รัฐบาลพิจารณา เรื่องการขยายสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ( ไม่ควรมีการต่อสัมปทาน โดยคำสั่งคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ที่ 3/2562 ) โดยให้เปิดประมูล ผ่าน พ.ร.บ.เอกชนร่วมทุน หรือ PPP ( พระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ) หลังจากสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 2572

 

 

พร้อมขอความคิดเห็นกระทรวงมหาดไทย เรื่องที่ศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาให้ กรุงเทพมหานคร และ บริษัท กรุงเทพธนาคม ชำระหนี้ให้แก่ BTSC

หลังจากขณะนี้ กทม.อยู่ในระหว่างยื่นอุทธรณ์ต่อศาล เนื่องจากก่อนหน้า กทม. ไม่ได้มีการระบุข้อมูลที่ชัดเจนให้กับศาลปกครอง และในการจ่ายค่าจ้างเดินรถส่วนต่อขยายที่ 1 นั้น ที่ผ่านมา กทม. ได้มีการจ่ายค่าจ้างให้แก่เอกชนมาตลอด

แต่เมื่อมีการนำเรื่องการพิจารณาต่อสัญญาสัมปทาน โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยมีการนำเอาหนี้ส่วนนี้รวมเข้ากับการต่อสัญญาสัมปทาน ทางกทม.จึงมีการหยุดจ่ายเงินให้กับเอกชนในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา ดังนั้น หากทางกรุงเทพมหานครจะจ่ายหนี้ในส่วนดังกล่าวให้กับเอกชนจะต้องมีเหตุผลว่า เพราะเหตุใดจึงต้องมีการจ่ายคืนหนี้ให้เอกชน เนื่องจากทางด้าน ครม. ยังไม่มีมติเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมา จึงยืนยันไม่ได้มีการกลั่นแกล้งเอกชนแต่ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนดไว้

 

โดยกรณีเรื่องหนี้สะสมค้างชำระ ก่อนหน้านั้น ศาลปกครองมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2565 ให้กทม. และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ร่วมกันหรือแทนกันชำระเงินให้แก่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นยอดหนี้ค้างชำระตามสัญญาการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง โครงการบริหารจัดการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย

– หนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 จำนวน 2,348,659,232.74 บาท พร้อมดอกเบี้ย ของต้นเงินจำนวน 2,199,091,830.27 บาท

– และหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 จำนวน 9,406,418,719.36 บาท พร้อมดอกเบี้ย ของต้นเงินจำนวน 8,786,765,195.47 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น

โดยให้ชำระให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผู้ช่วย ผบ.ตร พล.ต.ท.ธนายุตม์ ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญพร้อมให้นโยบายแก่ข้าราชการตำรวจ จ.นครราชสีมา
"ทักษิณ" ร่วมงานวันเกิด "นายกฯสมนึก" ย้อนรำลึกสัมพันธ์หลายสิบปี วันนี้กลับมาทวงสส.นนทบุรีคืนยกจังหวัด
เพจดังแฉ 3 นิ้ว ปั่นโหวตร่างนิรโทษฯ 112 จนนาทีสุดท้าย แต่ไร้ผล ล่าสุดเสียงค้านชนะขาดลอย
ทั่วไทยเจอฝนฟ้าคะนอง 24 จว.อ่วม ฝนถล่ม เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน กทม.มีฝน 40 %
"ซีพี" ร่วม "สภากาชาดไทย" เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บริจาคเลือด ตั้งเป้า 10 ล้านซีซี ตามแนวสืบสาน รักษา ต่อยอด
​โครงการกำลังใจในพระดำริ "พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา" ร่วมออกร้านกำลังใจ Inspire จำหน่ายผลิตภัณฑ์ฝีมือผู้ต้องขัง ในงาน OTOP Midyear 2024
"ธรรมนัส" นำผู้บริหารก.เกษตร แถลงจัดมหกรรม "เกษตรพากิน พาเที่ยว" รับนโยบายเพิ่มรายได้เกษตรกร คาดเงินสะพัดกว่า 100 ล้าน
เปิดใจ หนุ่มวัย 23 เล่าละเอียดถูก "ผู้ช่วย สส.ก้าวไกล" บุกอุ้มขึ้นรถรีดเงิน 1 ล้าน
"กอ.รมน." ซัดนักวิชาการพูดเท็จ ปมเอี่ยวเลือกสว. ยืนยันทุกอย่างเป็นตามกลไกการเมือง
"ผู้บริหาร ไอ.ซี.ซี" ร่วม "มูลนิธิอุทกพัฒน์" จัดกิจกรรมปลูกป่า เมืองเพชรบุรี อนุรักษ์สีเขียว รักษาตลิ่งน้ำธรรมชาติ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น