สภาฯ คว่ำร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า แต่ “ก้าวไกล” ไม่ยอมขอนับคะแนนใหม่

สภาฯ โหวตคว่ำร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า 177 ต่อ 173 เสียง แต่ "ก้าวไกล" ไม่ยอม ขอนับคะแนนใหม่ด้วยการขานชื่อ เพราะผลต่างคะแนนชนะกันไม่ถึง 25 เสียง

วันที่ 2 พ.ย. 65 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า) ฉบับของพรรคก้าวไกล ซึ่งกรรมาธิการวิสามัญ ที่มี นายอนุชา นาคาศัย เป็นประธานกรรมาธิการฯ พิจารณาแล้วเสร็จ ในวาระสอง

จากนั้น ที่ประชุม ได้เข้าสู่การพิจารณารายมาตรา โดยที่ประชุมได้ใช้เวลาจำนวนมากในการอภิปรายมาตรา 3 ที่แก้ไขมาตรา 153 ของกฎหมายภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ว่าด้วยเงื่อนไขขอผู้ผลิตสุราเพื่อการค้า ซึ่งเพิ่มเติมให้ต้องขออนุญาตต่ออธิบดี ในกรณีมีเครื่องกลั่นสำหรับผลิตสุราเพื่อการค้าไว้ในครอบครอง พร้อมกับกำหนดให้ออกกฎกระทรวงที่สอดคล้องกับร่างกฎหมายว่าด้วยขนาดกำลังผลิต กำลังแรงม้าเครื่องจักร ทุนจดทะเบียน โดยมีคำสำคัญที่ห้ามกฎกระทรวงกำหนดเงื่อนไขที่จะทำให้เกิดการกีดกันทางการค้าหรือก่อให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม เว้นแต่บุคคลที่ไม่ใช่สัญชาติไทย

การอภิปรายส่วนใหญ่ สมาชิกแสดงความเห็นต่อร่างมาตรา 3 เปรียบเทียบกับกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. 2565 ซึ่งลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2565 โดยสนับสนุนการแก้ไขของกรรมาธิการฯ แต่ไม่เห็นด้วยกับกฎกระทรวงดังกล่าว เพราะยังมีเนื้อหาที่กีดกันการแข่งขันการผลิตสุราที่เสรีเป็นธรรม พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลเร่งออกกฎกระทรวงดังกล่าวเพื่อให้เป็นข้ออ้างของการคว่ำร่างกฎหมายสุราก้าวหน้าของพรรคก้าวไกล

 

ข่าวที่น่าสนใจ

หลังจากที่ ส.ส.อภิปรายมาตรา 3 อย่างเข้มข้นนานร่วม 2 ชั่วโมง ที่ประชุมจึงลงมติเห็นชอบมาตรา 3 ด้วยคะแนน 178 ต่อ 4 งดออกเสียง 175 ไม่ลงคะแนน 3 ขณะที่มาตราอื่น อาทิ มาตรา3/1 มาตรา 3/2 มาตรา 4 มาตรา 5 ก็มีคะแนนเสียงเห็นชอบมากกว่าไม่เห็นชอบ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า มีคะแนนงดออกเสียงใกล้เคียงกับคะแนนเห็นด้วย มีผลต่างห่างกันไม่เกิน 10 เสียง ทั้งนี้หลังจากที่ประชุมพิจารณาครบทั้ง 7 มาตราแล้ว กระทั่งเวลา 14.45 น. ที่ประชุมจึงลงมติวาระ 3 ปรากฏว่า ที่ประชุมกลับมีมติไม่เห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ด้วยคะแนน 177 ต่อ 174 งดออกเสียง 11 ไม่ลงคะแนน 4 โดยคะแนนงดออกเสียงในรายมาตราพลิกกลับมาลงคะแนนไม่เห็นด้วย ทำให้ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว ไม่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุม

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ขอใช้สิทธิตามข้อบังคับการประชุม ข้อ 85 กรณีที่มีคะแนนต่างกันไม่เกิน 25 เสียง สามารถนับคะแนนใหม่ โดยการขานชื่อรายบุคคลได้ โดยมี ส.ส. ให้การรับรองถูกต้อง แต่นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ คัดค้านโดยขอให้นับคะแนนใหม่ด้วยการเสียบบัตรลงคะแนนเท่านั้น แต่ฝ่ายค้านยืนยันตามข้อบังคับการประชุมตามข้อ 85 ต้องให้นับคะแนนใหม่โดยการขานชื่อเท่านั้น

 

ด้านนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ตัดสินให้นับคะแนนใหม่โดยการขานชื่อรายบุคคล แต่ก็ยังเกิดความวุ่นวายตามมา เมื่อฝ่ายค้านเสนอให้นับองค์ประชุมก่อนการขานชื่อรายคน โดยที่ระหว่างนั้น ส.ส. เดินเข้าเดินออกห้องประชุม มีทีท่าองค์ประชุมจะไม่ครบ จนนายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล สอบถามว่า ขณะนี้ ส.ส. เดินออกจากห้องประชุม ถ้าองค์ประชุมไม่ครบ หมายความว่า การกลับมาโหวตใหม่ในครั้งหน้า จะต้องใช้วิธีเสียบบัตรลงคะแนนใหม่หรือไม่ ซึ่งนายสุชาติชี้แจงทันทีว่า สภาค้างคาเรื่องใดไว้ก็ต้องกลับมาดำเนินการต่อ ไม่สามารถยกเลิกเรื่องใดได้ สุดท้ายเมื่อนับองค์ประชุมเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่า มีองค์ประชุม 257 ครบองค์ประชุม จากนั้นเป็นช่วงการขานชื่อเป็นรายบุคคล

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

3 โจรแสบ ขโมยเรือสปีดโบ๊ทลำใหญ่ไปขาย ตำรวจตามรวบตัว อ้างไม่ได้ขโมย
(50 ปีสมพันธ์ไทย-จีน) เนินทราย 'ช้างยักษ์ดื่มน้ำ' ในซินเจียง
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) 'เห็ดหมวกม่วง' เพิ่มรายได้เกษตรกรมองโกเลียใน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ซินเจียงใช้ระบบชลประทานอัจฉริยะ ฟื้นฟูป่าป็อปลาร์-ลดน้ำท่วม
เปิดตัว “เศรษฐสิริ เกาะแก้ว รีทรีต” บ้านเดี่ยวลักซ์ชัวรี
สุดช้ำ สาวมหาสารคาม วัย 41 ถูกหนุ่มทางเฟสบุค ขอเป็นแฟน ก่อนอ้อนเงินจนเกลี้ยงบัญชี

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​