สองบรัษัทผู้ผลิตวัคซีนยักษ์ใหญ่ออกมาประกาศข่าวดีเมื่อวานนี้ โดยกล่าวว่าล่าสุดไฟเซอร์-บิออนเท็คได้ลงนามในหนังสือยินยอมร่วมกับสถาบันไบโอแว็ค ของแอฟริกาใต้ในกรุงเคปทาวน์ เพื่อตกลงด้านการส่งมอบเทคโนโลยี, ติดตั้งอุปกรณ์และพัฒนาศักยภาพในการผลิต สำหรับวัตถุดิบหรือสารตั้งต้นของวัคซีนจะส่งไปจากยุโรป โดยตั้งเป้าจะผลิตวัคซีนล็อตแรกออกมาในปีหน้าหรือปี 2022 และทันทีที่โรงงานเสร็จสมบูรณ์และเดินเครื่องได้เต็มที่ คาดว่าจะสามารถผลิตวัคซีนได้อย่างน้อย 100 ล้านโดสต่อปี
จุดประสงค์คือเพื่อกระจายวัคซีนให้ทั่วถึงทั้งทวีปแอฟริกา ซึ่งมีอัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำมากๆ โดยข้อมูลจาก WHO เผยว่าคนในทวีปแอฟริกาฉีดวัคซีนครบโดสไปเพียง 20 ล้านคนจากประชากรทั้งสิ้นกว่า 1 พัน 300 ล้านคนหรือคิดเป็นร้อยละ 1.5 เท่านั้น และในบางประเทศอย่างมาลี ไนเจอร์และเอธิโอเปีย ก็แทบจะยังไม่มีคนได้ฉีดเลย
ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นข่าวดีท่ามกลางข่าวร้ายของการแพร่ระบาดอย่างหนักของโควิด และมีขึ้นหลังจากที่อินเดียและแอฟริกาใต้ได้พยายามเจรจาต่อรองให้ผู้ผลิตวัคซีนยกเว้นการบังคับใช้กม.ว่าด้วยสิทธิบัตรชั่วคราวเฉพาะกับเทคโนโลยีการผลิตวัคซีน
เกือบทุกประเทศในทวีปแอฟริกาประสบปัญหาขาดแคลนวัคซีน หลังจากสถาบันเซรั่มของอินเดีย ผู้ผลิตวัคซีนหลักป้อนให้กับโครงการโคแว็กซ์ต้องระงับการส่งออกชั่วคราวหลังอินเดียเผชิญกับการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ทำให้อัตราผู้เสียชีวิตที่แอฟริกาพุ่งขึ้น 43% ต่อสัปดาห์