“รัฐบาล” พลิกโฉมประเทศไทย สู่ “เศรษฐกิจใหม่”

"รัฐบาล" พลิกโฉมประเทศไทย สู่ “เศรษฐกิจใหม่”

วันที่ 19 ตุลาคม 2565 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ด BOI) ครั้งล่าสุด ที่มีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานฯ ได้เห็นชอบร่างยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุน 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) เพื่อปรับโครงสร้างไปสู่ “เศรษฐกิจใหม่” เพิ่มความสามารถทางการแข่งขัน เสริมสร้างสถานะของไทยในฐานะศูนย์กลางทางธุรกิจ การค้า และโลจิสติกส์ระดับภูมิภาค ซึ่ง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญในการเดินหน้าส่งเสริมการลงทุนอย่างรอบด้าน ทั้งการพัฒนา และการเปลี่ยนแปลงให้ทันต่อกับสถานการณ์และความท้าทายที่เกิดในปัจจุบันและอนาคต เพื่อให้ดำเนินการได้ตามแผนและเป้าหมายที่กำหนดไว้

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ ร่างยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนฉบับใหม่นี้ มุ่งเสริมสร้างการลงทุนเพื่อปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศตามแนวคิดหลัก 3 ประการ คือ (1) Innovative เป็นเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ (2) Competitive เป็นเศรษฐกิจที่มีขีดความสามารถในการแข่งขัน สามารถปรับตัวเร็ว และสร้างการเติบโตสูง และ (3) Inclusive เป็นเศรษฐกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม รวมทั้งการสร้างโอกาส และลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ

โดยมี 7 หมุดหมายสำคัญ ได้แก่ 1) การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม โดยยกระดับอุตสาหกรรมเดิมที่ไทยมีความโดดเด่น ควบคู่กับการสร้างฐานอุตสาหกรรมใหม่ที่ไทยมีศักยภาพ และสร้างความเข้มแข็งของ Supply Chain 2) เร่งเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมไปสู่ Smart & Sustainability 3) ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศและประตูการค้าการลงทุนของภูมิภาค 4) ส่งเสริม SMEs และ Startup ให้เข้มแข็งและเชื่อมต่อกับโลก 5) ส่งเสริมการลงทุนตามศักยภาพพื้นที่ เพื่อสร้างการเติบโต อย่างทั่วถึง 6) ส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคม และ 7) ส่งเสริมผู้ประกอบการที่มีศักยภาพให้ออกไปลงทุนในต่างประเทศ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ

ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จะใช้เครื่องมือสำคัญ 3 ด้าน เพื่อขับเคลื่อน 7 หมุดหมายให้บรรลุผลสำเร็จ คือ สิทธิประโยชน์ทั้งภาษีและไม่ใช่ภาษี การบริการแบบครบวงจรทั้งก่อนและหลังการลงทุน การสร้างระบบนิเวศและปรับปรุงกฎระเบียบให้เอื้อต่อการลงทุน

นอกจากนี้ BOI จะปรับเปลี่ยนบทบาทจากเดิมเป็นผู้ส่งเสริมและให้สิทธิประโยชน์ (Promoter) มาสู่การให้น้ำหนักกับการเป็นผู้บูรณาการเครื่องมือสนับสนุนการลงทุน (Integrator) ผู้ให้บริการและอำนวยความสะดวก (Facilitator) และผู้เชื่อมโยงอุตสาหกรรมเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ (Connector) มากขึ้น ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวสอดคล้องกับในโลกยุคใหม่ที่มีความท้าทาย ความผันผวน และมีการแข่งขันสูง โดย BOI จะเป็นองค์กรที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง และมุ่งมั่นส่งเสริมให้เกิดการลงทุนที่จะช่วยยกระดับการพัฒนาประเทศ โดยร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ในการผลักดัน 7 หมุดหมายแห่งอนาคตให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เพื่อนำประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจใหม่ ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้งเติบโตอย่างยั่งยืน และแข่งขันได้บนเวทีโลก

“จากสถานการณ์ปัจจุบันที่โลกกำลังเผชิญทั้งความท้าทาย รัฐบาลมุ่งมั่นพัฒนายุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง เสริมความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศ ช่วยนำประเทศไทยให้เข้าสู่เศรษฐกิจใหม่ โดยหากดูสถิติคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนจะเห็นถึงสัญญาณที่ชัดเจนว่าในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า จะมีกระแสการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยเดินหน้าได้ตามเป้าหมายที่วางไว้” นายอนุชา ฯ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จังหวัดสมุทรสาคร ร่วมแก้ปัญหาการเลี้ยงปลาสลิด ฝ่าวิกฤตสู่ความยั่งยืน
อบจ.นครฯ จัดอบรม “ร้อยลูกปัดมโนราห์” เสริมอาชีพ สร้างรายได้ 
จันทบุรี หยุดไม่อยู่แรงงานกัมพูชาทะลักกลับบ้านกว่า 3 หมื่นคน
คณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดการประเมินศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา ระดับภาคตะวันออกและกรุงเทพมหานคร ประจำปีงบประมาณ 2568
นครนายก ชมรม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กว่า 420 คน "ฮือไล่" นายอำเภอ ให้ออกจากพื้นที่ภายใน 24 ชม.
"ภูมิธรรม" เผยตั้งทีมเอาผิดกัมพูชา ไม่ฟ้องศาลโลก เหตุเป็นคดีอาชญากรรมสงคราม ยังไม่สรุปผลรอฟังประชุม GBC คุยให้จบ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​