นายกฯ สั่งปรับสโมสร ตร.และทหารเป็นศูนย์พักคอยผู้ป่วย-รพ.สนาม

กรุงเทพฯ 21  ก.ค.-โฆษกกระทรวงกลาโหม เผย นายกฯ สั่งปรับสโมสรทหาร และตำรวจ เป็นศูนย์พักคอยผู้ป่วย และรพ.สนาม พร้อมจัดตั้งจุดประสานรับแจ้งเหตุฉุกเฉินในพื้นที่กทม.

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ประชุมร่วมกับ กอ.รมน. หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผ่านระบบ VTC ณ ศาลาว่าการกลาโหม เพื่อติดตามการสนับสนุนรัฐบาลแก้ปัญหาวิกฤตโควิด 19 สำหรับพื้นที่ชั้นในได้กระจายกำลังกันทำหน้าที่ช่วยเหลือและดูแลประชาชน ตามมาตรการควบคุมโรคตามข้อกำหนดของ ศบค.ในพื้นที่สีแดงเข้ม จากการตั้งจุดตรวจร่วมตามเส้นทางต่างๆ และชุดสายตรวจเคลื่อนที่ โดยเน้นการสร้างความเข้าใจและขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามข้อกำหนด พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญและร่วมมือกันมากขึ้นในการหยุดเชื้อ โดยพบการเดินทางลดลงและมีการทำงานที่บ้านมากขึ้น ซึ่งสถิติการจับกุมดำเนินคดีผู้ฝ่าฝืนมาตรการต่าง ๆ ลดลงตามลำดับ

“พล.อ.ชัยชาญได้ย้ำว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการให้ทุกเหล่าทัพ ประสานกับกระทรวงสาธารณสุข พิจารณาปรับปรุงสโมสรทหารและตำรวจในพื้นที่กทม.และต่างจังหวัด เป็นศูนย์พักคอยผู้ป่วย หรือรพ.สนาม ตามความเหมาะสม เพื่อใช้เป็นสถานที่พักคอยและรักษาผู้ป่วย รองรับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ และให้กระทรวงกลาโหมประสานกับกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมสนับสนุนจัดตั้ง รพ.สนาม ร่วมกับ รพ.ในสังกัดมหาวิทยาลัย รองรับดูแลผู้ป่วยในพื้นที่ต่างๆเสริมไปด้วยกัน”พล.ท.คงชีพ กล่าว

โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า นายกฯ ได้สั่งการให้กองทัพ จัดกำลังทหารกระจายลงพื้นที่ จัดตั้ง “จุดรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน” ในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัดโดยให้ประสานทำงานร่วมกับ กทม. ฝ่ายปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยและติดเชื้อในแต่ละพื้นที่ทันทีภายใต้มาตรการที่สาธารณสุขกำหนด โดยพล.อ.ชัยชาญได้กำชับทุกเหล่าทัพ ให้เฝ้าระวังพื้นที่ชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะชายแดนเมียนมา ที่สถานการณ์ของโรคระบาดมีความรุนแรงมากขึ้น และขอให้ตำรวจให้การดูแลผู้หลบหนีเข้าเมืองเข้มในสถานกักควบคุมโรคที่กำหนด ทั้ง 8 แห่งใน 6 จังหวัด พร้อมทั้งขอให้ดำรงการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ การบริจาคโลหิตให้กับผู้ป่วยเจ็บ ที่ยังอยู่ในสภาวะขาดแคลนเลือด ทั้งนี้ขอให้เร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมกับกำลังพลในพื้นที่ด่านหน้าเป็นลำดับแรก หากได้รับการจัดสรรวัคซีนเพิ่ม

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) เจ้อเจียงเปิดตัว 'แพลตฟอร์มท่องเที่ยว' พลัง AI
กกล.บูรพา รวบ 2 สาวไทย อ้างถูกหลอกทำงานปอยเปต เบื้องหลังรับจ้างข้ามแดนเปิด "บัญชีม้า-สแกนหน้า" ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์
“50 ปีไม่มีแก่” คำนี้ไม่มีอยู่จริงสำหรับคุณอาร์ต วศิน วรรณพฤกษ์ ผู้บริหารรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง
ศน. ต่อยอดกิจกรรมเข้าวัดปฏิบัติธรรมวันธรรมสวนะ “ตักบาตรทางน้ำริมคลองข้าวตอก จังหวัดพิจิตร” ส่งเสริมพุทธศาสนิกชนเข้าวัด น้อมนำหลักธรรมดำเนินชีวิต
รมว.คลัง โต้ลือ "สหรัฐ" ตัดสินใจเก็บภาษีไทย 36% แจงเร่งยื่นข้อเสนอใหม่ก่อน 9 ก.ค. นี้
"ศิริโชค" อดีตสส.สงขลา โพสต์อัปเดต จับมือลอบเผารถยนต์ได้แล้ว เร่งขยายผลผู้จ้างวาน ไม่หวั่นอิทธิพลมืด
เหยื่อร้อง Top News ถูกตัวแทนนายหน้าประกัน โกงค่าสินไหมอุบัติเหตุกว่าแสน เชื่อทำเป็นขบวนการ
"จีน-เมียนมา-ไทย" เห็นพ้อง ร่วมมือยกระดับกวาดล้างเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ เมืองเมียวดี
“นันทิวัฒน์” ตอกย้ำเขมร ปราสาท “ตาเมือนธม” เป็นของไทยตั้งแต่อดีต ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน ตั้งแต่ยังไม่มีชื่อกัมพูชา
เจอแล้ว! “รั้วกั้น-หมุดหลักเขต” นับ 100 หมุด ชี้ชัด 3 ปราสาทอยู่ในแผ่นดินไทย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น