“ทนายไพศาล” พาพยานเปิดปม “จ่าคลั่งกราดยิงโคราช” ร้องกระทรวงยุติธรรม

"ทนายไพศาล" พาพยานเปิดปม "จ่าคลั่งกราดยิงโคราช" ร้องกระทรวงยุติธรรม

วันที่ 17 ต.ค. 65 ที่กระทรวงยุติธรรม ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ พร้อมด้วย น.ส.ก้อย และ น.ส.เบิร์ด เข้าพบว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อยื่นขอคุ้มครองพยาน หลังถูกทหารนายหนึ่งของกองทัพบกข่มขู่คุกคาม

โดย น.ส.ก้อย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตัวเองเป็นผู้ประกอบการสร้างบ้านขายให้กับกำลังพลของกองทัพบก โดยกำลังพลที่จะซื้อบ้านกับตัวเองจะต้องทำเรื่องกู้ผ่านกรมสวัสดิการทหารบก ซึ่งทางกรมฯ อ้างเงื่อนไขข้อหนึ่งว่า จะต้องหักค่าธรรมเนียมกองทัพบก 5% เช่น บ้านราคา 1 ล้านบาท กำลังพลจะต้องกู้สวัสดิการวงเงิน 1,500,000 บาทและจะถูกหัก 5% คือ 75,000 บาทเป็นค่าธรรมเนียมกองทัพบก

 

 

โดยเงื่อนไขข้อนี้บรรดากำลังพลที่ยื่นกู้ ต่างก็ไม่ทราบว่า มีการหักเงินตรงนี้ไว้ นอกจากการหักเงิน 5% ข้างต้นแล้ว ยังมีเงินทอนส่วนต่างที่กำลังพลจะต้องได้เงินทอนประมาณ 4 แสนบาท เพื่อใช้ในการตกแต่งบ้าน ซึ่ง กรณีของจ่าคลั่งที่กราดยิงโคราช ได้ไปตามทวงถามเงินทอนจำนวนนี้กับผู้ประกอบการ ก็คือ ป้านงค์ ที่ถูกยิงเสียชีวิต เนื่องจากเข้าใจว่าป้านงค์ เก็บเงินส่วนต่างสำหรับตกแต่งรวมถึงเงิน 5% ตรงนี้ไว้เอง ประกอบกับบ้านที่จ่าคลั่งซื้อ ยังสร้างไม่เสร็จ ระบบน้ำไฟต่างๆก็ยังไม่เสร็จ จึงไม่พอใจและก่อเหตุสลดดังกล่าวขึ้น

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับ น.ส.ก้อย เป็นผู้ประกอบการที่ทอนเงินส่วนต่างให้กับกำลังพลผู้กู้ แต่ยังขาด 5% ที่ถูกกรมสวัสดิการเก็บไว้อ้างเป็นค่าธรรมเนียมของกองทัพบก จึงไปศึกษาหาข้อมูลจนทราบว่าเงิน 5% ที่มีการกล่าวอ้างว่าเป็นหนึ่งในเงื่อนไขการกู้ กองทัพบกไม่มีระเบียบในการจัดเก็บเป็นการเก็บเงินเข้ากระเป๋าตัวเองของ นายทหารคนหนึ่งของกรมสวัสดิการทหารบก

 

หลังจากนางสาวก้อยไปขุดคุ้ย จนพบว่า มีการเก็บเงินส่วนต่าง 5% เข้ากระเป๋าตัวเองของเจ้าหน้าที่ กรมสวัสดิการทหารบก จึงร้องเรียนไปที่กองทัพบก เพื่อให้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และมีการเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องปรากฏว่า หลังประชุมมีนายทหารคนหนึ่ง ซึ่งนั่งอยู่ในห้องประชุมด้วย พยายามขโมยเอกสาร หลักฐาน สำคัญที่นางสาวก้อยตรวจพบว่า มีการเก็บเงิน 5% ไว้ส่วนตัว โดยอ้างนำชื่อกองทัพบกไปอ้าง

 

นอกจากนางสาวก้อยยังมีผู้ประกอบการรายอื่นๆอีก เช่น น.ส.เบิร์ด เป็นผู้ประกอบการสร้างบ้านจัดสรรขาย ให้กับกำลังพลกองทัพบกเหมือนกัน และพอเกิดปัญหา ก็ถูกกำลังพล ทวงถามเงินทอน ส่วนต่างและเงิน 5% ซึ่ง น.ส.เบิร์ด ยอมจ่ายเงินส่วนต่างเหล่านั้นสำหรับบ้านทั้งหมด 3 หลังเป็นเงินกว่าล้านบาท ให้กับกำลังพลที่มาซื้อบ้าน เพราะไม่อยากมีปัญหากับกองทัพบก และเกรงว่าจะถูกตัดสิทธิ์เข้าโครงการ ส่งผลให้บ้านอีกกว่า 100 หลังขายไม่ได้

ด้าน ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หลังรับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว ได้สั่งกรมคุ้มครองสิทธิ์ เพื่อยื่นขอคุ้มครองพยานทั้งหมด อีกทั้งให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินคดี หากตรวจสอบพบว่ามีการรับผลประโยชน์

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"อดีตผู้พิพากษา" ชี้ตรง ป.ป.ช.-อสส.ไม่ทำหน้าที่โจทก์ เหตุศาลฎีกาฯ ต้องออกโรงไต่สวนเอง "ทักษิณ"ไม่ติดคุกจริงตามคำพิพากษา
ไฟไหม้โรงแรมกลางเมืองที่อินเดียดับ 15 คน
“ในหลวง-ราชินี” โปรดเกล้าฯ องคมนตรี เชิญถุงพระราชทานมอบผู้ประสบวาตภัยจ.ยโสธร 605 ครัวเรือน
“ผู้ว่าสตง.” แจงปมตึกใหม่ ทำไมใช้เฟอร์นิเจอร์แพง ยันไม่มีห้องดูหนัง พร้อมเปิดข้อมูลให้ตรวจสอบ
ทส. โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล พร้อมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมระดับภูมิภาคอาเซียน ชู "น้ำบาดาล" เป็นวาระสำคัญในกรอบความร่วมมืออาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม
"อ.อ๊อด" แฉเบื้องหลัง "ทนายตั้ม" วางแผน ส่งคนสนิทพลิกสารภาพโกงเงิน "เจ๊อ้อย" หวังศาลเห็นใจ
MEA แจ้งปิดทำการ เนื่องในวันหยุดชดเชยวันฉัตรมงคล 5 พฤษภาคม 2568
"เต้ อาชีวะ" พาเหยื่อสาวไทย แจ้งความถูก "หนุ่มเมียนมา" บุกคอนโดฯ-ขู่ฆ่า
กกพ.ประกาศลดค่าไฟ งวดพ.ค.-ส.ค.68 เหลือ 3.98 สต. หวังแบ่งเบาภาระประชาชน
อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ลงนามความร่วมมือพัฒนาฝีมือแรงงานไทยกับสมาคมนายจ้างส่งเสริมแรงงานไทย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น