“ผบ.ตร.” ลั่นหากพบ ตร.เอี่ยวใช้อาวุธปืนก่อเหตุ ผู้บังคับบัญชา 2 ระดับต้องร่วมรับคดีด้วย

“ผบ.ตร.” ลั่นหากพบตร.เอี่ยวใช้อาวุธปืนก่อเหตุหัวหน้าตร. 2 ระดับต้องร่วมรับคดี

วันที่ 12 ต.ค.65. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งโดยต้องกวาดบ้านของตัวเองก่อนตรวจสอบตำรวจกว่า 200,000 นายทั่วประเทศที่มีอาวุธ ส่วนใครมีเบาะแสสามารถแจ้งเข้ามาได้เลยซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดทั้งเบอร์สายด่วน 191 เบอร์ 1599 และระบบเจคอมของจเรตำรวจ ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ไม่จำเป็นต้องบอกตัวบุคคลผู้แจ้งเบาะแส ซึ่งตอนนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เน้นให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงตั้งแต่ระดับผู้บังคับการและผู้กำกับการ ลงพื้นที่เพื่อให้ชาวบ้านเกิดความมั่นใจ ในการแจ้งเหตุซึ่งส่วนตัวก็มีช่องทางรับเรื่องร้องเรียนโดยตรงผ่านระบบเจคอม ซึ่ง เชื่อมโยงกับตนด้วย โดยมีแอดมินคอยรับเรื่องร้องเรียน

ทั้งนี้ หากมีเบาะแสว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเกี่ยวข้องจะไม่โดนคดีเฉพาะตำรวจคนนั้นคนเดียว แต่จะมีผู้บังคับบัญชาถูกดำเนินคดีอีก 2 ระดับถือว่าควบคุมลูกน้องไม่ดี หากการทำงานด้านบังคับใช้กฎหมายโดยตำรวจผู้บังคับใช้กฎหมายไปยุ่งเสียเอง ก็ต้องถูกดำเนินการอย่างเด็ดขาดและล่าสุดถูกจับกุมที่พังงาและระนอง ก็เป็นตำรวจ ซึ่งต้องยอมรับว่าตำรวจ 200,000 นายก็มีบ้าง แต่สตช.จะดำเนินการอย่างเฉียบขาด

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องรับร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย ท้องถิ่น ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขในการตรวจสอบเอกซเรย์พื้นที่ร่วมมือกันอย่างเข้มข้นในการตรวจตรากวดขัน และ ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดหรือ ป.ป.ส. ได้ให้งบประมาณมาภายใน 1-2 เดือนนี้ จะทราบว่ามีกลุ่มสีแดงที่ต้องเฝ้าระวังสูงมีโอกาสคุ้มคลั่งนั้นมีจำนวนเท่าใดควรจะเร่งแก้ปัญหานี้อย่างไรโดยเฉพาะในระดับครอบครัวหากสถานบำบัดยังไม่เพียงพอเบื้องต้นอาจจะต้องอยู่ที่บ้านและกินยาไปก่อน มีการดูแลจากครอบครัวจากเพื่อนบ้านและตำรวจจะเข้าไปช่วยดูแลด้วย

ผบ.ตร. เปิดเผยด้วยว่าผู้ค้ายาเสพติดเครือข่ายรายใหญ่ส่วนใหญ่หลบหนีไปต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านจึงทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานยาก และยังไม่สามารถนำตัวมาดำเนินคดีได้ ซึ่งเครือข่ายภายในประเทศถูกสั่งการจากนอกประเทศเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเข้มข้นขึ้น ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่จังหวัดหนองบัวลำภูไม่ใช่เป็นเหมือน ไฟไหม้ฟาง เพียงแต่ว่า จะได้รับความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านมากน้อยเพียงใดนั้นยังตอบไม่ได้ เหมือนกับเรื่องกรณีฉ้อโกงและพนันออนไลน์ตัวการใหญ่ส่วนใหญ่อยู่ต่างประเทศจึงได้มีการขอความร่วมมือเมื่อขอหมายจับทางตำรวจไทยก็นำหมายจับไปแสดงให้จึงได้รับความร่วมมือมาพอสมควร

ส่วน ที่มีการจับกุมคดียาเสพติดจำนวนมากมองว่าเป็นสัญญาณที่ดีหรือไม่ดีอย่างไรพล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กล่าวว่าจะเน้นไปที่ความพึงพอใจของชาวบ้านเป็นหลักเมื่อตำรวจระดับสูงเข้าไปเยี่ยมประชาชนถึงพื้นที่ก็จะได้รับเสียงสะท้อน หากประชาชนตอบรับว่าสถานการณ์ดีขึ้นก็จะยึดความพึงพอใจของประชาชนเป็นหลัก ในการวัดผลการทำงานในปีนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

รองฯผู้ว่าฉะเชิงเทรา ประธานประชุมติดตามผลการดำเนินงานชมรม TO BE NUMBER ONE
"น้องพริ้งพราว" ณิศวรา สุนันต๊ะ คว้าตำแหน่ง Miss Queen Of Pai V.3
รพ.ประจวบฯ จัดงานสื่อมวลชนสัมพันธ์ ครั้งที่ 15 สร้างเครือข่ายประชาสัมพันธ์ข้อมูลสาธารณสุข
เครือซีพีส่งต่อพลังน้ำใจ 8.2 ล้านบาท จากประชาชนให้แก่สภากาชาด มอบชีวิตใหม่ผ่านโครงการ "Let Them See Love 2025"
ทีมสืบสวน สภ.สัตหีบ เข้าอวยพรปีใหม่ ผกก.สภ.สัตหีบ เสริมสิริมงคลรับศักราช 2570
"ภูมิธรรม-ทวี" ลุ้นสุด 21 ม.ค. 69 ศาลรธน.นัดตัดสิน โดนร้องผิดจริยธรรม แทรกแซง "ดีเอสไอ" สอบคดีฮั้วเลือกสว.

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​