อำเภอเชียงคาน จัดพิธี “ผาสาดลอยเคราะห์” และการแข่งขันไหลเรือไฟ เนื่องในประเพณีออกพรรษา

เลย-เชียงคาน จัดพิธี ผาสาดลอยเคราะห์ และการแข่งขันไหลเรือไฟ เนื่องในประเพณีออกพรรษา ที่บริเวณริมฝั่งโขงระหว่างหน้าวัดศรีคุณเมือง ถึง ลานวัฒนธรรมหน้าวัดท่าคก อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 10 ต.ค.2565 ที่บริเวณริมฝั่งโขงระหว่างหน้าวัดศรีคุณเมือง ถึง ลานวัฒนธรรมหน้าวัดท่าคก อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย นายณรงค์ จีนอ่ำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นายศิริวัฒน์ พินิจพานิชย์ ปลัดจังหวัดเลย นายอภินันท์ สุวรรณโค นายอำเภอเชียงคาน ร่วมพิธีผาสาดลอยเคราะห์และชมการแข่งขันไหลเรือไฟ บริเวณลานวัฒนธรรม หน้าวัดท่าคก โดยมีประชาชน นักท่องเที่ยวร่วมพิธีและชมการแข่งขันไหลเรือไฟ เนื่องในประเพณีออกพรรษาที่เชียงคาน เป็นจำนวนมาก

พิธีกรรมผาสาดลอยเคราะห์ เป็นประเพณีดั้งเดิมของเชียงคาน โดยชุมชนคุ้มวัดต่างๆ จะร่วมกันจัดทำปราสาทผึ้ง ผาสาดลอยเคราะห์ และแข่งขันเรือยาว ส่วนผาสาดลอยเคราะห์ที่ทำจากหยวกกล้วยคล้ายกระทง ตกแต่งด้วยดอกผึ้ง เทียน ดอกไม้ ของคาวและของหวาน จากนั้นจะนำไปลอยลงสู่แม่น้ำโขง เพื่อเสริมดวงชะตา และระลึกถึงพระคุณแม่น้ำโขง (พระเมตตา) ถือว่าเป็นวัฒนธรรมเก่าแก่ และนับได้ว่ามีเพียงแห่งเดียวที่อำเภอเชียงคานสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะร่วมพิธีลอยผาสาด จะต้องตัดเล็บ ตัดผมของตนเอง ใส่ลงไปในกระทงผาสาด ก่อนที่จะนำไปลอยด้วย เพื่อเปรียบเสมือนเป็นการลอยสิ่งไม่ดีหรือลอยเคราะห์ให้กับตัวเองพิธี “ผาสาดลอยเคราะห์” ชาวบ้านเชื่อว่า เป็นการปล่อยทุกข์ปล่อยโศกที่เข้ามาในชีวิตของผู้นั้น ขณะที่คนป่วยไข้ การทำพิธีก็เพื่อให้เจ้ากรรมนายเวรต่างๆ ไม่ติดตามจนทำให้ไม่สบาย ถือเป็นความเชื่อที่จะขจัดปัดเป่าเรื่องเลวร้ายที่เข้ามาในชีวิตของช่วงปีที่ผ่านมา

ประเพณีไหลเรือไฟ เป็นประเพณีลอยกระทงตามแบบอิสาน เพื่อบูชาพระพุทธเจ้า ในวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาเทวโลก หลังจากที่พระพุทธองค์ ได้เสด็จขึ้นไปจําพรรษาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อแสดง พระธรรมโปรดพระพุทธมารดา เป็นความเชื่อถือว่าถ้าจัดพิธีนี้ขึ้น ก็จะเป็น การแสดงความเคารพต่อพระยานาค ที่สถิตอยู่ตามแม่นํ้าใหญ่ ให้คุ้มครองรักษาผู้สัญจรไปมาทางนํ้าไม่ให้มีภัยอันตรายเกิดขึ้น “เรือไฟ” ทําด้วยท่อนกล้วยและไม้ไผ่ยาวประมาณ 20 -30 เมตร ใช้ไม่ไผ่ซีก ทําโครงเป็นรูปเรือประดับด้วยไต้ หรือตะเกียงนํ้ามันวางเรียง ห่างกันประมาณ 1 – 2 คืบ ภายในบรรจุไปด้วยดอกไม้ ธูป เทียน และขนม ข้าวต้ม ฝ้าย ไหม และเครื่องไทยธรรมต่างๆ มากมาย ที่พุทธศาสนิกชนที่มี จิตศรัทธามาร่วมทําบุญ ตกคํ่า จะจุดไต้หรือ ตะเกียง ให้สว่างแล้วนํ้าเรือออกไปกลางแม่นํ้า แล้วปล่อยให้เรือไหลไป ตามแม่นํ้า คล้ายกับการลอยกระทง ท้องนํ้าก็จะสว่างไสว ไปด้วยไฟระยิบ ระยับ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้ชมตามริมสองฝั่งแม่นํ้าเป็นอย่างมาก.

ภาพ/ข่าว บุญชู ศรีไตรภพ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.เลย

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"เพจดัง" เปิดประวัติ "มาลี โสเจียตา" ย้อนเส้นทางราชการ สู่ตำแหน่งโฆษกหญิงกห.กัมพูชา โซเชียลตั้งฉายา "โฆษกเฟกนิวส์"
จันทบุรี  แรงงานกัมพูชาแห่กลับแน่นด่าน 90% วิตกกังวล กระแสฮุนเซนตัดออกประเทศยึดบ้านที่ดิน
3 ประธานเครือซีพี” มอบทุนการศึกษาแก่บุตรทหารกล้าผู้เสียชีวิตจากเหตุไม่สงบชายแดนไทย–กัมพูชา สนับสนุนจนจบปริญญาตรี พร้อมเปิดโอกาสเข้าทำงานในเครือฯ
"บิ๊กเล็ก" คาใจเวที GBC "กัมพูชา" เงียบผิดปกติ ยันไม่เจรจาทำไทยเสียประโยชน์
"นฤมล" แจงโรงเรียนชายแดนติดไทย-กัมพูชา ยังไม่เร่งเปิดการเรียน การสอน ย้ำต้องปฏิบัติตามคำแนะนำฝ่ายความมั่นคง เพื่อความปลอดภัย
กองทัพบกนำคณะ ICRC เข้าเยี่ยมเชลยศึกกัมพูชา ตามขั้นตอนสากล ย้ำยึดหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศเคร่งครัด

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​