“รัฐบาล” เฝ้าจับตาทุจริต “คนละครึ่งเฟส5” หลังพบกลุ่มบุคคลโฆษณาเชิญชวน แลกสิทธิเป็นเงินสด

"ทิพานัน" ย้ำรัฐบาลเฝ้าจับตาทุจริต "คนละครึ่งเฟส5" หลังพบกลุ่มบุคคลโฆษณาเชิญชวนแลกสิทธิเป็นเงินสด พร้อมหักหัวคิว เตือนประชาชน-ร้านค้าอย่าหลงเชื่อ ระวังได้ไม่คุ้มเสีย โทษหนักถึงติดคุก

วันที่5 กันยายน 2565 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตามที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา พบว่าระหว่างวันที่ 1 -4 กันยายน มีผู้ใช้สิทธิสะสม 14.24 ล้านคน มียอดใช้จ่ายสะสม 5,885.1 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 2,981.8 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 2,903.3 ล้านบาท ทั้งนี้รัฐบาลได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและติดตามตรวจสอบอย่างใกลชิด ไม่ให้เกิดการทำธุรกรรมและพฤติกรรมที่ผิดปกติ หรือมีการใช้จ่ายที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขโครงการ เพื่อป้องกันปัญหาการทุจริต ให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม

ข่าวที่น่าสนใจ

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ทั้งนี้ แม้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตรวจสอบและดำเนินคดีอย่างจริงจัง แต่ยังพบว่ามีกลุ่มบุคคลที่ใช้วิธีการเดิมๆ คือการแลกสิทธิจากโครงการคนละครึ่งเป็นเงินสด โดยพบว่ามีรายงานการโฆษณาในช่องทางทวิตเตอร์ ช่องทางกลุ่มเฟซบุ๊ก เชิญชวนให้ผู้สนใจนำสิทธิมาแลกรับเป็นเงินสด โดยจะมีการหักค่าหัวคิว ในอัตรา 20 – 40 บาท จึงขอเตือนพี่น้องประชาชนและร้านค้าอย่าแลกสิทธิเด็ดขาด เพราะระบบตรวจสอบย้อนหลังได้ทั้งหมด และที่สำคัญการแลกวงเงินสิทธิเป็นเงินสด ถือเป็นการกระทำที่ทุจริตผิดกฎหมาย เข้าข่ายความผิดฐาน “ฉ้อโกง” เพราะมีเจตนาหลอกลวงผู้อื่น ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งโดยทุจริต ทำให้ได้ประโยชน์ทางทรัพย์สินไปจากผู้ถูกหลอกคือรัฐ มีโทษจำคุกถึง 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 341 “รัฐบาลใช้ระบบตรวจจับและตรวจสอบการโอนที่ผิดปกติของเงินคนละครึ่ง เพื่อป้องกันและมีมาตรการลงโทษแน่นอน ทั้งนี้รัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และฟื้นฟูเศรษฐกิจ จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์เพื่อความโปร่งใสและตรวจสอบได้ อย่างซื่อสัตย์สุจริต ฉะนั้น จึงขอให้พี่น้องประชาชนและร้านค้าระมัดระวัง ไม่เช่นนั้นอาจได้ไม่คุ้มเสีย”น.ส.ทิพานัน กล่าว

 

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า สำหรับพี่น้องประชาชนที่พบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเบาะแสได้ทั้ง (1) ส่งไปรษณีย์ลงทะเบียน ถึง“สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ถนนพระรามที่ 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400” 2.ส่งอีเมลที่ [email protected] 3.กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ สายด่วน 1569 4. กระทรวงการคลัง โทร. 02 273 9020 ต่อ 3697 3527 3548 35095. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1144 (24 ชั่วโมง)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผบช.ทท.โชว์ศักยภาพการทำงานรถบริการนักท่องเที่ยวเคลื่อนที่ สร้างความเชื่อมั่นยกระดับการดูแลความปลอดภัยและให้ความช่วยเหลือ นทท.
กกล.บูรพา ร่วมส่วนราชการ จ.สระแก้ว เปิดการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุอพยพประชาชนบนภูมิประเทศจำลอง ประจำปี 2568
ทต.เกล็ดแก้วเปิดการประชุมสภาครั้งแรก พร้อมประดับเครื่องหมายอินทรธนูให้กับนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาฯ
ด่วน! "พรรคภูมิใจไทย" แถลงการณ์ ขอถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล มีผล19 มิ.ย. ชี้คลิปเสียงนายกฯ กระทบอธิปไตยแผ่นดิน
ฮือฮา! ครูสอนดำน้ำบางเสร่เผยคลิปฉลามวาฬว่ายน้ำเคียงข้างเรือกลางทะเลสัตหีบ
Taiwan Excellence มุ่งมั่นนำโซลูชันอัตโนมัติอัจฉริยะ พลิกโฉมอุตสาหกรรมไทย
คาเมเนอีเตือนสหรัฐจะพังพินาศหากช่วยอิสราเอลโจมตีอิหร่าน
อิหร่านขู่จัดหนักสหรัฐถ้าทรัมป์จับมืออิสราเอลถล่มอิหร่าน
ภาพ "แม่ทัพภาค 2" ขึ้นโชว์จอ LED หน้าสโมสรทหารบก พร้อมข้อความให้กำลังใจ
ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา แถลงผลการจับต่างด้าว ช่วยเด็ก 9 ราย ป้องปรามขบวนการค้ามนุษย์

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น