“รัฐบาล” แจงยังไม่เลิก พรก.ฉุกเฉิน คุมระบาดโควิด

โฆษกรัฐบาล ย้ำ การยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน ศบค.พิจารณาความเหมาะสม พร้อมประเมินสถานการณ์-ความเสี่ยง ที่เกิดขึ้นในช่วงเปลี่ยนผ่าน หลังการประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคระบาดที่ต้องเฝ้าระวัง

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ยังไม่ยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินว่า ศบค.จะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้งก่อน เนื่องจากยังเหลือระยะเวลาการประกาศใช้จนถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้ ทั้งนี้ สิ่งสำคัญของการประกาศใช้ พ.ร.ก ฉุกเฉินเพื่อควบคุมและป้องกันโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้น โดยไม่ได้มุ่งหวังการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อประเด็นอื่นแต่อย่างใด รวมทั้งเพื่อเกิดการบูรณาการการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงานอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ เพื่อทำให้ประชาชนเกิดความปลอดภัยจากโควิด-19 โดยการดำเนินงานที่ผ่านมาก็ได้รับการยอมรับและชื่นชมจากนานาประเทศ ซึ่งสนใจที่จะมาศึกษาแนวทางการดำเนินงานจากประเทศไทยด้วยซ้ำไป

ข่าวที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตาม แม้ไม่ได้มีการหารือเรื่องการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ที่ประชุม ศบค. ได้มีการหารือถึงความคืบหน้าในการจัดทำกรอบนโยบาย แนวทางปฏิบัติ และห้วงเวลา ในการดำเนินการเปลี่ยนผ่านสู่ภาวะ Post – Pandemic เพื่อการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคโควิด -19 หรือเป็นแผนการปรับลดระดับสถานการณ์โควิด-19 จากโรคติดต่ออันตรายเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ภายใต้หลักการ “เพื่อให้ประชาชนอยู่ร่วมกับโควิด-19 อย่างปลอดภัย สามารถดำเนินชีวิตได้ปกติ” โดย ศบค. ได้พิจารณาทั้งการประเมินสถานการณ์และความเสี่ยง ด้านการป้องกัน ซึ่งภาพรวมประชาชนในประเทศไทยมากกว่าร้อยละ 90 มีภูมิคุ้มกัน ผู้ฉีดวัคซีน 3 เข็มไม่ว่าสูตรใดสามารถป้องกันการป่วยรุนแรงและการเสียชีวิตได้มากกว่าร้อยละ 90 และหลังจากนี้ คาดการณ์ว่าโควิด-19 จะมีลักษณะการเกิดโรคในประชากรซึ่งจะคล้ายคลึงกับการระบาดของไข้หวัดใหญ่ ซึ่งจะพบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี รวมทั้งด้านการรักษาอาการผู้ป่วย ซึ่งส่วนใหญ่แนวโน้มไม่รุนแรง ยกเว้นในกลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อโรครุนแรง และกลุ่ม 608

“ก่อนถึงวันที่ 1 ตุลาคม ศบค. จะมีการประเมินสถานการณ์ และความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในช่วงเปลี่ยนผ่าน หลังจากการประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคระบาดที่ต้องเฝ้าระวัง ว่าจะต้องคงกลไกในการควบคุมและบริหารจัดการอะไรไว้บ้าง ซึ่งต้องมั่นใจว่าจะไม่เกิดวิกฤตและความเสียหายในมิติต่าง ๆ เกิดขึ้นอีก หรือหากเกิดขึ้นต้องแก้ไขได้ทันท่วงที เน้นมีแผนรองรับที่ดี และวิกฤตความเสียหายต้องไม่เกิดขึ้นอีก ดังนั้น จึงขอให้รอผลการประชุม ศบค. ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กรมบังคับคดี" จัดงาน MONEY EXPO 2025 บรรยากาศสุดคึกคัก ประชาชนแห่ปรึกษา-ร่วมไกล่เกลี่ยหนี้คับคั่ง
"กองทัพบก" ยืนยันสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ยังปกติ
ผู้นำยูเครนถึงตุรกีเรียกผู้แทนเจรจารัสเซียว่าตัว Stand-in
มหกรรม SME Beyond เติมทุนปลุกพลังเติบโตยั่งยืน พบกัน 30 พ.ค.นี้
อบจ.ชลบุรี เดินหน้าโครงการ "เกษตรรักษ์สิ่งแวดล้อม" รณรงค์ลดการเผา–สร้างชลบุรีปลอดฝุ่น PM 2.5
ฮือฮา "สารัชถ์" ซีอีโอ "กัลฟ์" ได้รับเกียรติ กาตาร์เชิญร่วมงานเลี้ยงดินเนอร์ ร่วม "ปธน.ทรัมป์"
รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร.บินด่วนลงพื้นที่ฉะเชิงเทราตรวจเยี่ยมให้กำลังใจข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่แล้วถูกลอบทำร้าย
เปิดตัว “รองแม่ทัพ” อดีตทหารพราน ผู้ที่เคยทำ “นายพลเขมร” ร้องไห้มาแล้ว
ด่วน! ศาลออกหมายจับ "เปรมชัย กรรณสูต" และ บุคคลรวม 17 คน คดีตึกสตง.ถล่ม
ผู้นำมาเลเซียหารือเที่ยวบิน MH17 กับปูติน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น