มาร์กอสกล่าวว่าการยกเลิกภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขอาจทำให้ฟิลิปปินส์ไม่ได้รับความช่วยเหลือหรือสิ่งของที่หน่วยงานระดับโลกอย่างองค์การอนามัยโลก (WHO) มอบแก่ชุมชนการแพทย์ระหว่างประเทศ ดังนั้นฟิลิปปินส์จึงอาจขยายระยะเวลาของภาวะฉุกเฉินดังกล่าวต่อไปถึงสิ้นปีนี้
โรดริโก ดูแตร์เต อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 หลังจากมีการยืนยันตรวจพบการระบาดของโรคโควิด-19 ระดับชุมชน ก่อนจะขยายระยะเวลาจนถึงวันที่ 12 ก.ย. นี้
ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขเรียกร้องสาธารณชนสนับสนุน ร่วมมือ และระดมทรัพยากรอันจำเป็น เพื่อดำเนินการรับมือและมาตรการที่สำคัญ เร่งด่วน และเหมาะสม สำหรับบรรเทาและขจัดภัยคุกคามจากโรคโควิด-19 อย่างทันท่วงที
ทั้งนี้ เมื่อวันพุธ (17 ส.ค.) กระทรวงสาธารณสุขของฟิลิปปินส์ รายงานยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในประเทศสะสมอยู่ที่ 3,840,943 ราย ยอดผู้ป่วยที่ยังรักษาตัวลดลงเหลือ 35,101 ราย และยอดผู้ป่วยเสียชีวิตอยู่ที่ 61,173 ราย
มาร์กอส ซึ่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสกระตุ้นรอบสอง เมื่อวันพุธ (17 ส.ค.) ยังเรียกร้องสาธารณชนฉีดวัคซีนโดสกระตุ้น เนื่องจากจะช่วยประเทศกลับสู่สภาวะปกติ รวมถึงมีความสำคัญต่อการเปิดเศรษฐกิจและหลีกเลี่ยงการล็อกดาวน์
ฟิลิปปินส์มีประชากรทั้งหมดราว 110 ล้านคน ซึ่งได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้วกว่า 72.1 ล้านคน ฉีดโดสกระตุ้นรอบแรกมากกว่า 17 ล้านคน และฉีดโดสกระตุ้นรอบสอง 1.8 ล้านคน
เครดิต: ซินหัว
