สภาฯ รับหลักการวาระ 1 ร่างพ.ร.บ.คุ้มครองพยาน

รัฐสภา 7 ก.ค.- รมว.ยุติธรรม ดันร่างพ.ร.บ.คุ้มครองพยานคดีอาญาผ่านสภาฯวาระ 1 รับหลักการแก้เพิ่มความปลอดภัย-ค่าตอบแทน ปรับบทบัญญัติให้สอดคล้องการปฏิบัติงาน

ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองพยานในคดีอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….ที่คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ขอเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.คุ้มครองพยานในคดีอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….ต่อที่ประชุมสภาฯ โดยมีหลักการแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.คุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ. 2546 คือ 1.แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 3 เพิ่มบทนิยามคำว่าพยาน และเพิ่มบทนิยามคำว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ในมาตรา 3 2.แก้ไขเพิ่มเติมมาตรการทั่วไปในการคุ้มครองพยานเกี่ยวกับการประเมินพฤติการณ์ความไม่ปลอดภัยและการขยายระยะเวลาการคุ้มครองพยาน โดยแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 6 วรรคสอง 3.แก้ไขเพิ่มเติมมาตรการพิเศษในการคุ้มครองพยานเกี่ยวกับคดีความที่พยานอาจได้รับความคุ้มครอง การจ่ายค่าเลี้ยงชีพ และเหตุที่อาจสั่งการให้คุ้มครองพยานสิ้นสุดลง โดยแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 8 (2) และ (3) และมาตรา 10 และเพิ่มเติมมาตรา 12 (6) 4.แก้ไขเพิ่มเติมหน้าที่และอำนาจของสำนักงานคุ้มครองพยานและกำหนดอำนาจชองพนักงานเจ้าหน้าที่ในการคุ้มครองความปลอดภัยของพยาน โดยแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 13 และเพิ่มเติมมาตรา 13/1 5.แก้ไขเพิ่มหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายแก่พยาน แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 17 ทั้งนี้พ.ร.บ.คุ้มครองพยานในคดีอาญาพ.ศ. 2546 มีบทบัญญัติบางประการไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน รวมทั้งไม่มีบทบัญญัติเกี่ยวกับอำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติตามพ.ร.บ.ดังกล่าว สมควรแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับมาตรการทั่วไปและมาตรการพิเศษในการคุ้มครองพยาน หน้าที่ และอำนาจของสำนักงานคุ้มครองพยานและอำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่และหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายแก่พยาน เพื่อให้พยานเกิดความเชื่อมั่น ได้รับความคุ้มครอง และได้รับการปฏิบัติที่เหมาะสมยิ่งขึ้น เชื่อว่าชั้นกรรมาธิการจะปรับเพื่อให้เกิดความเหมาะสม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในประชุมครั้งนี้ ส.ส.ได้อภิปรายอย่างกว้างขวาง และส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะมีการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ โดยมีการเสนอแนะรายละเอียดเกี่ยวกับการปฏิบัติ และมองว่าพระราชบัญญัตินี้ยังเกิดข้อขัดข้องในการปฎิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองพยาน ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของพยานในกระบวนการคุ้มครองจึงต้องมีการปรับกฎหมายฉบับนี้ขึ้นมาและรัฐธรรมนูญ 2560 บัญญัติว่ารัฐต้องบริหารกระบวนการยุติธรรมทุกด้านให้มีประสิทธิภาพ มีความเป็นธรรมไม่เลือกปฏิบัติและประชาชนเข้าถึงความยุติธรรมได้สะดวก รวดเร็ว ไม่เสียค่าใช้จ่าย เพราะการคุ้มครองพยานถือเป็นความจำเป็นและเป็นหัวใจของกระบวนการยุติธรรม โดยกฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายปฏิรูป เมื่อส.ส.ดูเนื้อหาสาระแล้วมีความจำเป็น และหลายคนก็สนับสนุนแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดตอนนี้คดีอาญามีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งคดียาเสพติด คดีเพศ คดีความมั่นคง ซึ่งต้องทำให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือการคุ้มครองพยาน ซึ่งจากสถิติคดีอาญานั้นสามารถลงโทษคนที่กระทำความผิดได้จริง ไม่ใช่ไปยกฟ้อง เพราะปราศจากพยานที่จะมายืนยัน เนื่องจากพยานเอกสารไม่สำคัญเท่าพยานบุคคลพระราชบัญญัตินี้เป็นหลักการที่ดี แต่อยากให้มีการประชาสัมพันธ์และให้ค่าคุ้มครองพยานอย่างเหมาะสม

ด้านนายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม กล่าวชี้แจงว่า ในการทำงานคุ้มครองพยานกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพได้ทำความตกลงหรือเอ็มโอยูร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ 7 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการปกครอง กระทรวงกลาโหม ดีเอสไอ กรมราชทัณฑ์ กรมพินิจฯ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำให้การบริหารงานด้านการคุ้มครองพยานที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนเรื่องสถิติการคุ้มครองพยานที่ผ่านมาตั้งแต่เราใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองพยานฉบับนี้ก็มีการอนุมัติคุ้มครองพยานไป 2,846 ราย และสิ้นสุดการคุ้มครองพยานไปแล้ว 2,754 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการคุ้มครอง 92 ราย มีความปลอดภัย 100% ในการดูแลและมีผลทางคดีเสร็จสิ้นลงโทษพิพากษลงโทษไปแล้วกว่า100 คดี ยกฟ้องเพียง 13 ราย พยานมีความเชื่อมั่น 94% และความพึงพอใจของพยานอยู่ที่ 92% ทั้งนี้กฎหมายเดิมไม่ได้คุ้มครองพยาน แต่กฎหมายที่แก้ไขจะสามารถคุ้มครองจำเลยที่อ้างตนเองเป็นพยานได้ รวมถึงร่างพระราชบัญญัติฉบับใหม่สามารถให้พยานเบิกค่าใช้จ่ายได้ด้วยนอกจากค่าตอบแทนแล้ว สำหรับประเด็นอื่นๆที่เป็นข้อเสนอแนะของส.ส. ตนขอรับไว้เพื่อประกอบการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการต่อไป

จากนั้นในเวลา 12.15 น. ที่ประชุมลงมติรับหลักการในวาระแรก โดยมีส.ส.เห็นด้วย 301 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 2 เสียง และตั้งกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.คุ้มครองพยานฯ จำนวน 25 คน ใช้ระยะเวลาแปรญัตติ 7 วัน

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สม รังสี" ปลุกคนเขมร กล้าลุกฮือต่อสู้ ตระกูลฮุน เลียนแบบ "เนปาลโมเดล" กำจัดรัฐบาลฉ้อฉล
เกิดเพลิงไหม้ร้านทำเบาะ เสียหายหนัก ดับเพลิงช่วยชีวิตแมวรอดหวุดหวิด
โรงเรียน–วัดคู่เมืองโคราช ร้อยสายสัมพันธ์กว่า 90 ปี ปลูกฝังคุณธรรม ควบคู่วิชาการ
"KMA" ชี้แจงหยุดจำหน่ายสินค้า “Multi Face Stick” สี P1 Aurora Pink นานแล้ว หลัง อย.พบสารปรอทเกินค่ามาตรฐาน
จัดครั้งแรกในไทย! 'Forbes Under 30 Summit Asia 2025' รวมพลนักธุรกิจรุ่นใหม่ทั่วเอเชีย 'ธนิศร์-กรวัฒน์ เจียรวนนท์' ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ ขับเคลื่อนอนาคตในยุคเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี "Jumpstarting the Future"
“นิพิฏฐ์” ยินดี ถ้า “อภิสิทธิ์” คัมแบ็ค ฟื้นฟูประชาธิปัตย์ เตือนโหวตเตอร์เลือกผิด พรรคล่มสลายนิรันดร์

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​