นายพงศพัศ กตคุณวิสิทธิ์ หัวหน้าอาสากู้ภัย ธน.28 เล่าทั้งน้ำตาถึงเหตุการณ์ไฟไหม้ภายในบริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยเสียชีวิต 1 ราย คือ นายกรสิทธิ์ ราวพันธ์ อายุ 19 ปี หรือ พอส ว่า ช่วงเกิดเหตุทุกคนรู้ดีว่า ตรงนั้นไม่มีไฟอยู่ แต่ไม่กี่นาทีไฟมันวนกลับมา ไม่มีใครอยากให้เกิด เอาคำว่าวีรบุรุษกลับไป ผมอยากได้น้องคืนมา ไม่มีส่วนไหนที่ประมาท หรือ ผิดพลาด เราทำตามที่อบรมมา มันเป็นเหตุสุดวิสัย ตนเองกับทีมงานชุดแรกเข้าไป จุดที่ น้องพอส ยืนอยู่ไม่มีแสงไฟเลย แต่สิ่งที่ได้คือ สารที่ระเหยขึ้นมาอิ่มตัวพร้อมจะจุดติด ระเหยไปตรงไหนก็พร้อมจุดติด ลมม้วนกลับมา ไฟเลยเข้าหาตัวน้องที่ยืนอยู่จุดนั้น
นายพงศพัศ เล่าอีกว่า วันนี้เราสูญเสีย แต่น้องจะอยู่ในใจพี่ตลอดไป ไม่อยากพูดว่าใครผิด อยากให้ถอดบทเรียน หน่วยงานต่างๆ ต้องบูรณาการร่วมกันให้เร็วกว่านี้ ตอนไฟกำลังไหม้ ไม่มีใครบอกข้อมูลอะไร เช่น ตึกถล่ม วิศวกรบอกว่า โครงสร้างมันไม่ได้ แต่คนพูดอยู่ไหนไม่รู้ เช่นเดียวกับการทำงานในครั้งนี้ หน่วยงานที่มีข้อมูลแผนผัง วิศวกรอยู่ไหนไม่รู้ ไม่มีใครบอกข้อมูลอะไรให้เราป้องกันตัวได้
นายพงศพัศ ทิ้งท้ายว่า วันที่สูญเสียน้อง ไม่มีใครได้บอกลา ไปกลางคืนกลับมาเช้า เราไม่ใช่อาสาสมัครไม่มีสมอง คนที่บอกว่า ผมบอกแล้วให้ออกมา ออกมา ผมอยากบอกว่า เราเป็นนักดับเพลิง เดินไปกองซากปรักหักพังของเศษไฟไหม้ไม่ใช่แคทวอล์กที่จะได้เดินกลับออกมา ไม่ใช่บอกว่า เตือนแล้ว ว่างๆ มาเจอกันในกองเพลิง