No data was found

“อีสานโพล” เผยกัญชาเสรี ทำคะแนนนิยม “ภูมิใจไทย” เพิ่ม

กดติดตาม TOP NEWS

"อีสานโพล" เผยความนิยมในอีสาน ของพรรคภูมิใจไทย มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นจากการผลักดันการปลูกกัญชาเสรี พบคนอีสานเกินครึ่งจะปลูกกัญชากิน และลองกินอาหารผสมกัญชา แต่ส่วนใหญ่ไม่เสพกัญชา คาดอีกประมาณ 1 ปี ราคากัญชาจะลดลง หนุนจำกัดปริมาณปลูก

เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 65 อีสานโพล (E-Saan Poll) ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยผลสำรวจของ เรื่อง “คนอีสานกับการปลูกกัญชาเสรี” โดยผลสำรวจพบว่า ครัวเรือนอีสานเกินครึ่งจะปลูกกัญชา ส่วนใหญ่จะกินและลองกินอาหารผสมกัญชา แต่ไม่แห่เสพกัญชา คาดอีกประมาณ 1 ปี ราคากัญชาจะลดลงทำให้การปลูกกัญชาได้กำไรไม่มาก และอาจไม่ช่วยแก้ปัญหาความยากจน นอกจากนี้เกินครึ่งมีความกังวลมากถึงมากที่สุดเยาวชนจะบริโภคหรือเสพกัญชาจนเสียสุขภาพหรือการเรียน สนับสนุนห้ามขาย และบริโภคกัญชาในสถานที่ราชการ วัด โรงพยาบาล และสถานศึกษา เชื่อว่าการปลูกกัญชาเสรีอาจช่วยลดปัญหายาเสพติดพวกยาบ้า ยาอี ยาเค ได้บ้าง ข้อดี และข้อเสีย ของการปลูกกัญชาเสรียังก้ำกึ่งแต่ค่อนไปทางมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย จำกัดปริมาณการปลูกต่อครัวเรือน และการผลักดันการปลูกกัญชาเสรีส่งผลให้คะแนนนิยมของพรรคภูมิใจไทยในอีสานเพิ่มขึ้น

รศ. ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพล กล่าวว่า การสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความคิดเห็นของคนอีสานกับการปลูกกัญชาเสรี ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 17-19 มิ.ย. 2565 จากกลุ่มตัวอย่างอายุ 18 ปีขึ้นไป 1,105 รายในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด

เมื่อสอบถามกลุ่มตัวอย่างว่า “ครัวเรือนของท่านจะปลูกต้นกัญชาหรือไม่” พบว่า ร้อยละ 53.1 จะปลูก และร้อยละ 46.9 จะไม่ปลูก โดยกลุ่มที่จะปลูกแยกเป็นดังนี้ ร้อยละ 25.6 จะปลูก 1 – 5 ต้น ร้อยละ 14.7 จะปลูก 6 – 10 ต้น และ ร้อยละ 12.8 จะปลูกมากกว่า 10 ต้น แต่ไม่เกินที่กฎหมายกำหนด

และเมื่อสอบถามว่าท่านจะกินอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชาหรือไม่ พบว่า ร้อยละ 73.2 จะมีการกินหรือลองกิน และ ร้อยละ 26.8 จะไม่กิน โดยกลุ่มที่จะกินหรือลองกินแยกเป็นดังนี้ ร้อยละ 33.2 อาจจะลองแค่ลองกินไม่กี่ครั้ง ร้อยละ 33.8 จะกินตามโอกาสต่างๆ และมีเพียงร้อยละ 6.2 ที่จะกินบ่อยหรือกินเป็นประจำ

เมื่อสอบถามต่อว่า ท่านจะเสพกัญชาหรือไม่ พบว่า ร้อยละ 66.9 จะไม่เสพ และร้อยละ 33.1 จะเสพหรือลองเสพ โดยกลุ่มที่จะเสพหรือลองเสพแยกเป็นดังนี้ ร้อยละ 19.0 อาจจะลองแค่ลองเสพไม่กี่ครั้ง ร้อยละ 10.6 จะเสพตามโอกาสต่างๆ และมีเพียงร้อยละ 3.5 ที่จะเสพบ่อยหรือเสพเป็นประจำ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อสอบถามต่อว่า หลังจากนี้ประมาณ 1 ปี เมื่อประชาชนปลูกกัญชาเยอะขึ้น ราคากัญชา จะเป็นอย่างไรพบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 48.1 เห็นว่า ไม่ถูกไม่แพงปลูกแล้วยังพอมีกำไร รองลงมาร้อยละ 35.2 เห็นว่า พอๆ กับผักสวนครัวปลูกแล้วไม่ค่อยมีกำไร และมีเพียงร้อยละ 16.6 เห็นว่า ยังแพงมากปลูกแล้วได้กำไรสูง

ส่วนการอนุญาตให้ประชาชนปลูกกัญชาได้ จะช่วยให้ประเทศลดปัญหาความยากจนได้หรือไม่นั้น พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 66.7 เห็นว่า ไม่ช่วยลดปัญหาความยากจนหรืออาจเพิ่มปัญหา ขณะที่ ร้อยละ 33.3 เห็นว่าจะช่วยลดปัญหาความยากจน

เมื่อสอบถามถึงความกังวลว่าบุตรหลานของท่านหรือเยาวชนจะบริโภคหรือเสพกัญชาจนเสียสุขภาพหรือการเรียน หรือไม่อย่างไร” พบว่า เมื่อเรียงจากระดับความกังวล เป็นดังนี้ ร้อยละ 23.7 ตอบว่า กังวลมากที่สุด ร้อยละ 24.9 ตอบว่า กังวลมาก ร้อยละ 33.5 ตอบว่า กังวลปานกลาง ร้อยละ 12.4 ตอบว่า กังวลน้อย และมีเพียงร้อยละ 5.5 ที่กังวลน้อยที่สุดหรือไม่กังวลเลย

“กฎหมายควรกำหนดให้แต่ละครัวเรือนปลูกกัญชาเพื่อใช้ในครัวเรือนได้ไม่เกินกี่ต้น” พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 62.4 ยังมองว่ารัฐควรจำกัดจำนวนการปลูก โดยแยกเป็น ร้อยละ 26.3 ให้ปลูกไม่เกิน 6 ต้น ร้อยละ 232 ให้ปลูกไม่เกิน 10 ตัน และร้อยละ 12.9 ไห้ปลูกไม่เกิน 20 ตัน อย่างไรก็ตาม มีถึงร้อยละ 34.9 ที่สนับสนุนให้ปลูกได้เสรีไม่จำกัด และมีร้อยละ 2.8 ที่ระบุอื่นๆ หรือไม่แน่ใจ

เมื่อสอบถามต่อว่า “การผลักดันการปลูกกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทย จะทำให้ความนิยมของพรรคภูมิใจไทยในอีสาน เป็นอย่างไร” พบว่า อันดับหนึ่ง ร้อยละ 61.5 ระบุว่า ความนิยมพรรคภูมิใจไทยเท่าๆ เดิม รองลงมา ร้อยละ 17.0 ความนิยมพรรคภูมิใจไทยเพิ่มขึ้น ตามมาด้วย ร้อยละ 13.7 ดวามนิยมพรรคภูมิใจไทยลดลง ร้อยละ 6.1 ดวามนิยมพรรคภูมิใจไทยเพิ่มขึ้นมาก และร้อยละ 1.7 ความนิยมพรรคภูมิใจไทยลดลงมาก ซึ่งโดยภาพรวมกลุ่มที่ระบุว่าความนิยมพรรคภูมิใจไทยเพิ่มขึ้น หรือเพิ่มขึ้นมาก รวมแล้วมีร้อยละ 23.1 ขณะที่ กลุ่มที่ระบุว่าความนิยมพรรคภูมิใจไทยลดลงหรือลดลงมาก รวมแล้วมีร้อยละ 15.4 ดังนั้น ความนิยมของพรรคภูมิใจไทยมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นจากการผลักดันการปลูกกัญชาเสรี

 

และสุดท้ายเมื่อถามว่า “ถ้าเลือกตั้ง ส.ส. วันนี้ ท่านมีแนวโน้มจะลงคะแนนให้พรรคใด” พบว่า อันดับหนึ่ง ร้อยละ 36.0 ระบุพรรคเพื่อไทย รองลงมา ร้อยละ 19.5 พรรคก้าวไกล อันดับสาม ร้อยละ 13.7 พรรคภูมิใจไทย (ซึ่งเพิ่มจากเดือนเมษายน 2565 ที่ได้ร้อยละ 9.0 จากผลของการผลักดันการปลูกกัญชาเสรี) อันดับสี่ร้อยละ 13.6 พรรดพลังประชารัฐ อันดับห้า ร้อยละ 11.1 พรรคไทยสร้างไทย อันดับหก ร้อยละ 2.9 พรรคประชาธิปัตย์ อันดับเจ็ด ร้อยละ 2.2 และร้อยละ 1.0 พรรคอื่นๆ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมิติเวช ชลบุรี และ ศรีราชา ให้การต้อนรับ มิสเตอร์ เจสัน รองกรรมการโรงพยาบาลสมัยใหม่ กวางโจ สาธารณประชาชนจีน นายชนะพล คลังรุ่งเรือง นายกสมาคมการค้า ไทย-เหลียวหนิง พร้อมทั้งโชว์ศักยภาพการให้บริการโรงพยาบาลในเครือ "สมิติเวช"
"ทนายเดชา" ฟันธงหลักฐานมัด "บิ๊กโจ๊ก" เตรียมต่อสู้ในชั้นศาล หักล้างความผิด
"จั๊กกะบุ๋ม" จุดธูปสาบานกลางรายการ ตอบชัดๆ "เป็ด เชิญยิ้ม" โทรหา "แม่ปูนา" หรือไม่
“อุ๊งอิ๊ง” แจงปมร้อน บินฮ่องกง มีหลายบทบาท ลั่นพร้อมรับฟังทุกดราม่า
วันไหลแห่เจ้าพ่อพระปรง หรือ วันไหล สงกรานต์ สระแก้ว อย่างยิ่งใหญ่
สื่อยิวเผยอิสราเอลยิงขีปนาวุธพิสัยไกลเข้าอิหร่านไม่ใช่โดรน
"ธีรยุทธ" ร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นศาลรธน.วินิจฉัยพรป.เลือกสว.เอื้อระบบฮั้วขัดกม.
"ก้าวไกล" หัวร้อนหนัก แจงโต้ "ชัยวัฒน์" กล่าวหาฝ่ายค้านเอี่ยวเผาป่าหวังผลการเมือง
“เสรีพิศุทธ์” ตอบทุกคำถาม หลังถูกมองเข้าข้าง “บิ๊กโจ๊ก” มีความเป็นกลางหรือไม่ในการวิเคราะห์
นานาชาติเรียกร้องอิหร่าน-อิสราเอลยุติการตอบโต้

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น