No data was found

ศาลพิพากษาประหารชีวิต “อดีตผกก.โจ้” ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต คดีคลุมถุงดำ

กดติดตาม TOP NEWS

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางพิพากษาประหารชีวิต ผู้กำกับโจ้ พร้อมจำเลยที่เป็นตำรวจอีก 5 นาย แต่มีเหตุบรรเทาโทษคงเหลือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนจำเลยอีก 1 ราย ศาลตัดสินจำคุก 5 ปี 4 เดือน

วันนี้ (8 มิ.ย.65) ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.ตลิ่งชัน ได้นัดฟังคำพิพากษา คดีอาญาหมายเลขดำที่ อท.180/2564 ที่อัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้อง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ “ผกก.โจ้” อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ กับพวก รวม 7 คน ฐานร่วมกันฆ่า นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ หรือมาวิน อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาในคดียาเสพติด ด้วยการซ้อมและใช้ถุงดำคลุมศีรษะ จนขาดอากาศหายใจอย่างทารุณ ซึ่งมีอัตราโทษประหารชีวิตสถานเดียว

โดยศาลได้พิเคราะห์พยานหลักฐาน ในสำนวนแล้ว จึงมีคำพิพากษาว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.โจ้ จำเลยที่ 1 พ.ต.ต.รวีโรจน์ ดิษทอง จำเลยที่ 2 , ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค จำเลยที่ 3 , ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา จำเลยที่ 4 , ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว จำเลยที่ 5 และ ส.ต.ต.ปวีณ์กร คำมาเร็ว จำเลยที่ 7 ได้ร่วมกันกระทำความผิดจริง เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทให้เรียงกระทงลงโทษในทุกความผิด

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยให้ลงโทษมาตรา 289 (5) ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและกระทำด้วยการทรมานทารุณโหดร้ายฯ ซึ่งเป็นบทหนักสุดตามมาตรา 90 มีโทษประหารชีวิต ส่วนด.ต.ศุภากร จำเลย 6 มีความผิดตามมาตรา 157 ฐานละเว้นหรือปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ร่วมกันข่มขืนใจให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใด ให้ลงโทษ จำคุก 8 ปี

แต่อย่างไรก็ตามจำเลย 1-7 ให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีการให้เงินค่าปลงศพ 30,000 บาท เพื่อบรรเทาผลร้ายให้บิดามารดาผู้ตาย คนละ 300,000 บาท นอกจากนั้น ยังมีพฤติการณ์ในการบรรเทาเหตุร้าย ด้วยการพยายามช่วยปฐมพยาบาลและนำส่งไปโรงพยาบาล จนกู้สัญญานชีพกลับมาได้ จึงเป็นเหตุบรรเทาโทษ พิจารณาลดโทษให้จำเลยคนละ 1ใน 3 คงจำคุกตลอดชีวิตส่วน ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น จำเลยที่ 6 ให้ลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุก 5 ปี 4 เดือน

ในส่วนคดีแพ่งที่เรืออากาศตรีจักรกฤษณ์ และนาง จันทร์จิราธนะพัฒน์ พ่อและแม่ของนายมาวินผู้เสียชีวิตเป็นโจทก์ร่วมยื่นฟ้อง เรียกค่าเสียหายฐานละเมิดผู้กำกับโจ้และพวกรวมเป็นเงิน 1,500,000 บาท ศาลยกคำร้องโดยให้เหตุผลว่าจำเลยทั้ง 7 รายเป็นเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานตามอำนาจรัฐ โจทย์จึงไม่สามารถยื่นฟ้องคดีเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดเป็นส่วนตัวได้ แต่ให้ไปฟ้องหน่วยงานหรือต้นสังกัดที่จำเลยสังกัดแทน.

หลังฟังคำพิพากษา เรืออากาศตรีจักรกฤษณ์ กลั่นดี ได้ออกมาเปิดใจว่า รู้สึกพอใจกับคำพิพากษาในวันนี้ เพราะศาลได้พิจารณาพยานหลักฐานอย่างละเอียดแล้ว ส่วนตนเมื่อได้เห็นพยานหลักฐานที่หมด ก้รับไม่ได้กับการกระทำของผู้ต้องหา ไม่คิดว่าลูกชายจะโดนกระทำถึงเพียงนี้ส่วนการฟ้องคดีแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายของปรึกษาทนายความก่อน

อย่างไรก็ตาม ก่อนศาลนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา อดีตผู้กำกับโจ้ได้พูดผ่านวีดีโอ Conference ที่เจ้าตัวและพวกนั่งฟังคำพิพากษาอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยผู้กำกับโจ้ได้ร้องขอต่อศาลว่าขออนุญาตพูดอะไรก่อนศาลพิพากษาได้หรือไม่ตนเองต้องการอยากจะกล่าวคำขอโทษผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนและอยากฝากไปบอกทนายความว่าไม่เคยมาพบตนเองเลยระหว่างที่อยู่เรือนจำ

แต่ศาลให้เหตุผลว่าไม่สามารถให้การหรือแถลงใดๆ ในวันพิพากษาได้แล้วซึ่งก่อนหน้านี้ผู้กำกับโจ้ได้ถ้อยแถลง โดยบันทึกอยู่ในสำนวนถึง 400 กว่าหน้า ซึ่งน่าจะเพียงพอแล้ว แต่ถ้าอยากจะแถลงอะไรก็ขอให้หลังอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้นซึ่งมีกฎหมายเปิดช่องให้ทำได้อยู่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กรมโยธาฯ" รุกมาตรการเด็ดขาด ยกเลิกสัญญาจ้าง งานก่อสร้างล่าช้า ประชาชนเดือดร้อน
“ศปปส.” ยื่นหนังสือถึง UN หยุดแทรกแซง ม.112 ลั่นกฎหมายไทย คนไทยจัดการกันเองได้
"ภูมิธรรม" มั่นใจดันผู้ประกอบการเพิ่มแต้มต่อการค้า เปิดประตูสู่เอเชียใต้ หลังดัน FTA ไทย – ศรีลังกา ผ่านสภาสำเร็จ
รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ปรับแผนการเดินรถจากเหตุขัดข้อง ตามมาตรฐานความปลอดภัย พร้อมปรับลดค่าโดยสาร 20% จนกว่าจะเดินรถได้ตามปกติ
จีนใช้ ‘หุ่นยนต์สุนัข’ ตรวจสายเคเบิลในพื้นที่แคบ
“บิ๊กต่อ” ตั้งทนายฟ้องกลับ “ทนายตั้ม” หมิ่นประมาท ปมแฉเอี่ยวส่วยเว็บพนัน เรียกค่าเสียหาย 5 ล้าน
สหรัฐ สามปธน. เดโมแครตระดมทุนครั้งใหญ่ช่วยไบเดน
สุดอั้น จ่อปรับขึ้น "ดีเซล" ราคาหน้าปั๊มทะลุ 30 บาท มีผล 1เม.ย.67
นิรโทษกรรมเหมาเข่ง ดีลับยืมมือ "แดง" พิฆาต "ส้ม" ไม่จริง เหตุ "ก้าวไกล" เน่าในอยู่แล้ว
"รถไฟฟ้าสีเหลือง" ผดส.ทยอยใช้บริการปกติ ชื่นชมพนง.ดูแลดีช่วงขัดข้อง ฝากตรวจสอบอย่าเกิดซ้ำ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น