เวลา 17.00 (วันที่ 7 มิ.ย.65) หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ประมงจังหวัด ประมง อ.บางคล้า ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมผู้นำท้องถิ่น ได้ร่วมกันเตรียมการวางแผนเชิงรุก โดยมีการจัดกำลังเฝ้าระวังติดตามจระเข้ตัวดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ซึ่งค่อนข้างลำบากในการเข้าถึงตัวจระเข้ได้ยาก ซึ่งเวลาเจอตัวจระเข้ลอยอยู่พอมีเรือวิ่งผ่านจระเข้ก็จะจมหายไป หรือพอจระเข้จะเกยตลิ่ง มีเรื่อวิ่งผ่านก็จะลงน้ำหายไปอีก จนกระทั่งช่วงมืดเป็นเวลาที่น้ำขึ้นระดับน้ำเริ่มสูงขึ้น และช่วงเวลาประมาณ 22.30
เจ้าหน้าที่ช่วยกันฉายไฟ เพราะจะสังเกตได้ง่ายเนื่องจากตาจระเข้เวลาโดนไฟฉายจะเป็นสีแดง ขณะนั้นเองได้เห็นจระเข้ตัวดังกล่าวลอยหัวขึ้นมาเหนือน้ำริบตลิ่งใกล้บ้านข้างวัดสมาน ม.11 ต.บางแก้ว อ.เมืองฉะเชิงเทรา เป็นฝั่งตรงข้ามกับ ม.4 ต.สาวชะโงก อ.บางคล้า ที่จับจระเข้ได้เมื่อวันก่อน ทางเจ้าหน้าที่ประมงจึงได้ให้ให้ผู้เชี่ยวชาญนำอุปกรณ์ที่เตรียมไว้มาจับตัวไว้ได้ ก่อนที่จะนำตัวไปพักที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดจ.สมุทรปราการ ก่อนที่จะนำส่งต่อไปที่บึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ ซึ่งจระเข้ที่จับได้มีขนาดความยาวประมาณ 2 เมตร แต่ขนาดตัวใหญ่กว่าจระเข้ตัวที่แล้ว (จระเข้ตัวที่กัดสาวใหญ่ที่งมกุ้ง)
สราวุฒิ บุญสร้าง ผู้สื่อข่าวTOPNEWS ประจำ จ.ฉะเชิงเทรา