นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ นำสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ รับจดหมายเปิดผนึกเพื่อทวงถามและพิจารณามาตรการผ่อนปรน – เยียวยา ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการอาชีพธุรกิจกลางคืน-บันเทิงที่ได้รับผลกระทบจากโควิด – 19 จากสมาพันธ์ผู้ประกอบอาชีพธุรกิจกลางคืน และธุรกิจบันเทิงแห่งประเทศไทย นำโดย นายนนทเดช บูรณะสิทธิพร ตัวแทนชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิง ผับ บาร์ และนายธัญญ์นิธิ ปภัสสุรีย์โชติ ตัวแทนชมรมคนดนตรีแห่งประเทศไทย พร้อมศิลปินชื่อดัง Slot Machine , Tattoo colour , Cocktail และ Apartment Khunpa ณ รัฐสภา
นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ เปิดเผยว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ให้ความสำคัญกับความเดือดร้อนในช่วงวิกฤตโควิดของกลุ่มอาชีพอิสระ ผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืน-บันเทิงมาโดยตลอด โดยก่อนหน้านี้ได้พาตัวแทนสมาพันธ์ฯ เข้าพบนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) และดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกข้อเรียกร้องในการออกมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาบุคลากรในภาคธุรกิจกลางคืนและบันเทิงอย่างตรงจุดไปแล้ว แต่ที่ผ่านมาทางศบค. กระทรวงคลัง และสํานักนายกฯยังไม่มีมาตรการที่เหมาะสมออกมา โดยมาตราการที่ได้ประกาศออกมาแล้วนั้นไม่มากเพียงพอและยังมีอีกหลายกลุ่มอาชีพอิสระตกหล่น ทำให้วันนี้ทางสมาพันธ์ฯ ต้องมายื่นจดหมายเปิดผนึกเพื่อทวงถามความคืบหน้าของมาตรการต่าง ๆ ผ่านพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ยินดีรับจดหมายดังกล่าวเอาไว้ และจะผลักดันให้เกิดมาตรการช่วยเหลือโดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน
ทั้งนี้ ทางสมาพันธ์ ฯ ได้ยื่นข้อเรียกร้องแนบมาด้วย คือ
- ขอให้ยกเลิกคำสั่งปิดสถานบันเทิงแบบเหมารวม
- ขอให้มีคำสั่งปลดล็อกให้ธุรกิจกลางคืน และธุรกิจบันเทิง ได้กลับมาเปิดบริการ และสามารถจัดกิจกรรมต่างๆได้ภายในวันที่ 1 ส.ค.นี้ หรือกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจนในการอนุญาตให้กลับมาประกอบกิจการ และอาชีพได้อีกครั้ง
- ผ่อนปรนให้สามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อบริโภคในร้านได้
4.ผ่อนปรนให้มีการจัดมหรสพ โดยให้คงการปฏิบัติตามมาตรการคำสั่งของศบค. เพื่อรักษามาตรฐานการ ควบคุมโรค
5.พิจารณาจัดสรรวัคซีนให้ผู้ประกอบการ ผู้ให้บริการ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานประกอบการธุรกิจกลาง คืน และธุรกิจบันเทิงโดยเร็วที่สุด
6.ให้มีนโยบายที่ชัดเจนเรื่องการเยียวยา การพักชำระหนี้ และการกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำ ต่อผู้เดือดร้อนตั้งแต่การ ออกคำสั่งครั้งแรก เมื่อวันที่ 18 มี.ค.63
7.เปิดโอกาสให้ภาคเอกชน หรือประชาชนในกลุ่มภาคธุรกิจที่ได้รับความเดือดร้อน เข้าร่วมรับฟัง และเสนอ แนะ ในกระบวนการออกมาตรการต่างๆ และ
8.เปิดช่องทางการสื่อสาร เพื่อรับฟังความคิดเห็น และความต้องการของประชาชนที่เดือดร้อน