ประธานาธิบดี โจโก วิโดโด แห่งอินโดนีเซีย กล่าวในงานที่จัดโดยหอการค้าชาวอินโดนีเซียว่า จะมีการสรุปผลว่าจะมีการใช้ข้อจำกัดที่เข้มงวดกว่านี้เป็นเวลา 1-2 สัปดาห์หรือไม่ เนื่องจากขณะนี้จำนวนผู้ป่วยพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก โดยข้อจำกัดดังกล่าวจะใช้กับผู้คนในเกาะชวาและบาหลี แต่ยังไม่กำหนดแน่นอนว่าจะเริ่มเมื่อใด
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีเคยต่อต้านการเรียกร้องจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสำหรับการล็อกดาวน์อย่างเต็มรูปแบบ แต่ในตอนนี้ วิโดโดได้ขอให้เน้นเรื่องสุขภาพมากกว่าเศรษฐกิจ และเร่งการรณรงค์ฉีดวัคซีนของประเทศเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 1 ล้านโดสต่อวันในเดือนกรกฎาคมและ 2 ล้านโดสในเดือนสิงหาคม โดยตอนนี้มีคนอินโดนีเซียเพียง 13 ล้านคนได้รับวัคซีน 2 โดสจากจำนวนประชากรมากกว่า 270 ล้านคน ทั้งนี้ อินโดนีเซียมีกำหนดฉีดวัคซีนให้ได้ 181.5 ล้านคนภายในเดือนมกราคม 2565
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การควบคุมการเคลื่อนไหวเข้มงวดขึ้นในพื้นที่ที่เรียกว่า เขตสีแดง ซึ่งมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกล่าวว่าสิ่งเหล่านี้ยังไม่เพียงพอที่จะหยุดการระบาดได้ โดยขณะนี้มีจำนวนเตียงเหลือเพียง 20 กว่าเปอร์เซ็นต์เท่านั้น และในเมืองจาร์กาตา ได้มีการตั้งเต็นท์นอกโรงพยาบาลให้เป็นหน่วยฉุกเฉินทางการแพทย์ ทางการจึงได้วางแผนเสนอข้อจำกัดที่เข้มงวดขึ้นในการเคลื่อนไหวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง การห้ามรับประทานอาหารในร้านอาหาร การปิดห้างสรรพสินค้าและสำนักงานที่ไม่จำเป็น อย่างไรก็ดี ข้อเสนอดังกล่าวยังเป็นข้อเสนอเบื้องต้นและยังไม่ได้รับการรับรอง
อินโดนีเซียรายงานผู้ป่วยโควิด 19 ล่าสุด จำนวน 21,807 คน และผู้เสียชีวิต 467 คน อัตราผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ หลังผู้คนหลั่งไหลกลับบ้านช่วงเทศกาลวันหยุดเมื่อเดือนที่แล้ว ยอดรวมทั้งหมดตั้งแต่เริ่มการระบาดมีผู้ติดเชื้อ 2.16 ล้านคน และผู้เสียชีวิตมากกว่า 58,000 คน