ขยายเวลาพ.ร.ก.ฉุกเฉิน จชต. อีก 3 เดือน

"พล.อ.ประวิตร" ประชุม กบฉ. ขยายเวลาพ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีก 3 เดือน มติปรับลด "อ.ยะหริ่ง" ออกจากพื้นที่ประกาศฯ ฉุกเฉิน สะท้อนภาพลักษณ์ รัฐบาลจริงใจสร้างสันติสุข ขอบคุณประชาชนร่วมมือเจ้าหน้าที่ทุ่มเท เสียสละ

วันที่ 2 มิ.ย. 65 พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน(กบฉ.) ครั้งที่2/2565 ณ ห้องประชุม สมช. ทำเนียบรัฐบาล ที่ประชุมได้รับทราบ กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า รายงานผลการดำเนินงานตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ห้วง 20 มี.ค.-5 พ.ค.65 ซึ่งภาพรวมสถานการณ์การก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีแนวโน้มลดลง ประชาชนในพื้นที่ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐด้วยดี ประกอบกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงสามารถปฏิบัติงานได้ อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความเสียสละ ทุ่มเท

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบ ความคืบหน้าผลการดำเนินงานตามแผนปรับลดพื้นที่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งมีแนวโน้มปรับลดพื้นที่ต่อเนื่อง และได้เห็นชอบให้ปรับลดพื้นที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ออกจากพื้นที่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง เนื่องจากผ่านเกณฑ์การประเมิน และนำพ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 มาบังคับใช้แทน เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างของการบังคับใช้กฎหมาย พร้อมทั้งได้เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยกเว้น อ.ศรีสาคร ,อ.สุไหงโก-ลก ,อ.แว้ง ,อ.สุคิริน จ.นราธิวาส อ.ยะหริ่ง อ.ไม้แก่น ,อแม่ลาน จ.ปัตตานี และ อ.เบตง ,อ.กาบัง จ.ยะลา ออกไปอีกเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ 20 มิ.ย.-19 ก.ย.65 (ครั้งที่68) เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและยังคงประสิทธิภาพในการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ต่อไป

 

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวขอบคุณ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ร่วมมือกันปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความเสียสละ ทุ่มเท และขอบคุณประชาชนในพื้นที่ จชต.ที่มีความเข้าใจ และให้ความร่วมมือ ร่วมใจ เป็นอย่างดียิ่ง พร้อมทั้งยังได้กำชับ กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า ให้เข้มงวดงานด้านการข่าว และเฝ้าระวังพื้นที่ปรับลด ซึ่งอาจถูกใช้เป็นแหล่งหลบซ่อนและพักพิงของกลุ่มผู้ก่อเหตุ และให้คงบังคับใช้กฎหมาย จริงจัง ควบคู่กับการสร้างความเข้าใจประชาชน ต่อเนื่อง รวมทั้งให้เตรียมแผนการปรับลดพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพิ่มเติม เพื่อรองรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจและส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาล ต่อไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สอบสวนกลาง บก.ปคม. สนธิกำลัง ลุยตรวจวอล์คกิ้งสตรีท ป้องปรามค้ามนุษย์ สิ่งผิดกฎหมายทุกรูปแบบ ยันเป็นเมืองเข้มงวด ปลอดภัย
"โฆษกภูมิใจไทย" แถลงยัน หน.พรรค-กก.บห.พร้อมแสดงหลักฐาน แก้กล่าวหาคดีฮั้วเลือกสว. ชี้หนังสือส่อพิรุธ ดีเอสไอครอบงำ
"สงขลาคัพ 2568" ปิดฉากสุดคึกคัก หาดใหญ่เหมาแชมป์ 4 รุ่น พร้อมกับคว้าสิทธิ์ลุย "กัปตันสึบาสะ คัพ" ที่ประเทศญี่ปุ่น
สหรัฐจ่อขึ้นบัญชีดำธุรกิจฟอกเงินกัมพูชาโยงญาติฮุนมาเน็ต
ฮุนเซนวิงวอนนานาชาติหนุนกัมพูชาในศาลโลก
ฮุนเซนบอกคนไทยให้โทษกองทัพตัวเองถ้ากัมพูชาปิดด่าน
"สันติสุข" สวนแรง 6 คำขู่ "ฮุนเซน" ปลุกเขมรตอบโต้ไทย สุดท้ายทำปท.เดือดร้อน หลักฐานชี้ "พ่อลูกฮุน" ไม่ได้รักประชาชนจริง
"อนุทิน" เผยคุย "นายกฯอิ๊งค์" ไม่มีปมปรับครม. มั่นใจนั่งเก้าอี้มหาดไทยต่อ
"ฮุน มาเนต" โพสต์ส่งตัวแทนกัมพูชา ยื่นจดหมายถึงศาลโลกแล้ว ลั่นจะไม่ถอยหนี หวังฮุบ 4 พื้นที่พิพาท
เตือนภัย "มิจฉาชีพ" อ้างเป็นทนาย-ตำรวจ หลอกช่วยเหลือคืนเงินผู้เสียหายคดีออนไลน์ พบสูญเงินกว่า 10 ล้าน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น