No data was found

อาการ “ดวงตา” 5 อย่างนี้ ควรรีบพบจักษุแพทย์ ลดความสูญเสีย

ดวงตา

กดติดตาม TOP NEWS

อาการ "ดวงตา" 5 อย่างนี้ กรมการแพทย์ โดย โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) แนะ หากเจอควรรีบพบจักษุแพทย์ ลดความสูญเสียทางการมองเห็นได้

“ดวงตา” โรคตา ตา คืออีกหนึ่งอวัยวะที่สำคัญต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากเกิดอาการสูญเสียการมองเห็นขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นเพราะ โรคภัย หรือ อุบัติเหตุ ก็ทำให้การดำรงชีวิตประจำวันหลังจากนั้นลำบากเป็นอย่างมากแน่นอน ทำให้ล่าสุดนี้ทางด้าน กรมการแพทย์ โดย โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) ได้ออกมาให้ข้อมูลความรู้ อาการทางตาด่วนที่น่ามาโรงพยาบาลมีอะไรบ้าง เช็คเลยที่ TOP News

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยทางด้านเพจเฟซบุ๊ก กรมการแพทย์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความว่า รพ.เมตตาฯ แนะ ควรตรวจตาอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยปีละครั้ง การตรวจตาอย่างสม่ำเสมออาจพบโรคเรื้อรังทางกายซ่อนอยู่ ระหว่างการตรวจอาจพบโรคร้ายซึ่งอาจมีผลทำให้ตาบอด หรืออันตรายชีวิตได้ เช่น เนื้องอกในดวงตา ต้อหินเฉียบพลัน หากมีอาการทางตา เช่น ปวดตา ปวดศีรษะบ่อยๆ ตามัว ตาแดง เห็นภาพซ้อน น้ำตาไหล ตาแฉะ ควรตรวจตาให้ละเอียดว่าเป็นโรคร้ายแรงอะไรหรือไม่ บ่อยครั้งที่พบว่าผู้ป่วยเป็นต้อหิน ต้อกระจกซ่อนอยู่

 

 

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ตาอาจจะไม่ใช่อวัยวะสำคัญที่สุดในการดำเนินชีวิต แต่เป็นอวัยวะสัมผัสที่สำคัญสามารถทำให้ดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างครบถ้วน แต่คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยให้ความสนใจในดวงตา และไม่ได้นึกถึงว่าตาทำงานอย่างไร ตามีความผิดปกติอะไรได้บ้าง และตามีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตประจำวันได้อย่างไร หากให้นึกถึงการตรวจสุขภาพร่างกายโดยทั่วไป จะมีน้อยคนที่นึกถึงเรื่องตาก็มีความสำคัญที่จะต้องได้รับการตรวจด้วยเช่นกันจนกว่าจะมีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับตาเกิดขึ้นเสียก่อน

 

 

นายแพทย์อภิชัย สิรกุลจิรา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์(วัดไร่ขิง) กล่าวเพิ่มว่า คนทั่วไปรู้จักการตรวจสุขภาพกายโดยการตรวจความดันโลหิต ตรวจเลือด เอกซเรย์ปอด และตรวจร่างกายทั่วไป หลายคนคิดว่าตาไม่เป็นไรตราบที่การมองเห็นยังเป็นปกติ คงไม่ต้องตรวจก็ได้ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะโรคตาบางโรคมาเงียบ ๆ ช่วงแรกอาจไม่มีอาการเลย โดยเฉพาะโรคต้อหินชนิดเรื้อรัง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นภัยเงียบที่อาจทำให้ตาบอดได้ ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที แนะนำว่าควรตรวจสุขภาพตาซึ่งสามารถตรวจได้ทุกช่วงอายุไม่จำเป็นต้องตรวจตาตอนอายุมาก

 

 

 

ดวงตา

 

 

 

 

แพทย์หญิงวธูกานต์ รุ่งภูวภัทร กล่าวเสริมว่า การตรวจสุขภาพโดยจักษุแพทย์มีความจำเป็น เนื่องจากหลายโรคทางตา หลายโรคอาจพบความผิดปกติได้จากการมาตรวจ เช่น ภาวะต้อหินในระยะแรกอาจไม่มีอาการตามัว เนื่องจากเป็นโรคที่มีการสูญเสียลานสายตาโดยรอบก่อนโดยการมองเห็นตรงกลางยังเป็นปกติเว้นเป็นต้อหินระยะท้ายจึงมีการมองเห็นลดลงหรือลานสายตาแคบลง หรือผู้ป่วยที่มีพยาธิสภาพที่ตาข้างใดข้างหนึ่งโดยที่ตาอีกข้างปกติดีและเพราะไม่เคยทดสอบการมองเห็นด้วยตนเองง่าย ๆ ด้วยการปิดตาทีละข้างเพื่อทดสอบการมองเห็นว่าความผิดปกติหรือไม่ เกิดขึ้นจากตาข้างใดจึงมาพบแพทย์เมื่ออาการเป็นมากแล้วหรือมีความผิดปกติในตาทั้งสองข้างซึ่งในการพบจักษุแพทย์ เพื่อตรวจการมองเห็นนั้น จะมีขั้นตอนโดยการทดสอบการมองเห็นทีละข้าง ถ้าผิดปกติต้องหาสาเหตุว่าเกิดจากโรคตาหรือเป็นจากสายตาผิดปกติ แต่เนื่องจากในสภาวะปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างต่อเนื่องจึงทำให้ผู้ป่วยบางส่วนไม่อยากเดินทางมาโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น

 

 

 

ดวงตา

 

 

 

อย่างไรก็ตามยังมี ภาวะทางจักษุบางอย่างที่เป็นอันตรายและอาจส่งผลต่อการมองเห็นได้จึงควรมาพบจักษุแพทย์ เช่น

  • อุบัติเหตุทางตา ที่ก่อให้เกิดอาการระคายตาเคืองตา ตามัว เลือดออก สารเคมีหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าตา กระแทกตา หรืออุบัติเหตุที่ใบหน้า เปลือกตาที่อาจส่งผลต่อดวงตา เป็นต้น
  • อาการปวดตามาก ที่อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อที่กระจกตา เยื่อบุตา เบ้าตา ถุงน้ำตา ม่านตาอักเสบ ต้อหินฉับพลัน
  • เห็นจุดลอยใหม่หรือไฟแฟลชในตา อาจเป็นจากภาวะน้ำวุ้นลูกตาเสื่อมซึ่งมีการดึงรั้งจอประสาทตา อาจก่อให้เกิดจอประสาทตาฉีกขาดหลุดลอก หรือเลือดออกในน้ำวุ้นลูกตา
  • อาการตาแดง ที่เกิดการติดเชื้อที่กระจกตา เยื่อบุตาอักเสบ ม่านตาอักเสบ ต้อหินฉับพลัน แผลที่กระจกตา เป็นต้น
  • การมองเห็นลดลงฉับพลัน ต้อหินฉับพลัน จอประสาทตาฉีกขาดหลุดลอก เลือดออกในน้ำวุ้นลูกตาหรือจุดรับภาพ เส้นเลือดที่จอประสาทตาอุดตัน เส้นประสาทตาอักเสบ เป็นต้น

 

 

นอกเหนือจากนั้นหาก มีโรคทางตาที่ห้ามขาดยา มีความจำเป็นจะต้องใช้อย่างต่อเนื่องและอยู่ในการดูแลของจักษุแพทย์ เช่น โรคต้อหินที่ต้องรับยาหยอดตาต่อเนื่อง หรือโรคจอประสาทตาที่ต้องฉีดยาเข้าน้ำวุ้นลูกตาต่อเนื่อง ก็ควรไปตรวจติดตามการรักษา อย่างไรก็ดี หากมีตาแดงที่สงสัยว่าเกิดจาก โควิด-19 (เช่น พบอาการตาแดงร่วมกับอาการทางทางเดินหายใจ ไข้ ผื่น) ให้ไปรักษาโควิด-19 ก่อนได้ เนื่องจากอาการทางตาพบได้น้อยกว่าอาการทางระบบทางเดินหายใจ และไม่รุนแรง หายเองได้ และเนื่องจากที่ระบุนั้นเป็นตัวอย่างของอาการทางตาด่วนที่พบได้บ่อย ทั้งนี้ให้ขึ้นกับวิจารณญาณของพยาบาลที่ทำการคัดกรองหรือแพทย์ที่รับปรึกษา ในกรณีที่มีข้อบ่งชี้อื่นร่วมด้วย

 

 

 

ดวงตา

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

รัฐบาลแนะ ลูกหนี้ "กยศ." ถูกดำเนินคดี รีบเข้าเจรจา ปรับโครงสร้าง ขยายเวลาชำระ
ชัวร์! “พิชัย” รัฐมนตรีป้ายแดง "ขุนคลัง1" ย่องเข้าทำเนียบฯพบ "นายกฯ" กรอกข้อมูลคุณสมบัติรัฐมนตรี
ถอดทุกคำพูด "เช็ค สุทธิพงษ์" เปิดใจเล่าได้สัมผัส "พีระพันธุ์" ยอมรับประทับใจการทำงานมาก
ระทึกอีกแล้ว "สารเคมี" รั่วไหล ควันขาวลอยโขมงทั่วโรงงาน ย่านพระรามที่ 2 เจ้าหน้าที่เร่งระดมระงับเหตุวุ่น
อีกแล้ว 2 ฝรั่งคู่รักเล่นสยิวในทะเล หน้าหาด "เกาะพีพี" ไม่แคร์สายตาผู้คน
โซเชียลวิจารณ์หนัก "ทีมเชื่อมจิต" ออกแถลงการณ์ร้องนายกฯ ฟ้องสื่อ ปล่อยเฟคนิวส์ "น้องไนซ์" จี้ปฏิรูปวงการ
สภาพอากาศวันนี้ อุตุฯ เผยรับมืออากาศร้อนจัด อุณหภูมิพีคสุด 43 องศาฯ เตือน 44 จว. โดน "พายุฤดูร้อน" ถล่มหนัก
Deepfake อีลอน มัสก์ ทำหญิงเกาหลีใต้สูญเงินเกือบ 2 ล้าน
สหรัฐ ดอดส่ง ATACMS พิสัยไกลให้ยูเครน
ฮามาสปล่อยคลิปตัวประกันชาวอเมริกันเชื้อสายยิว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น