ส.ว.​พบประชาชนภาคเหนือตอนบน​ เร่งรัดติดตามผลกระทบโรงไฟฟ้าแม่เมาะ

โครงการ​ ส.ว.​ พบประชาชน​ภาคเหนือตอนบนลงพื้นที่​ จ.​ ลำปาง​เร่งรัดติดตาม​แผนพัฒนาจังหวัดที่สอดคล้องกับการปฏิรูปประเทศ​ โดยเฉพาะผลกระทบโรงไฟฟ้าแม่เมาะ​ โดย​กมธ.ส.ว.​รับร้องขอค่าชดเชยเพิ่มเติมหลังมีการจ่ายล่าช้า​ไปพิจารณา​

วันที่ 25 พฤษภาคม​ 2565​ จ.​ ลำปาง​ พลเอกสกนธ์ สัจจานิตย์​ รองประธานกรรมการคนที่​ 1​ โครงการสมาชิกวุฒิสภา พบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ (ตอนบน) ในฐานะ​ประธาน กมธ. การพลังงาน วุฒิสภา​ ลงพื้นที่จ.ลำปาง เป็นประธานการประชุมร่วมกับรองผู้ว่าราชการจ.ลำปาง​และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องณ.​ ศาลากลางจังหวัดลำปาง​ โดยมีคณะทำงาน​ ประกอบด้วย​ พลเรือเอกชัยวัฒน์​ เอี่ยม​สมุทร​​ กรรมาธิการ​และหัวหน้าทีมรับผิดชอบจ.ลำปาง รวมทั้งกรรมาธิการ​ ประกอบด้วยนายกรรณภว์​ ธนภรรคภวิน​​ พลเอกสุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์​ พลเรือเอก​นพดล​ โชคระดา คุณหญิงพรทิพย์​ โรจนสุนันท์ พร้อมผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี​ เข้าร่วมประชุม​ ด้วย​ เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินงานของส่วนราชการ​ หน่วยงานและประชาชนในพื้นที่ภายใต้กรอบหน้าที่และอำนาจของส.ว.​ เพื่อติดตามเร่งรัดการปฎิรูป​ประเทศในด้านต่างๆ​ อาทิ​ แผนพัฒนาจังหวัดที่สอดคล้องกับการปฏิรูปประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565

การบริหารจัดการน้ำ การจัดที่ดินเพื่อให้ประชาชนได้เข้าอยู่อาศัยในที่ดินของรัฐ ปัญหาไฟป่าหมอกควัน​ ซึ่งจากการรายงานพบว่างานในทุกส่วนมีความคืบหน้าและ​เป็นที่น่าพอใจ​  ส่วนประเด็นที่หยิบยกเป็นหลักคือ​ ความเดือดร้อนของประชาชน ตำบลบ้านดง อำเภอแม่เมาะที่ได้รับผลกระทบสะสมมานานหลายปี​ ​จากการทำเหมืองแร่ ถ่านหินลิกไนต์ และการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย​ (กฟผ.)​ หลังจากที่เมื่อวานนี้(24พฤษภาคม​65)​ครม.อนุมัติให้ กฟผ.ก่อสร้างโรงไฟฟ้าแม่เมาะทดแทนเครื่องที่ถูกปลด 4.74 หมื่นล้านที่มีกำหนดเสร็จสิ้นในปี2568-2569

ข่าวที่น่าสนใจ

พลเรือเอกชัยวัฒน์​ ระบุว่า​ ปัญหาโรงไฟฟ้าแม่เมาะเป็นปัญหาที่เรื้อรังมานานซึ่งในวันนี้ได้มารับทราบปัญหามลภาวะ​และสภาพแวดล้อม​ที่ตนมองว่าการสร้างรถไฟฟ้าปัจจุบัน​ดีส่งผลกระทบกับสภาพแวดล้อม​น้อยกว่าเมื่อก่อน​ แต่ปัญหาอยู่ที่การจัดสรรค่าภาคหลวงที่พบว่าบางหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบ​ได้รับแต่ในบางแห่งถูกพ้นจากเขตสัมปทาน​จึงไม่ได้มีการจ่ายต่อแต่มีการใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ทิ้งมูลดินจากการทำเหมือง​จึงทำให้ได้รับผลกระทบ​ซึ่งต้องมีการแก้ไขกฎหมาย​​ โดยยอมรับว่าการแก้กฎหมายเป็นเรื่องที่ยาก​และขณะนี้อยู่ในขั้นกฤษฎีกา​ที่ยังมีความเข้าใจที่ไม่ตรงกันและยังต้องได้รับการแก้ไข ส่วนในเรื่องราษฎร​อพยพ​นั้นก่อนหน้านี้​ ได้มี​กระบวนการจัดสรรที่ดินทำกิน​และไมีสาธารณูปโภคครบถ้วนแล้ว แต่ในประเด็นสำคัญคือการจ่ายค่าชดเชย​ที่ล่าช้าและร้องขอให้เพิ่มค่าชดเชย​ แต่ด้วยระบบข้าราชการอาจจะมีความล่าช้าต่อการเยียวยา​ ซึ่งกมธ.จะรับไปพิจารณา​และหาทางเร่งรัดอีกครั้ง​ ซึ่งจะพยายามให้ทันต่อแผนการปฏิรูป​ประเทศ​ 2565​ นี้​แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลาและเป็นไปด้วยความรอบครอบ​ตามข้อจำกัด​

จากนั้นในช่วงบ่าย​คณะได้เดินทางต่อไปยังสำนักงานสภาหอการค้าจ.ลำปาง​พบปะหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับภาคเอกชนของจังหวัด​ ทั้งภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและเครือข่าย​สภาลมหายใจจังหวัดลำปาง
และเครือข่ายลำปางรักษ์เมืองเก่าเพื่อรับฟังข้อมูลปัญหาด้านเศรษฐกิจ​ปากท้องประชาชน​ ที่จะเน้นไปในภาคการเกษตร​และการท่องเที่ยวซึ่งลำปางถือเป็นจังหวัดที่ครบครัน​ในด้านการท่องเที่ยว​ในเชิงการอนุรักษ์​วัฒนธรรม​ดังเดิม​ Smart City​ ที่ต้องได้รับการส่งเสริมและพัฒนา​หลังจากวิกฤติ​โควิด-19

ทั้งนี้ภารกิจสุดท้าย​ของวันนี้คณะ​ กมธ.​ ส.ว.​ ได้ลงพื้นที่​สถานที่ท่องเที่ยวประกอบด้วย พิพิธภัณฑ์บ้านป่องนัก ค่ายสุรศักดิ์มนตรี บ้านหลุยส์ และวัดปงสนุก​ เพื่อติดตามการปฏิรูปประเทศด้านวัฒนธรรม​เยี่ยมชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดลำปางที่มีความเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของประชาชน สังคม​ วัฒนธรรมและเยี่ยมชม วิถีชีวิตของชุมชนท่ามะโอซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่โบราณของเมืองลำปางด้วย​

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"จตุพร" เรียกร้องรัฐบาล รับผิดชอบปมชายแดนไทย-กัมพูชา หลังสูญเสียทหาร-ปชช. "พิชิต" แท็กทีม จี้ "นายกฯอิ๊งค์" พิจารณาตัว คุย "ฮุน เซน" คลิปเสียงหลุด
"ผอ.พยาบาลรามาฯ" โพสต์ประกาศ พร้อมรับลูกนายทหารสละชีพ เรียนพยาบาลโควตาพิเศษ ไม่ต้องสอบเข้า
"ผู้ว่าฯร.ฟ.ท." ยันตรวจสอบชัดเจน ปมเขากระโดง รออธิบดีกรมที่ดินคนใหม่เพิกถอนโฉนด
"รมว.ปุ๋ง" รุดให้กำลังใจผู้อพยพ เหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ศูนย์พักพิงโคราช กำชับเจ้าหน้าที่เพิ่มดูแลกลุ่มเปราะบาง พร้อมช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจ
วธ. จัดพิธีปล่อยขบวนรถศาสนิกสัมพันธ์ร่วมใจ ช่วยผู้ประสบอุทกภัย-ผู้ได้รับผลกระทบ เหตุความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา
"GULF" มอบเงิน 18 ล้าน หนุน รพ.จุฬาฯ จัดหาเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผล ให้สำเร็จเป็นแห่งแรกในอาเซียน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​