"ฝีดาษลิง" (monkeypox) กับโรคไข้ทรพิษ หรือโรคฝีดาษ (Smallpox) แตกต่างกันอย่างไร สาเหตุเหมือนหรือต่างกันหรือไม่ แล้วสามารถป้องกันได้หรือเปล่า
ข่าวที่น่าสนใจ
จากการการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องของโรคนี้ในหลายประเทศ ทำให้หลายคนเริ่มวิตกกังวล โควิดยังไม่ทันหายดี โรคนี้ก็โผล่มาซ้ำอีก ไขข้อสงสัย โรคฝีดาษลิง (Monkeypox) แตกต่างจากไข้ทรพิษ หรือโรคฝีดาษ (Smallpox) ที่เคยระบาดในอดีตอย่างไร สามารถป้องกันได้ไหม มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
“ฝีดาษลิง” (Monkeypox) เกิดจากอะไร
- เกิดจากเชื้อไวรัส Poxviridae จัดอยู่ในจีนัส Orthopoxvirus เช่นเดียวกับไวรัสอีกหลายชนิด ได้แก่ ไวรัสที่ทำให้เกิดฝีดาษในคนหรือไข้ทรพิษ (variola virus) ซึ่งไม่พบเชื้อแล้วในปัจจุบัน
 - พบได้ในสัตว์หลายชนิด โดยเฉพาะสัตว์ตระกูลลิงและสัตว์ฟันแทะ เช่น กระรอก หนูป่า เป็นต้น รวมทั้งคนก็สามารถติดโรคได้
 - เกิดจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยผ่านทางสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจ ผิวหนังที่เป็นตุ่ม หรืออุปกรณ์ที่มีการปนเปื้อนเชื้อ
 - ส่วนใหญ่จะหายจากโรคได้เอง
 - แต่ถ้าผู้ป่วยมีภูมิต้านทานโรคต่ำหรือมีโรคประจำตัว อาจเกิดโรคแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ปอดบวม หรือเสียชีวิตได้
 

ลักษณะอาการป่วย
- จะแสดงอาการหลังจากติดเชื้อไปแล้วประมาณ 12 วัน
 - เริ่มแรกจะมีไข้ ปวดศีรษะ
 - ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลัง
 - ต่อมน้ำเหลืองโต หนาวสั่น อ่อนเพลีย
 - จากนั้นประมาณ 1-3 วัน จะมีผื่นขึ้นบริเวณแขนขา และอาจจะเกิดบนหน้าและลำตัวได้ด้วย
 - ผื่นจะกลายเป็นตุ่มหนอง
 - ในระยะสุดท้ายตุ่มหนองจะเป็นสะเก็ดแล้วหลุดออกมา
 - อาการป่วยจะประมาณ 2-4 สัปดาห์
 
วิธีป้องกัน
- เลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์ป่วยโดยเฉพาะลิง และสัตว์จำพวกฟันแทะ
 - หากพบผู้ป่วย ให้แยกผู้ป่วยที่ติดเชื้อออกจากผู้อื่น
 - เลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรงและสิ่งของของผู้ป่วย รวมถึงลมหายใจของผู้ป่วย
 - หมั่นล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลทำความสะอาดทุกครั้ง หลังสัมผัสสัตว์ หรือสัมผัสสิ่งของสาธารณะ
 - ใช้ผ้าปิดจมูกและปาก เมื่อไปในสถานที่เสี่ยงมีโรคระบาด
 
ไข้ทรพิษ หรือโรคฝีดาษ (Smallpox) เกิดจากอะไร
- เกิดจากเชื้อไวรัส Variolar
 - สามารถติดต่อจากคนสู่คน โดยการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย หรือการหายใจเอาเชื้อไวรัสที่อยู่ในละอองเสมหะ น้ำมูก หรือน้ำลายของผู้ป่วย
 - รวมถึงการสัมผัสกับผื่นหรือตุ่มน้ำของผู้ป่วย โดยไม่มีการป้องกันก็สามารถทำให้ติดเชื้อได้
 - ปัจจุบัน โรคนี้หมดไปจากโลกนี้แล้ว แต่ยังมีการเก็บตัวอย่างเชื้อไว้เพื่อใช้สำหรับการศึกษาเพิ่มเติม จนได้มีการผลิตยารักษาตัวใหม่คือ ยา Tecovirimat (TPOXX) เพื่อรองรับการระบาดในอนาคต
 

ลักษณะอาการ
- จะแสดงอาการหลังติดเชื้อ 7-17 วัน
 - มีไข้สูง
 - รู้สึกไม่สบายตัว หนาวสั่น
 - ปวดศีรษะ
 - อ่อนเพลียอย่างรุนแรง
 - ปวดหลังอย่างรุนแรง
 - อาเจียน
 - มีผื่นสีแดงขึ้นลามไปทั่วทั้งตัว แล้วกลายเป็นตุ่มน้ำและตุ่มหนองตามลำดับ
 - ใช้เวลาอีก 8-9 วันแผลจึงเริ่มตกสะเก็ด แล้วค่อย ๆ หลุด เหลือเพียงแผลเป็นในที่สุด
 - ส่วนช่วงแพร่กระจายเชื้อจะเริ่มตั้งแต่ช่วงที่มีผื่นขึ้น จนกระทั่งสะเก็ดแผลหลุดร่วงไปจนหมด
 - หากผู้ป่วยไม่มีอาการที่รุนแรง หรือภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตราย ก็สามารถหายเป็นปกติได้ในเวลาประมาณ 4 สัปดาห์ และอาจมีเพียงแผลเป็นให้เห็น
 
สรุปความแตกต่างขอทั้ง 2 โรค คือ
- ฝีดาษ ลิง : มีอาการไอ ต่อมน้ำเหลืองโต
 - ไข้ทรพิษ : มีอาการอาเจียน
 
เนื่องจากเชื้อไวรัสทั้ง 2 มีความคล้ายคลึงกัน ฉีดวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษจึงสามารถป้องกันโรคนี้ได้สูงสุดถึง 85%

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
								
															
