“อัยการธนกฤต”ชี้คณะ”หมอปลา” ส่อผิด”อาญาแผ่นดิน”

"อัยการธนกฤต" ชี้คณะ "หมอปลา" ส่อผิด พ.ร.บ.คณะสงฆ์-พ.ร.บ.คอมฯ กระทบความมั่นคงด้านศาสนา เป็นอาญาแผ่นดินยอมความไม่ได้ ตำรวจดำเนินการได้ ไม่ต้องมีผู้เสียหาย

ดร.ธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ปฏิบัติราชการในหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานประสานงานกระบวนการยุติธรรม สถาบันนิติวัชร์ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ให้ความเห็นข้อกฎหมายผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว กรณีหมอปลาและคณะ ที่ประพฤติไม่เหมาะสมต่อหลวงปู่แสง ญาณวโร และคณะสงฆ์วัดป่าดงสว่างธรรม จังหวัดยโสธร ถ้าพิจารณาในข้อกฎหมาย อาจมีความผิดฐานใส่ความคณะสงฆ์อันอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสีย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 มาตรา 44 ตรี ประกอบมาตรา 5 ทวิ ซึ่งเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ยอมความไม่ได้ และไม่จำเป็นต้องมีผู้เสียหายร้องทุกข์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถหยิบยกคดีขึ้นดำเนินการตามกฎหมายด้วยตนเองได้เลย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยการใส่ความคณะสงฆ์ตามมาตรา 44 ตรี นี้ เป็นการทำให้ปรากฏข้อเท็จจริงที่อาจจะเป็นความจริงหรือเป็นความเท็จก็ได้ทั้งนั้น ถ้าทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อคณะสงฆ์ ก็ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายได้ นอกจากนี้ ยังอาจมีความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หรือนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จอีกด้วย

ในประเด็นเรื่องการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จนี้ หากข้อเท็จจริงปรากฏว่าน่าจะทำให้เกิดความเสียหายกระทบต่อความมั่นคงของประเทศทางด้านศาสนา เนื่องจากศาสนาพุทธเป็นศาสนาหลักของประเทศไทยที่ประชาชนไทยส่วนใหญ่นับถือกัน จึงเป็นการสร้างความเสียหายกระทบต่อความเชื่อมั่นศรัทธาในพระพุทธศาสนาแก่ประชาชนในประเทศ และส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางด้านศาสนาของประเทศด้วยแล้ว ก็อาจจะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (2) ฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ซึ่งเป็นความผิดที่ยอมความไม่ได้ ซึ่งจะแตกต่างจากความผิดตามมาตรา 14 (1) ที่เป็นความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จทั่วๆ ไป ซึ่งสามารถยอมความได้ หากเป็นความผิดที่มิได้กระทำต่อประชาชน แต่กระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง

 

ในเรื่องการใส่ความคณะสงฆ์นี้ เคยมีคดีตัวอย่างเกิดขึ้นที่วัดไทยซึ่งเป็นวัดป่าชื่อดังแห่งหนึ่งในต่างแดน โดยมีผู้หญิงรายหนึ่งที่ไปปฏิบัติธรรมที่วัดแห่งนี้ กล่าวหาว่าพระในวัดเข้ามาในห้องนอนของเธอในเวลากลางคืน และเผยแพร่เรื่องราวนี้ไปในโซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อทางวัดสอบสวนเรื่องราวแล้วไม่เป็นความจริง ทางวัดจึงได้ฟ้องผู้หญิงคนนี้ต่อศาลอาญาของประเทศไทย ในความผิดตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 มาตรา 44 ตรี ดังกล่าว และความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ

โดยท่านที่สนใจสามารถศึกษาคดีนี้ได้จากเฟซบุ๊กของคุณอากาศ วสิกชาติ https://www.facebook.com/arkart.vasikachart ที่เป็นทนายความฟ้องคดีนี้ให้กับวัดไทย โดยในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ฝ่ายผู้หญิงได้ยอมรับว่า ไม่ได้เกิดเหตุการณ์ตามที่ตนกล่าวอ้างแต่อย่างใด และยอมรับผิดขอขมาในเรื่องที่เกิดขึ้น ทางวัดจึงถอนฟ้องคดีนี้ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องก่อนที่ศาลจะประทับรับฟ้อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จันทบุรี ไม่เป็นความจริง ! จับสายลับกัมพูชาพร้อมโดรนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ชี้เป้า กองบิน 5 จ.ประจวบคีรีขันธ์
"แม่ทัพภาคที่ 2" สวนกลับ "โฆษกกลาโหม" กัมพูชา ยัน “ช่องอานม้า” เป็นแผ่นดินไทย ซัดเขมรละเมิด MOU43
"สหรัฐ" ร่วมฉลอง "วันชาติโมร็อกโก" ให้คำมั่น ยังพร้อมสนับสนุนอำนาจอธิปไตยของ "โมร็อกโก" บนพื้นที่ซาฮาร่า
"กองทัพไทย" ประณาม “กัมพูชา” ปล่อยทิ้งร่างทหารคาสนามรบ ซัดไร้มนุษยธรรม ละเมิดเกียรติศักดิ์ศรีผู้เสียชีวิต
ผู้ประกอบการตราดกระทบหนัก จี้ ภาครัฐเยียวยา ช่วยเหลือทั้งให้สินเชื่อและชะลอจ่ายสินเชื่อ เพิ่มมาตรการภาษีและขาดแรงงาน
"หมอมิ้ง" ยัน "นายกฯอิ๊งค์" ไม่ลาออก ย้ำเจตนารมย์คุย "ฮุน เซน" ทำเพื่อชาติ มั่นใจปท.ผ่านพ้น 2 วิกฤต

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​