สืบจังหวัดสกัดจับแก๊งเครือข่ายขนแรงงานกัมพูชา 37 คน

ตำรวจชุดสืบจังหวัดสกัดจับแก๊งเครือข่ายขนแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา จำนวน 37 คน และผู้ต้องหาคนไทยอีก 3 ราย พร้อมตรวจยึดรถยนต์ที่ใช้ขนแรงงานและสัมภาระอีก 3 คัน พบแรงงานทั้งหมดนั่งอัดแน่นกันมาในรถเพียง 2 คัน ในพื้นที่ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว 

วันที่ 22 เม.ย.65 ภายหลัง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. และรองผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัวป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) สั่งการและคาดโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจโรงพักตามแนวชายแดนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เข้มงวดปัญหาการลักลอบเข้า-ออกประเทศโดยผิดกฎหมาย โดย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 และ พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว สั่งการให้ พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว ชป.4 (นปพ.) เข้าตรวจสอบพื้นที่จุดล่อแหลมที่มีการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในพื้นที่ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว จำนวน 2 จุด โดยเฉพาะที่บริเวณหลังเซเว่น อีเลฟเว่น ใกล้วงเวียนคลองหาด ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว และบริเวณหน้าวัดไทยเจริญธรรม ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ต่อเนื่องกัน จนสามารถจับกุมกลุ่มเครือข่ายขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาเข้าประเทศไทยได้รวม 37 คน พร้อมผู้นำพาคนไทยอีก 3 ราย และตรวจยึดรถยนต์ที่ใช้ขนแรงงานอีก 3 คน

 

 

จุดแรกบริเวณถนนหลังเซเว่นอีเลฟเว่น วงเวียนคลองหาด ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว ชป.4 (นปพ.) ได้ร่วมกันเข้าจับกุม นายประเวช ต้นกันยา อายุ 43 ปี สัญชาติไทย ที่อยู่บ้านเลขที่ 120 ม.5 ต.ทุ่งคลี อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี และแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา จำนวน 20 คน แบ่งเป็นชาย 18 คน หญิง 2 คน พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์ ยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน  5กด-6338 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน ที่บรรทุกแรงงานอัดมาเต็มคันรถ และโทรศัพท์มือถือยี่ห้ออ๊อฟโป้ สีน้ำเงิน จำนวน 1 เครื่อง ซึ่งผู้ต้องหาใช้ในการสื่อสารและทำธุรกรรมการเงินกับนายตะเลท ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างชาวกัมพูชา ให้นำพาแรงงานต่างด้าวกลุ่มดังกล่าว

 

 

 

 

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหากับ นายประเวชฯ กระทำความผิดในข้อหาว่า ช่วยเหลือ ช่วยซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ ซึ่งบุคคลต่างด้าว ชาวกัมพูชา ที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายให้รอดพ้นจากการจับกุม ,ร่วมกันฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ร่วมกันชุมนุม หรือมั่วสุม ซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกลักษณะ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดแพร่ออกไป ตามพระราชกำหนดการบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2558 ,ส่วนชาวกัมพูชา ผู้ต้องหาที่ 2-21 แจ้งข้อหาว่า เป็นบุคคลต่างด้าวชาวกัมพูชา ที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ร่วมกันฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ร่วมกันชุมนุม หรือมั่วสุม ซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกลักษณะ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตราย หรือโรคระบาดแพร่ออกไป พระราชกำหนดการบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558

 

 

 

 

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว ชป.4 (นปพ.) ได้เข้าตรวจสอบบริเวณหน้าวัดไทยเจริญธรรม ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว และสามารถจับกุม นางจีริสุดา พึ่งทอง อายุ 49 ปี ที่อยู่ 5 ซอยสุขาสงเคราะห์ 3 ถนนสุขาสงเคราะห์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี คนขับรถขนสัมภาระ กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้แชมป์ สีเทา หมายเลขทะเบียน ขธ 4383 ระยอง และ นายถวิล เทียนทิพย์ อายุ 55 ปี ที่อยู่ 185 ม.18 ต.หนองสองห้อง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นผู้บอกเส้นทาง นั่งโดยสารมาในคนขับรถขนสัมภาระฯ พร้อมด้วย แรงงานชาวกัมพูชาอีก จำนวน 17 ราย เป็นชาย 8 ราย หญิง 8 คน และเด็กหญิงอีก 1 คน  โดยสามารถตรวจยึดของกลางเป็นรถยนต์ 2 คัน ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นมิวเซเว่น สีบรอนส์เงิน หมายเลขทะเบียน ชห-5827 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน ซึ่งมีนายเชิท ซาท (MR.CHET SAT) อายุ 34 ปี หนึ่งในแรงงานกัมพูชา เป็นผู้ขับขี่ ขณะตรวจค้นจับกุม ,รถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีโก้แชมป์ สีเทา หมายเลขทะเบียน ขธ 4383 ระยอง จำนวน 1 คัน และโทรศัพทมือถือ 2 เครื่อง ที่ใช้ติดต่อสื่อสารในการนำพาบุคคลต่างด้าว

 

 

 

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้แจ้งข้อกล่าวหากับ นายเชิท ซาท (MR.CHET SAT) อายุ 34 ปี แรงงานกัมพูชา เป็นผู้ขับขี่ฯ ผู้ต้องหาที่ 1 ฐานร่วมกันช่วยเหลือ ช่วยซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ ซึ่งบุคคลต่างด้าวชาวกัมพูชา ที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายให้รอดพ้นจากการจับกุม ,ร่วมกันฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ร่วมกันชุมนุม หรือมั่วสุม ซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกลักษณะ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตราย หรือโรคระบาดแพร่ออกไป ตามพระราชกำหนดการบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 , นางจีริสุดาฯ และ นายถวิล ผู้ต้องหาที่ 2-3 ข้อหาร่วมกันช่วยเหลือ ช่วยซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ ซึ่งบุคคลต่างด้าวชาวกัมพูชาที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายให้รอดพ้นจากการจับกุม ส่วนแรงงานชาวกัมพูชาทั้งหมด ถูกแจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวชาวกัมพูชา ที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ร่วมกันฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ร่วมกันชุมนุม หรือมั่วสุม ซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกลักษณะ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตราย หรือโรคระบาดแพร่ออกไป พระราชกำหนดการบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2558 และเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองหาด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

ยุทธนา พึ่งน้อย ผู้สื่อข่าวTOPNEWS ประจำ จ.สระแก้ว

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ขนส่งนครปฐม จับมือ โตโยต้า เปิดเช็กรถฟรี “หยุดมลพิษ เพื่อชีวิตที่ปลอดภัย”
บก.TOPNEWS ทั่วไทย ภาคกลาง คว้ารางวัลสื่อมวลชนผู้นำเสนอข่าวสร้างสรรค์ดีเด่น
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) เครื่องยนต์สีเขียว AECC โดดเด่นในงานจูไห่ เอเชี่ยนแอร์โชว์ .
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) คู่รักจีนตีลูกแบดมินตัน 6 ลูกพร้อมกันกลางอากาศ
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ชาวบ้านใช้ 'กาน้ำ' แทนลูกเคิร์ลลิงบนพื้นน้ำแข็งที่เหลียวหนิง
รองนายกฯ “พิพัฒน์” ลงพื้นที่ปากพนัง เยี่ยมอดีตนายกเทศมนตรี

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​